งัดไม้ตายโค้งสุดท้าย รทสช.โชว์คลิปพี่ตู่/เพื่อไทยย้ำแลนด์สไลด์/ก.ก.มุ่งทำเนียบฯ

หาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้ายคึกคัก "รทสช." ปล่อยคลิปคุยกับลุง  เปิดใจ "ลุงตู่" เล่าเรื่องลึกแต่ไม่ลับ ขออย่าทำลายประเทศ ลั่นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ในวันเดียว "บิ๊กป้อม" อ้อนชาวภูเก็ต เลือก "พปชร." ยกจังหวัด ลั่นเป็นนายกฯ จะทำให้ทุกนโยบาย "อนุทิน" ไปโคราชช่วยผู้สมัครหาเสียง มั่นใจรักษาแชมป์ได้ "ปชป." เชื่อพลังหญิงสงขลานำชัยได้เก้าอี้แน่ "พท." อัดแคมเปญโค้งสุดท้าย เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที "ก้าวไกล" ประกาศชิงชัยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล "ปิยบุตร" ย้ำ ต้องเลือกกระทรวงสำคัญหากจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใหญ่ประเทศไทย

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 6.29 นาที พร้อมข้อความ “คุยกับลุง” เรื่องลึกแต่ไม่ลับของลุงตู่ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้! ดูไปต้องยิ้มไปแน่นอน ไม่เชื่อคลิกเลย! แล้วอย่าลืมแชร์ความน่ารักของลุงกันเยอะๆ นะครับ

โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นั่งให้สัมภาษณ์แบบสบายๆ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายหัวใจสีเหลือง รองเท้าคัตชูลำลอง ภายในห้องมีโต๊ะที่มีรูปปั้นเซรามิกม้าสีขาวตั้งโชว์ และมีการแนะนำตัวที่มาของชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนเด็กพ่อเป็นทหารอยู่ที่โคราชจังหวัดนครราชสีมา และมีการฝึกซ้อมรบในขนาดนั้นพอดี จึงได้ตั้งชื่อตนว่า ประลองยุทธ์ จากนั้นหมอพระให้ตัดคำว่า ลอง จึงเหลือเพียงประยุทธ์ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมสู้มาตลอดชีวิต

พล.อ.ประยุทธ์ยังเล่าถึงช่วงที่ไปเล่นสงกรานต์ถนนข้าวสารที่มีคนบอกว่าสงกรานต์นายกฯ กราดยิงประชาชนว่า ที่ยิงใส่คือให้สิ่งอันเป็นมงคลใส่ไปกับเขา ตนไม่มีให้ร้ายกับใคร คนรักเราก็มีคนเกลียดเราก็ต้องมี ธรรมดา

"ส่วนวีรกรรมตอนเด็กที่งอนพ่อ เนื่องจากโดนพ่อตี ลงโทษทุกครั้งที่ทำผิด ตอนนั้นไม่กี่ขวบเอง 10 ขวบมั้ง ตอนนั้นโกรธพ่อมาก ขี่จักรยานหนีออกจากบ้าน สุดท้ายไม่รู้ไปไหน ก็ต้องกลับบ้าน แต่ก็ยังมีแม่ ซึ่งเป็นครู ท่านใจดี คอยปลอบใจ ไม่ค่อยดุ พ่อดุที่สุดในบ้าน แต่เราก็มีความทะเล้นตามประสาเด็ก ซึ่งพ่อแม่ก็เป็นห่วง ขณะที่หนังที่ดูก็ดูหลายสิบเรื่อง แต่ดูแล้วค้างไว้ก่อน ดูไม่จบ แล้วก็กลับมาดูใหม่ และซีรีส์เกาหลีก็ดู เรื่องที่เคยโฆษณาให้ เรื่อง Descendants Of The Sun และเรื่อง Crash Landing on you และอีกหลายเรื่อง เพราะดูแล้วรู้สึกสนุก และเราเป็นทหาร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดคุยเรื่องความดุของตนเองว่า เราไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ความจริงต้องเห็นใจเรานิดหนึ่งเหมือนกัน แต่เราเข้าใจ ก็ปรับตัวไปเยอะพอสมควร ตอนนี้ก็พูดเล่นพูดจริงอะไรกับเขาบ้าง นักข่าวก็แฮปปี้อยู่ตอนนี้ พอเราเป็นแบบนี้เขาแหย่ เราไม่ขึ้น  คำถามพวกนั้นหายไปหมด ก็แปลกดี แสดงว่าเขาตั้งใจให้เราโมโห วันนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส นายกฯ จะไปไหนขอไปด้วย ส่วนในเรื่องการชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เชียร์ สมัยก่อนเชียร์ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี โดยมาถึงในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยกับทีมงานอย่างอารมณ์ดี หัวเราะตลอดเวลา และสอบถามว่าเชียร์ทีมฟุตบอลไหนกันบ้าง รวมถึงยังมีคำถามว่า คิดว่าตัวเองเจ้าชู้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ทุกคนก็ไม่ไว้ใจทหารเพราะทหารเจ้าชู้ ส่วนจีบภรรยาอย่างไรนั้น นิสัยตนจะเป็นคนขี้อ้อนเหมือนกัน และพูดตลกให้เขาขำ ตนเป็นคนแบบนี้ แต่ก็ซื่อสัตย์กับภรรยาคนเดียว วันนี้ยังไงภรรยาก็สวยอยู่ทุกวัน ถามว่ารักไหมรักทุกวัน แต่บางทีก็ลืมวันสำคัญ อย่างวันวาเลนไทน์ วันเกิดยังเคยลืมเลย ก็ต้องขอโทษกันแทบตาย เอ๊ะเขาโกรธอะไร เขางอน เราก็ขอโทษนะจ๊ะ ไม่ได้เจตนาจ้ะ ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ไหนพูดสั้นๆ ไง ตนบอกแล้วไงว่าตนพูดสั้นๆ ไม่เป็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนปิดท้ายคลิปมีข้อความระบุว่า โปรดติดตามตู่ต่อไป

บิ๊กตู่ขออย่าทำลาย ปท.

ในส่วนการลงพื้นที่หาเสียง เวลา 13.50 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค  และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่หาเสียงที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีบรรดาแฟนคลับมารอต้อนรับพร้อมมอบดอกไม้และขอถ่ายรูปเซลฟี ซึ่งทันทีที่เดินทางถึง พล.อ.ประยุทธ์ได้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง พร้อมตีระฆัง 9 ครั้ง ซึ่งขณะที่ตีระฆังแฟนคลับได้ตะโกนว่า “เฮงๆ ลุงตู่ชนะเลือกตั้ง ลุงตู่สู้ๆ” ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เดินพบปะประชาชนที่ตลาดพระประแดง โดยกล่าวกับประชาชนว่า “ประเทศชาติต้องไปต่อ”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทั้งนี้ ภายหลังสักการะเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ขอให้ช่วยกัน ให้บ้านเมืองปลอดภัย ฝากทุกคนช่วยกัน ผมสู้คนเดียวไม่ไหว”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า ได้เห็นความเจริญทุกด้านของพระประแดง เพราะนี่คือประเทศไทย ต้องสามัคคีแตกแยกกันอีกไม่ได้ ต้องเป็นครอบครัว ลูกต้องรักพ่อแม่ แม่ต้องรักลูก นี่คือครอบครัว อย่าทำลาย จะต้องเดินหน้าประเทศต่อไป เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ในวันเดียว โดยเฉพาะบนความขัดแย้ง ทุกอย่างต้องเดินหน้าอยู่ในกรอบที่เราทำไว้ บางอย่างแก้ไขได้ บางอย่างเปลี่ยนแปลงได้ แต่บางอย่างมันไม่ได้ต้องรอเวลา ต้องใช้เวลาให้มากที่สุด

"รัฐบาลใดก็ตามที่แยกแยะประชาชน ใช้ไม่ได้ ผมไม่เคยทำ และขอให้ดูด้วยตา ฟังด้วยหูกันบ้าง ด้วยหัวใจของท่านว่าอะไรเกิดขึ้นแล้ว และผมทำอะไรเพื่อใครนาทีเดียวไม่ได้อยู่แล้ว มันพังแน่ทั้งประเทศ ผมฝากไว้แค่นี้ และครอบครัวจะต้องแตกแยกไม่ได้ ผมถามว่าจะเริ่มต้นกันใหม่อีกหรือ ทั้งที่ผ่านมาบนสถานการณ์ด้วยกัน หากมองว่าเราไม่ทำอะไรเลยมันคงไม่ฟื้น ผมรักทุกคนรักจากใจ และไม่เคยโกหก ไม่เคยหาผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ผมจะไม่ทำลายชาติแบบนั้น ย้ำว่าผมไม่ใช่คนพูดโกหก ไม่ใช่ทำเพื่อให้ทุกคนรัก แต่ทุกคนอยู่ในหัวใจผมเสมอ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของพวกเรา และประชาชนคือหัวใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่สำนักงานพรรค รทสช.เขต 7 อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อพบปะผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ กระทั่งเวลา 16.30 น. ไปที่วัดสาขลา อำเภอพระสมุทรเจดีย์ เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อโต และนมัสการพระครูสุนทรพัฒนกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดสาขลา พร้อมสนทนาธรรม โดยเจ้าอาวาสเปิดเผยว่า ได้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์มีสุขภาพแข็งแรง พักผ่อนบ้าง ช่วงนี้เดินสายพบประชาชนเยอะ ขอให้ทำงานใหญ่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด ก่อนสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ห่มผ้าพระปรางค์เอนและเขียนข้อความบนผ้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักทุกคน ให้บ้านเมืองคนไทยทุกคนต้องไปต่อ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวระหว่างนำผ้าห่มพระปรางค์เอนด้วยว่า ประเทศไทยมันต้องอย่างนี้ละ ต้องลากกันไปแบบนี้ มันต้องช่วยกันมันถึงจะไปได้ ต่อจากนั้นได้ปักธงพระเจดีย์ทราย

'ลุงป้อม' อ้อนชาวภูเก็ต

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้เวลาช่วงเที่ยงเดินทางลงพื้นที่เป็นการส่วนตัวที่ตลาดบองมาร์เช่ ทักทายพ่อค้าแม่ค้าประชาชน พร้อมนั่งรับประทานอาหาร บริเวณฟู้ดคอร์ด อาทิ กวยจั๊บร้านคุณต๋อย หมูทอดชาววัง เจ้าเก่าวังหลังศิริราช ก๋วยเตี๋ยวแห้งหมู ข้าวมันไก่ซั้งไห่  โดยระหว่างรับประทานอาหารมีประชาชนและแฟนคลับมาขอถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง บางคนเชียร์ให้ลุงป้อมสู้ๆ แฟนคลับบอกลุงป้อมบอกว่าเลือกพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว พร้อมขอให้ลุงป้อมได้เป็นนายกฯ คนที่ 30

ช่วงเย็น พล.อ.ประวิตรเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยก่อนขึ้นเวทีปราศรัย พล.อ.ประวิตรได้เดินพบปะประชาชนที่ตลาดย่านเมืองเก่า รวมถึงได้เข้าสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในย่านเมืองเก่า โดยมีประชาชนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยทักทาย

เวลา 17.30 น. พล.อ.ประวิตรพร้อมแกนนำขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ภาคใต้ จ. ภูเก็ต ที่โรงยิม 4,000 ที่นั่ง (สะพานหิน) โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่งระบุว่า วันนี้อยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งและความยากจนไปด้วยกัน ขอให้เชื่อมั่นในพรรค พปชร.และผู้สมัครทั้ง 3 คน 3 เขต เมื่อเรามีความรัก ความสามัคคีกันแล้ว เราก็จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นโยบายของพรรคต้องการทำให้ประชาชนมีความสุข

"ขอยืนยันนโยบายของพรรคเราทำได้จริง และทำได้ทันทีที่เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยมีผมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าอยากให้ผมเป็น ก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ บัตรสีเขียว เบอร์ 37" พล.อ.ประวิตรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศเวทีวันนี้มีประชาชนมารอฟังการปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐเต็มความจุของอาคาร โดยมีป้ายไฟ ป้ายเชียร์ให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตรให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จำนวนมาก พร้อมกับมีประชาชนส่งเสียงตะโกนคำว่า "ลุงป้อมสู้ๆ" และ "ขอให้เป็นนายกฯ" ด้วย

ที่โรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา ต.หนองหัวแรต อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ช่วยนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 11 เบอร์ 7 หาเสียง ท่ามกลางประชาชนกว่า 4,000 คน

นายอนุทินกล่าวว่า ที่ผ่านมามีสำนักโพลต่างๆ รายงานผลออกมา ส่วนตัวดูไว้เป็นข้อมูล แต่ที่เชื่อที่สุดคือเชื่อในการทำงานของผู้สมัครพรรค นายพรชัยทำงานดี มีความมุ่งมั่น ตอนที่โควิด-19 ระบาด หรือตอนที่มีปัญหาต่างๆ ท่านโทร.หาผมแทบทุกวัน เพื่อให้ลงไปช่วยแก้ปัญหา ไปทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการให้หน่อย มาถึงวันนี้จากผู้คนที่มาฟังนายพรชัยปราศรัยจำนวนมากมายหลายพันคน สิ่งที่ผมเห็น ผมว่ามันมีความหมายมากกว่าผลโพล เพราะนี่คือคะแนนความนิยมจากชาวบ้านในพื้นที่จริงๆ

นายอนุทินยังได้นำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ การพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท กรมธรรม์ผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นไป การเพิ่มค่าตอบแทน อสม. 2,000 บาท/เดือน การจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งติดตั้งทุกจังหวัด นโยบาย 1 ตำบล 1 ศูนย์ไตเทียม ฟรีติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคา ลดค่าใช้จ่าย 450 บาท/ครัวเรือน และการให้สิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด นโยบายเกษตรร่ำรวย รู้ราคาก่อนขาย เสียหายมีประกัน เป็นต้น

พท.เปิดแคมเปญโค้งท้าย

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีโพลเลือกตั้งที่ออกมาช่วงนี้ว่า พรรคได้รับทราบและรับฟังผลโพลเหล่านั้น แต่ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว ยังเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งอย่างเต็มที่ในช่วงโค้งสุดท้าย และมีความมั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในเขตต่างๆ ที่ได้ทำงานดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดจนเป็นที่รักและได้รับความไว้วางใจ จะสามารถได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในกระแสของโลกโซเชียล หรืออยู่ในพื้นที่นอกเมืองที่การสำรวจของคณะต่างๆ ยังเข้าไปไม่ถึง

"จากที่ได้ไปร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย น.ส.สุภาพร กำเนิดผล หรือน้ำหอม ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 จ.สงขลา หมายเลข 2 ที่ จ.สงขลา ในงานนี้มีผู้สนับสนุนมาฟังการปราศรัยมากถึงกว่า 3,000 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด จึงแสดงให้เห็นว่าการทำงานของ น.ส.สุภาพรที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้หญิงมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้มีผู้ร่วมสนับสนุนเป็นจำนวนมาก และจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างผู้หญิงในพื้นที่ให้เป็นพลังทางสังคมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ด้วยนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเป้าหมายสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการดูแลและส่งเสริมบทบาทพลังหญิงในด้านเศรษฐกิจและสังคม เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยทำให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้รับโอกาสเข้าไปทำงานเพื่อประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร" กรรมการบริหารพรรค ปชป.ระบุ

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการ และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รักษาการโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งปี 2566 เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที

นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคมีความพร้อมสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นเต็ม 100% โดยเน้นการลงพื้นที่พบประชาชนทั่วทุกแห่ง การประชาสัมพันธ์นโยบายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และการร่วมรายการประชันนโยบายในรายการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบนโยบายของพรรคได้มากที่สุด

"ก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นในอีก 9 วันข้างหน้านี้ พรรคจะจัดกิจกรรมเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ที่ลานพาร์คพารากอน เพื่อตอกย้ำถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ความตั้งใจของผู้สมัคร ส.ส. และ 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยที่อาสามารับใช้พี่น้องประชาชน" นายประเสริฐกล่าว 

นายเผ่าภูมิกล่าวว่า ในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง พรรคพร้อมทำประเทศไทยเปลี่ยนทันที โดยในส่วนของด้านเศรษฐกิจประกอบด้วย 7 ฉากใหม่ประเทศไทย คือ 1.ฉากใหม่การลงทุนไทย 2.ฉากใหม่เศรษฐกิจดิจิทัลไทย 3.ฉากใหม่การศึกษาและแรงงานไทย 4.ฉากใหม่คมนาคมไทย 5.ฉากใหม่ท่องเที่ยวไทย 6.ฉากใหม่การเกษตรไทย และ 7.ฉากใหม่ความเท่าเทียม

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวแสดงจุดยืนการเมืองไทยต้องไม่เหมือนปี 62 ประชาชนต้องมีทางออก

นายภูมิธรรมกล่าวถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคว่า ทั้ง 3 คนได้ตกลงกันแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นว่าเรียกร้องต้องการอย่างไร และต้องยอมรับว่าอำนาจหน้าที่นี้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่จะตัดสินขั้นสุดท้ายว่าในสถานการณ์เช่นนี้ และสเปกบุคลากรที่เรามีทั้งหมดใครจะเป็นธงนำ ได้ทั้งหมด  ย้ำว่าทั้ง 3 คนมีภาวะผู้นำ มีวุฒิภาวะพอที่จะทำหน้าที่ต่างๆ ได้ทั้งหมด

ถามว่า สูตรการจัดตั้งรัฐบาลของพรรค พท.จะมีพรรคภูมิใจไทยร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าเราได้ใกล้ 376 เสียง เราก็ไม่เอาพรรคภูมิใจไทยมาร่วมด้วยอยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงทางการเมือง เราต้องมาดูว่าเสียงของเราจะได้แค่ไหน ถ้าประชาชนให้ความสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นอันดับ 1 ก็เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยที่จะจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นสิ่งที่เราพูดได้วันนี้คือเรามุ่งแลนด์สไลด์ และเราเสนอสิ่งต่างๆ เพื่อบอกประชาชนว่า ถ้าเราได้เป็นรัฐบาล ทุกนโยบายที่เราพูดถึงเราจะดำเนินการทันทีตั้งแต่วันแรกที่เราเป็นรัฐบาล เอานโยบายทั้งหมดแถลงต่อสภา

นายชูศักดิ์กล่าวเสริมว่า การจะร่วมรัฐบาลกับใคร เรายึดแนวมาตลอดคือนโยบายที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนไปด้วยกันได้หรือไม่ ตนฟังที่นายอนุทินเคยแถลงทำนองว่าถ้าใครไม่เอา พ.ร.บ.กัญชาฯ ร่วมกันไม่ได้ หากเราไม่ต้องการกัญชาเสรี เราต้องการกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ฉะนั้นหากความคิดนี้ไม่ตรงกัน ก็จะเป็นเงื่อนไขที่จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล วันนี้เราแถลงชัดเจนแล้ว

ก้าวไกลคึกจองกระทรวง

ที่ จ.นนทบุรี พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่ "นนทบุรีตรงไป ก้าวไกลตรงมา" ที่ตลาดนกฮูก นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียง พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายปิยบุตรปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความพร้อมในการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่ใช่เพียงมีแผนงานโรดแมปในการขับเคลื่อนนโยบาย แต่ยังเป็นพรรคของมวลชนที่ไม่ต้องเกรงใจใคร เกรงใจคนเดียวคือประชาชน ถึงเวลาก็สามารถเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นตอได้ทั้ง 300 นโยบายของพรรคก้าวไกลจะเปลี่ยนประเทศไทย  โดยเห็นได้ว่าข้อเสนอการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต เป็นเรื่องยากๆ ทั้งนั้น เพราะต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ กระจายอำนาจปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งเป็นการปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร เอานายพลคนทำรัฐประหารมาเข้าคุก ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปที่ดิน ทลายทุนผูกขาด เรื่องเหล่านี้แม้เป็นเรื่องยาก แต่ไม่ทำไม่ได้ ต้องทำวันนี้ เดี๋ยวนี้

 “จำเป็นที่พรรคก้าวไกลต้องมี ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เลือกกระทรวงสำคัญเพื่อเข้าไปบริหารเรื่องเหล่านี้ ถ้าเราไม่ได้ที่หนึ่ง เราได้ ส.ส.น้อย ไปร่วมกับคนอื่น สวัสดิการพื้นฐานอาจไม่ได้ทำ กระจายอำนาจอาจไม่ได้ทำ ดังนั้นต้องกาก้าวไกลให้ถล่มทลาย” นายปิยบุตรกล่าว

ด้านนายพิธากล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตนมั่นใจกว่าโพลทุกสำนัก คือการได้เห็นประชาชนมารวมตัวกันจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่านนทบุรีแตกแล้ว เมื่อก้าวไกลทั้งแผ่นดินแบบนี้ คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล จึงขอใช้เวทีนี้ประกาศต่อประชาชนว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เรามีทั้งความชัดเจนและความพร้อม กล่าวคือชัดในจุดยืน มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง และพร้อมสร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต มีความตั้งใจแก้ไขปัญหาการเมืองและปัญหาปากท้องไปพร้อมกัน เพราะทั้ง 2 อย่างคือเรื่องเดียวกัน

 “เหลืออีก 10 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้ว ขอสื่อสารไปถึงพรรคก้าวไกลทุกคน ถึงด้อมส้ม ถึงหัวคะแนนธรรมชาติ ว่าอย่าแผ่ว อย่ากะพริบตา และอย่าประมาท เราต้องเร่งและเร่งเท่านั้นเพื่อไปถึงเป้าหมายเส้นชัย ใครสาดโคลนมาเราเช็ดออก เพราะโคลนสาดโคลนไม่ช่วยอะไร ความมืดไล่ความมืดไม่ได้ ความสว่างเท่านั้นที่จะไล่ความมืดได้ เราจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต” พิธากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ทั้ง 33 เขต ปล่อยแคมเปญ 'ถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบ ฟาดเรียบทุกสี่แยก' ด้วยการยืนปราศรัยหาเสียงบริเวณสี่แยกสำคัญๆ ในพื้นที่ในเวลา 07.00 น. โดยพร้อมเพรียงกันทุกเขต ผู้สมัครบางคนใช้โทรโข่งในการสื่อสาร บางคนมาพร้อมเก้าอี้ขนาดย่อมเสมือนเวทีปราศรัยน้อย และบางคนมาพร้อมป้ายหาเสียงเพื่อแนะนำหมายเลข ถือเป็นวิธีการหาเสียงที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกลนำมาใช้จนเป็นที่จดจำของประชาชนในวงกว้าง ว่าสามารถเข้าถึงประชาชนจำนวนมาก โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างคุ้มค่า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง