ปลุกเรียก‘พี่ตู่’จะทำใหม่

พรรคการเมืองหาเสียงคึกคัก “ประยุทธ์” นำทีมลงด้ามขวาน ตอกย้ำทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ก่อนเพิ่มมอตโตจะทำใหม่ พร้อมบอกให้เรียก “พี่ตู่”  แม้ร่างกายเป็นลุงแต่ใจเป็นพี่มีแต่ให้ ปลุกคนใต้ยอมได้หรือไม่คนไม่ไหว้พระ ไม่ไหว้พ่อแม่ ไม่มีศาสนา แขวะบางพรรคทำนโยบายเข้ากระเป๋าตัวเอง “พปชร.” ตอกย้ำให้ความสำคัญเกษตร ภูมิใจไทยเปิดนโยบายเพื่อคนพิการ “เศรษฐา” ปราศรัยดุ อัดทั้ง “บิ๊กตู่-อนุทิน-ปชป.” ไม่สนขันหมาก ภท.บอกต้องรอหลังเลือกตั้ง และต้องไม่เอานโยบายกัญชาเสรี

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 เม.ย. บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ยังคงเดินสายหาเสียงกันอย่างคึกคัก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  ซึ่งลงพื้นที่ภาคใต้เป็นวันที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมแกนนำเดินทางออกจากที่พักขึ้นรถขบวนแห่เพื่อช่วยนายเจือ ราชสีห์ ผู้สมัครเขต 1 สงขลา หาเสียง โดยพรรคใช้รถ 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงสีขาว หมายเลขทะเบียน 64-7565 กรุงเทพมหานคร และเปลี่ยนเป็นรถโตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน ฮ-9552 กรุงเทพมหานคร ในภารกิจระหว่างเดินทาง

โดยตลอดเส้นทางบนรถแห่หาเสียง พล.อ.ประยุทธ์แวะทักทายประชาชนโดยรอบเมือง พร้อมฝากผู้สมัครและพรรค รทสช. ซึ่งระหว่างขบวนแห่ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวภาษาใต้และภาษากลางขอคะแนนเสียงจากชาวสงขลา รวมถึงพูดถึงนโยบายทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และที่จะทำใหม่ ซึ่งระหว่างทางประชาชนยังยื่นสะตอและถุงขนมให้ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย

จากนั้น เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้แวะร้านฮับเซ่ง ดื่มน้ำชา กาแฟ และรับประทานติ่มซำ โดยก่อน พล.อ.ประยุทธ์จิบน้ำชา มีศิลปินวาดภาพเหมือนได้นำรูปวาดเหมือน พล.อ.ประยุทธ์มามอบให้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับบริเวณด้านหน้าของร้าน หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถ่ายรูปกับภาพวาดฝาผนัง ซึ่งเป็นจุดเช็กอินถนนย่านเมืองเก่าสงขลา

ต่อมาเวลา 10.10 น. ที่ลานคนเมืองเทศบาลนครสงขลา ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์มาถึง ได้มีประชาชนมาต้อนรับอย่างเนืองแน่น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ชูมือเบอร์ 22 ขอคะแนนเสียง จากนั้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า คิดถึงจังฮู้ นี่คือประเทศไทยของเราใช่หรือไม่ ประชาชนทุกจังหวัดในประเทศไทยเรามีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน แบ่งแยกไม่ได้ ยืนยันว่าจะทำต่อและทำใหม่  วันนี้ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และทำใหม่ขึ้นไปอีก อยากมีทั้ง 10 หน้าเหลือเกิน บังเอิญไม่ใช่ทศกัณฐ์ มีหน้าเดียว หน้าที่นึกถึงแต่พวกเรา ไม่เคยคำนึงถึงผลประโยชน์แม้แต่บาทเดียว ไม่เคยคิด ไม่เคยได้ ทุกอย่างต้องลงมาในพื้นที่ ลงมาถึงประชาชน เราจะทำต่อ และทำให้ดีที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ยอมหรือไม่ลูกไม่ต้องไหว้พ่อแม่ ไม่ต้องไหว้พระ ไม่ต้องมีศาสนา ทำลายอย่างนั้นไม่ได้ ตนเองเป็นทหาร พูดโกหกไม่ได้หรอก ไม่หลอกใคร หลอกไม่ได้ ทุกอาชีพ ทุกรายได้ หลายๆ อย่างจะดีขึ้น และจะดีต่อไป เพราะกำลังหาเงินเข้าประเทศอยู่ 4 ล้านล้านบาทกำลังจะเข้ามา และถ้าบ้านเมืองไม่เรียบร้อย เงินตรงนี้หายไปกับตา ฉะนั้นอย่าพูด อย่าเลือกคนอื่น นอกจากเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอให้เลือกลุงตู่  ยังไม่แก่เกินไปใช่หรือไม่

‘ประยุทธ์’ บอกให้เรียก ‘พี่ตู่’

 “บางทีหน้าไม่หล่อ แต่ตัวจริงหล่อไหม คราวหลังเรียกพี่ตู่ ใจยังเป็นพี่ตู่อยู่ ถึงกายจะเป็นลุงตู่ แต่ใจเป็นพี่ตู่เสมอ เพราะกำลังใจจากพวกเรา ทุกเสียงทุกคนที่รักประเทศไทยไปพร้อมกับพี่ เพลินดีเหมือนกันเรียกตัวเองว่าพี่ วันนี้เป็นวันแห่งอนาคต ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่ต้องมีกฎกติกา ถ้าล้มกติกาทั้งหมดประเทศนี้ไปไม่ได้ ฝากลูกหลานด้วย ผมไม่หลอกลวง แต่การทำงานต้องค่อยเป็น และทำให้ได้มากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ตนเชื่อมั่นในจิตใจของตัวเอง ไม่เคยทรยศใคร ไม่เคยโกหกใคร หัวใจมีแต่ประชาชน ทุกวันตื่นมาคิดว่าจะทำอะไร และคิดว่าต้องทำต่อให้พวกเราที่มีความหวังต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ทุกคนทุกศาสนาพระเจ้าอวยพร ทุกคนคือคนไทยใช่หรือไม่ ใครเกิดที่เมืองนอกไหม ซึ่งอาจน้อย แต่ส่วนใหญ่เกิดที่เมืองไทยใช่ไหม บนแผ่นดินไทยใช่หรือไม่ จะแบ่งแยกไม่ได้ และที่นี่ก็คือด้ามขวานทอง ถ้าด้ามขวานไม่แข็งแรงจะเอาไว้ทำอะไร จะเอาไว้ทำสากกะเบือหรืออย่างไร ขอโทษที่พูดไม่เพราะ แต่สากกะเบือก็มีประโยชน์หลายอย่างนะ ตำน้ำพริกก็ได้ ตำสามีก็ได้กับพวกเรา ทั้งนี้ วันหน้าต้องดีขึ้นกว่านี้อีก เราทำแบบของเรานี่แหละ จะดีขึ้น มั่นคงและยั่งยืน ไม่ล้มไปอีก ขอให้นึกถึงวันเก่าๆ มันเกิดอะไรขึ้น วันนี้จะต้องไม่ให้เกิดอะไรขึ้นอีก และวันหน้าเราจะร่วมมือกัน ขอความรักให้พี่ตู่เบอร์ 22 ขอเบอร์ 1 ให้พี่เจือ (นายเจือ ราชสีห์) ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรค รทสช. เลือกทั้ง 2 ใบ

ต่อมาเวลา 10.55 น. ที่ตลาดทรัพย์สินฯ คณะ พล.อ.ประยุทธ์เดินตลาดทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน จากนั้นขึ้นปราศรัยบนรถแห่ช่วงหนึ่งว่า  อย่าลืมเลือกเบอร์ 1 เจือ ราชสีห์ มาอยู่กับตู่ ราชเสือ เสือกับสิงห์ต้องไปด้วยกัน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินตลาดนัดวันอาทิตย์ ท่ามกลางประชาชนที่สนใจเข้ามาขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น พร้อมเรียกพี่ตู่ๆ ทำให้บรรยากาศในตลาดเป็นไปอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์พบร้านขายกระจับ ซึ่งคนขายได้แนะนำกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่ากระจับ พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบกลับในทันทีว่ารู้จักอยู่ มันลอยน้ำอยู่เหรอ ก่อนที่จะหยิบแห้ว แล้วถามแม่ค้าว่านี่คืออะไร เมื่อแม่ค้าบอกว่าแห้ว พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับรีบโยนลงพร้อมระบุว่า “นี่แห้วหรือ อย่าจับ” พร้อมกับนำมือมาป้องที่ปากแล้วกล่าวว่า “เขาห้ามจับ” เรียกเสียงหัวเราะจากประชาชนที่มายืนรอให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์อยู่

ซัดพวกเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง

ต่อมาที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงโรงเรียนบ้านเขาพระ เพื่อช่วยนายปรีชา สุขเกษม ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 5 พรรค รทสช. หาเสียง โดยทันทีที่เดินทางถึง ชาว อ.รัตภูมิส่งเสียงเชียร์ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อน พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นปราศรัยพร้อมกล่าวว่า สิ่งแรกคือขอให้ทุกคนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเราคือคนไทย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หัวขวานหรือด้ามขวาน ทุกคนคือคนไทย มีความสำคัญ และสิ่งสำคัญต้องมีหลักการเหตุผล ถ้าเลือกพวกเราเข้ามา เรามีหลายรุ่น เพื่อประกอบเป็นรวมไทยสร้างชาติ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของเรา ไม่ใช่มาดูถูกเป็นเศรษฐกิจรากหญ้า การช่วยเหลือประชาชน รัฐต้องมีเงินกระเป๋าซ้าย เพื่อไปดูแลคนในกระเป๋าขวา แต่บางคนไม่เอาเข้ากระเป๋าขวา กลับเอาไปเข้ากระเป๋าตัวเอง ยืนยันพรรค รทสช.และตนเองไม่ทำ เพราะเราซื่อสัตย์ต่อตนเอง ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ซื่อสัตย์ต่อตำแหน่ง และซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกมา

“ผมไม่เคยเกลียดใคร ไม่ว่าใครจะด่า จะเกลียด ไม่เคยโกรธ เพราะสิ่งที่ใครทำดีก็จะสนองตอบคนนั้น การขอพรพระขอให้กับประชาชนประเทศชาติตลอด ส่วนตัวและครอบครัวไว้ทีหลัง แผ่นดินผืนนี้เรียกว่าประเทศไทย จะอยู่ด้ามขวานหัวขวานก็เหมือนกัน เราอยู่หัวขวาน กลางขวานลงมาด้านล่าง ฉะนั้นถ้าเราไม่รักกัน แล้วขวานจะไปทำอะไรได้ จะไปตัดต้นไม้หรือจะไปฟันอะไรได้ จะกลายเป็นหัวขวานที่เป็นสนิมกินใจ กินประเทศ กินอะไรต่างๆ เยอะแยะไปหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ขอถามว่าที่ผ่านมาใครเป็นนายกฯ และใครเป็นรัฐบาล ใช่พี่ตู่คนนี้ไหม ที่ทำให้ทุกอย่างให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้น ถ้าเราจะอยู่ด้วยตัวเองทั้งหมดมันจะไปไม่ได้ ต้องเอาต่างชาติเอาการลงทุนเข้ามาเยอะๆ วันนี้ทุกคนต้องร่วมกันรัก สามัคคีกัน แล้ววันหน้าคือการจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้เหลือเพียงอย่างเดียวใครจะมาเป็นรัฐบาล นั่นคือสิ่งสำคัญ ฉะนั้นสิ่งที่พี่ทำแล้วยังไม่พอใจก็ขอเวลา ให้พี่ทำอีกสักหน่อย หลายคนบอกว่าพี่ทำมาแล้ว 8 ปีไม่เห็นจะทำอะไรเลย นั่นก็แสดงว่าเวลาเดินทางไปไหนมาไหน ขับรถขึ้นเรือหลับตาตลอด ไม่มองหรือไม่เห็น ก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นถนนใหม่หรือไม่ เห็นรถไฟหรือไม่ แล้ววันหน้าก็จะเชื่อมไปมาเลเซียอีก ถ้าสถานการณ์มันสงบเรียบร้อย และคิดว่าปัญหาภาคใต้จะแก้ให้ได้ภายใน 1-2 ปี หรือเร็วที่สุดด้วยความร่วมมือจากเราและมาเลเซีย ซึ่งมีแผนงานอยู่แล้ว

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงภาคใต้ของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าบรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก สัมผัสได้ถึงกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ และกระแสตอบรับพรรค รทสช.ในพื้นที่ภาคใต้

“คนจะเป็นผู้นำของประเทศก็เริ่มโกหกแล้ว แล้วพี่น้องจะไว้ใจได้หรือ เพราะฉะนั้นไม่ว่านโยบายอะไรก็อย่าไปเชื่อเด็ดขาด เพราะเริ่มต้นก็โกหกประชาชนแล้ว ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ต้องอยู่กับข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าพอเป็นแคนดิเดตนายกฯ บอกเคยได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติปี 2549 ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย คนใต้เราไม่ชอบคนโกหก เพราะฉะนั้นพี่น้องต้องเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เพราะไม่เคยโกหกใคร” นายธนกรกล่าว

ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก FC ลุงป้อม โพสต์คลิปวิดีโอขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่อยู่ในช่วงลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.นครศรีธรรมราช ใช้เวลาระหว่างพักวิดีโอคอลพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนเเก่น ซึ่งนักศึกษาได้ทักทายพร้อมให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตรในการหาเสียงเลือกตั้ง ให้เตรียมตัวเพื่อเป็นนายกฯ คนที่ 30 ขณะที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่า จะไปขอนแก่นในวันที่ 30 เม.ย. จะเจอกันหรือเปล่า ซึ่งนักศึกษาต่างพร้อมใจกันตอบว่าจะมาต้อนรับ พล.อ.ประวิตรแน่นอน

พปชร.ให้ความสำคัญเกษตรกร

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค  พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรให้ความสำคัญกับเกษตรกร จึงออกนโยบายเฉพาะเพื่อเกษตรกรชาวไร่ชาวนา ทั้งนโยบายเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกร ครัวเรือนละ 30,000 บาท, นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐจะช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และนโยบายเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา อัตราไร่ละ 2,000 บาท จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาทต่อราย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรค พปชร. ระบุว่า จากการลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับตัวแทนเกษตรกรปาล์มน้ำมันจากหลายจังหวัด พรรคจะยกระดับราคาน้ำมันปาล์มในระยะยาวด้วยการเพิ่มมูลค่า โดยการผลิตให้เป็นน้ำมันอากาศยาน โดยราคาปาล์มน้ำมันจะต้องไม่ต่ำกว่ากิโลละ 6 บาท

นายสนธิรัตน์ยังกล่าวถึงการปราศรัยเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งถูกมองว่าเหมือนเป็นการท้าชนพรรคการเมือง 3 พรรคที่เคยร่วมเป็นรัฐบาลด้วยกันมาว่า ไม่ได้ท้าชน แต่ชี้ให้เห็นว่าพรรคที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากที่สุดคือพรรค พปชร. พูดโดยหลักการทางการเมือง ไม่ได้หยามใครเลย เป็นความรู้สึกว่าเราคือพรรคที่มีความพร้อม และนั่นคือนโยบายของพรรคที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยตําแหน่งทางการเมืองที่พร้อมจะร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ และมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

ส่วนนายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค พปชร. และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรค ได้ลงพื้นที่ตลาดสดพัฒนาการ เขตประเวศ และชุมชนทับช้างคลองบน ค่ายมวยไชยา บ้านช่างไทย เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ร่วมกับ น.ส.แพรว กิจสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 21 (ประเวศ-สะพานสูง) หมายเลข 2 เพื่อพบปะประชาชน โดยนายสกลธีกล่าวว่า มวยเป็น Soft Power ที่มีพลังของไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะมวยไชยา ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ  หากได้รับการส่งเสริมที่ถูกต้องก็จะสร้างรายได้ให้ชุมชนได้มากขึ้นไปอีก จึงอยากจะขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่อย่าง น.ส.แพรว หมายเลข 2 เข้ามาช่วยทำงานนี้ เพราะเป็นคนพื้นที่ตั้งแต่เกิด

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมคณะเปิดเวทีเสวนา “นโยบายการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต และสิทธิของคนพิการ” โดย น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรค ภท. กล่าวว่า การเสวนามีผลเป็นรูปธรรม เช่น เรื่องที่พรรคจะดำเนินการเพิ่มอัตราการจ้างงานคนพิการในภาครัฐ 10,000 อัตรา และเสนอให้คนพิการสามารถกู้เงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เป็นเงินกู้รายบุคคล 60,000 บาท และรายกลุ่ม 2,000,000 บาท

ที่ จ.มหาสารคาม นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจับมือกับพรรค พท. และอยากให้ลืมเรื่องราวในอดีตระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะครูใหญ่พรรค ภท. ว่าส่วนตัวไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรกัน วันนี้มีหน้าที่เดินหน้าหาเสียง พยายามทำคะแนนให้ได้มากที่สุด ถึงเวลาผลเลือกตั้งออกมาค่อยว่ากัน ส่วนจะจับมือกับพรรคไหนนั้น นโยบายของพรรค พท.ต้องเป็นหลัก และยืนยันว่าพรรค พท.ไม่เอานโยบายกัญชาเสรีเด็ดขาด เอาเพื่อการแพทย์เท่านั้น

ถามอีกว่า การส่งสัญญาณของนายอนุทินถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า การเป็นเพื่อนกันมันดีอยู่แล้ว วันนี้ไม่ใช่เรื่องของสัญญาณ แต่เป็นเรื่องของหลักการมากกว่าว่าจะร่วมกันได้หรือไม่ ส่วนกรณีที่มีภาพนายอนุทินเคยนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับ พล.อ.ประวิตร ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่คิดอะไรมาก

เศรษฐาปราศรัยอัดแหลก

ต่อมาที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย นายเศรษฐาปราศรัยว่า สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ราคาข้าวสูงมาก สูงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน พี่น้องอยากให้ราคาข้าวกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ นอกเหนือจากราคาข้าว ปัญหาความยากจนและรายได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรามีนโยบายพักต้นพักดอกให้เกษตรกร 3 ปี เราจะเติมเงินให้ 2 หมื่นบาทสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทใน 4 ปี ปีหน้าขึ้นทันที 400 บาท นอกจากนี้ยังมีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ทำพรรคคู่แข่งดิ้น ออกมาบอกว่าทำไม่ได้บ้าง ผิดกฎหมายบ้าง อย่าไปเชื่อ เราทำได้แน่นอน เงินจะเข้าสู่ระบบหลายหมื่นล้าน ไม่ต้องไปรอรัฐบาลที่ไร้หัวใจ บัตรคนจนเราไม่ยกเลิก แต่เมื่อพรรค พท.มา พี่น้องจะมีแต่ความร่ำรวย ไม่ต้องพึ่งบัตรคนจน เก็บบัตรคนจนไว้เป็นที่ระลึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้ท่านไว้เพื่อเรียกพวกท่านว่าคนจน

 “ยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องกัญชาเสรี อำเภอนี้ติดกับ จ.บุรีรัมย์ซึ่งเป็นต้นตอของการทำกัญชาเสรี พรรคภูมิใจไทยบอกจะทำให้พี่น้องร่ำรวย ผมเป็นนักธุรกิจมากว่า 30 ปี เข้าใจคนทำธุรกิจ สมัยก่อนกัญชาราคาดีเพราะเขาไม่ให้ปลูก แต่เมื่อปลูกเสรีราคาจะตก ใครขายก็ไม่ร่ำรวย ดังนั้นอย่าให้ใครมามอมเมา ทำให้พี่น้องเดือดร้อน”

ในเวลา 14.40 น. พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยนายเศรษฐาปราศรัยอีกครั้งว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้สนใจเอาใจใส่พี่น้องเลยใช่ไหม ค่าครองชีพแพง ค่าไฟแพง เขาเป็นรัฐบาลมานานหลายปี ถ้าเขาอยากช่วยลดค่าไฟ แค่ประชุม ครม.ครั้งเดียวตัดสินใจได้เลย แต่ก็ไม่ทำ แล้วมาบอกให้เลือกเขาแล้วจะมาแก้ แบบนี้เชื่อได้ไหม ดังนั้นอย่าไปเชื่อ

“ทุกนโยบายของเราโดนใจพี่น้อง นโยบายใหญ่ของเราคือกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เข้ากระเป๋าพี่น้องทุกคนทันทีสำหรับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป บัตรคนจนจะหายไปทันที แต่ขอให้พี่น้องเก็บไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์แจกบัตรคนจนเพื่อกดให้จนแล้วค่อยแจก เราไม่เอาแล้วกับรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชน ส่วนเรื่องยาเสพติดระบาดไปทั่วทุกหัวระแหง รัฐบาลทหารคุยโม้โอ้อวดว่าจะนำมาซึ่งความมั่นคง แต่ถ้าลูกหลานติดยาจะมีความมั่นคงได้อย่างไร พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้” นายเศรษฐากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯอิ๊งค์' มอบคำขวัญวันเด็ก ปี 68 'ทุกโอกาสคือการเรียนรู้'

'นายกฯอิ๊งค์' มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 68 ‘ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง‘ ยันรัฐบาลเห็นคุณค่าเด็กทุกคน มีสิทธิ์ทำให้ประเทศนี้น่าอยู่