แข่งหั่นค่าไฟ-น้ำมัน พปชร.ลดเบนซิน-ดีเซล ปชป.รื้อพลังงานเลิกFT

ดาวพฤหัสฯ ย้าย "บิ๊กตู่"  เข้าวัดไตรมิตรฯ ร่วมทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ "ลุงป้อม" สักการะหลวงพ่อโสธร ก่อนนำทีม พปชร.ปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ประกาศเป็นรัฐบาลลดราคาเบนซินเหลือลิตรละ 18 บาท ดีเซลลดลิตรละ 6.30 บาท แก๊สเหลือ 250 บาทต่อถัง พร้อมเปิด จม.ฉบับที่ 9 ชี้ตั้งรัฐบาลกับใครยึดมติพรรคและดูเงื่อนไขเฉพาะหน้า "ปชป." ชูรื้อโครงสร้างราคาพลังงานลดรายจ่ายคนไทย  "พท." อ้อนชาวขอนแก่น "เศรษฐา" ลั่นล้างบางยาเสพติดให้เหี้ยน

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 เม.ย.เวลา 09.39 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในวันนี้ไม่มีวาระการประชุมอย่างเป็นทางการ 

จากนั้นเวลา 17.33 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เนื่องจากในวันเดียวกันนี้ ดาวพฤหัสบดีย้าย ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดโดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) ที่พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรีสวมเสื้อผ้าไหมสีขาว เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวทะเบียน ญค 1881 จากนั้นได้เข้าห้องรับรองเพื่อเตรียมร่วมพิธีในเวลาประมาณ 18.30 น.

มีรายงานว่า ในวันที่ 20 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะลงพื้นที่หาเสียงที่เยาวราช พร้อมด้วยแกนนำพรรคและผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในช่วงบ่ายถึงช่วงเย็น ต่อด้วยในวันที่ 21 เม.ย. เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นประธานในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาและพิธีบวงสรวงสังเวยตามพิธีพราหมณ์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาองค์พระหลักเมืองประจำปี 2566 ก่อนลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งวันที่ 23 เม.ย. ลงพื้นที่หาเสียงและไหว้พระที่จังหวัดพิษณุโลก และสัปดาห์ต่อไปจะลงหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยต่อในพื้นที่ภาคใต้ และปิดท้ายเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรุงเทพฯ ในวันที่ 12 พ.ค. 

ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง พรรค รทสช.จะมีการปรับกลยุทธ์ โดยจะเปิดแคมเปญและนโยบายใหม่ควบคู่กับการปล่อยคลิปนโยบายสั้นๆ ผ่านทางโซเชียล และจะมีการจัดเวทีปราศรัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ในจังหวัดใหญ่ๆ พร้อมกับเน้นกลยุทธ์ให้พล.อ.ประยุทธ์เดินหาเสียงในตลาดชุมชนต่างๆ และขึ้นรถแห่ด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับกำหนดการปราศรัยและลงพื้นที่หาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีไปจนถึงก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน ซึ่งขณะนี้ทางพรรคได้เคาะกำหนดการทั้งหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค รทสช.ยิงคลิป “มือยาว” โชว์วิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของพรรค “มือยาว” แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นของนโยบายเศรษฐกิจของพรรคที่เน้นการหารายได้จากการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อนำมาสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงาน ยกระดับรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย แตกต่างจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคอื่นๆ ที่ล้วงกระเป๋าซ้ายไปจ่ายกระเป๋าขวา คือ ใช้เงินภาษี หรือเกลี่ยงบประมาณที่มีจำกัดอยู่แล้ว ไปทำโครงการซึ่งพรรคหาเสียงไว้

ทั้งนี้ “มือยาว” เป็นคลิปแรกในชุดทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ และเตรียมจะปล่อยคลิปต่อไปคือ “แคชเลสโซซ้ายตี้” และ “รถบรรทุก” ภายใต้สโลแกน “หาเงินได้ ใช้เงินเป็น”

นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค รทสช. รับผิดชอบภาคอีสาน กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ว่าป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานถูกทำลายเกือบทุกพื้นที่ ล่าสุดในวันเดียวกันนี้ ที่จังหวัดอุบลราชธานี เขตเลือกตั้งเดียวป้ายถูกทำลายกว่า 200 ป้าย โดยเฉพาะป้ายที่มีรูปหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ถูกทำลายแบบตั้งใจจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้สมัคร เพราะ 1 ป้าย ต้องใช้เงินหลายร้อยบาท ทำให้ผู้สมัครเดือดร้อน ดังนั้นจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้

"จะเรียกร้องผ่าน กกต.คงไม่มีกำลัง จึงขอแจ้งไปยังตำรวจในพื้นที่ อย่านิ่งเฉย ผมได้เน้นย้ำแล้ว เขตเลือกตั้งใดถ้ามีการทำลายป้ายแบบผิดปกติ ผู้สมัครทุกคนต้องไปร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนในสถานีที่เกิดเหตุ และขอส่งสัญญาณไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย ถ้าไม่มีความคืบหน้าจากตำรวจในสัปดาห์หน้า ผมจะรวบรวมใบแจ้งความในแต่ละเขตเลือกตั้ง เพื่อนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์โดยตรง" นายวิทยากล่าว

พปชร.ชูลดเบนซิน-ดีเซล

ขณะที่เวลา 16.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้นำผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้บริหารพรรค เดินทางมาวัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อโสธร โดยพล.อ.ประวิตรได้วางพวงมาลัยและสวดคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ก่อนที่จะใช้เวลาในการขอพรนานมาก จากนั้นพล.อ.ประวิตรได้เข้ากราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้วันดี ดาวพฤหัสฯ ย้าย มาไหว้พระขอพรอะไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอพรให้ฉันดีก็แล้วกัน ให้ฉันปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง เมื่อถามว่าได้ขอพรให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะเห็นพาผู้สมัครมาด้วย พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถาม และเดินทางไปเวทีปราศรัยทันที

จากนั้นเวลา 18.00 น. พรรค พปชร.จัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา บริเวณลานวัดสมานรัตนาราม อ.เมืองฯ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยประมาณ 12,000 คน ขณะที่แกนนำพรรค พปชร. เดินทางมาร่วมหลายคน ทั้ง พล.อ.ประวิตร, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะดูแลรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออก, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง

พล.อ.ประวิตรขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า อยากสื่อสารให้พี่น้องทราบว่าที่ผ่านมาประเทศพัฒนาได้ยาก  พปชร.จึงนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินให้เหลือลิตรละ 18 บาท น้ำมันดีเซลลดลิตรละ 6.30 บาท ซึ่งจะทำทันทีที่ พปชร.ได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญคือลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พปชร.จะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น  

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตรได้โพสต์เฟซบุ๊กจดหมายฉบับที่ 9 เรื่องจะ “จัดตั้งรัฐบาล” อย่างไร ตอนหนึ่งระบุว่า ดูจะยังเป็นประเด็นสับสน เกิดการพูดต่อๆ กันไปมากว่าพลังประชารัฐคิดอย่างไรกับการจัดตั้งรัฐบาล การเมืองไทยตอนนี้มีความซับซ้อนครับ ผมจะค่อยๆ อธิบายให้ฟัง ว่าเกิดอะไรขึ้น และผมคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรจะทำอย่างไร

พล.อ.ประวิตรระบุว่า ที่ว่าการเมืองไทยขณะนี้ซับซ้อน เพราะมีหลายปัจจัยที่นำมาใช้กำหนดความเป็นไปของอำนาจทางการเมืองในทุกเรื่อง ตรงนี้มาพูดกันเฉพาะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล จะจัดตั้งกันอย่างไร ต้องเริ่มจากผลการเลือกตั้ง มาดูกันว่าประชาชนเลือกพรรคไหนมาเท่าไร แต่ละพรรคมี ส.ส.ได้รับเลือกเข้ามากี่คน เห็นตัวเลขแต่ละพรรคแล้ววางไว้ก่อน มาสู่ขั้นตอน เปิดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 คน และได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา อันหมายถึง ส.ส.และ ส.ว.รวมกันไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง คือประมาณ 376 คน ขั้นตอนการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นขั้นตอนที่เป็นทางการขั้นตอนแรก

'ป้อม' ลั่นตั้ง รบ.ดูเงื่อนไข

หัวหน้าพรรค พปชร.ระบุว่า หลังจากนั้นจึงมีการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการหาความตกลงร่วมกันว่าพรรคไหนจะร่วมกับพรรคไหน ในวิถีที่ควรจะเป็น คือจะต้องรวมกันแล้วมีเสียง ส.ส.อย่างน้อยมมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร คือเกินกว่า 250 เสียง ต้องพยายามหาทางให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากที่สุด คือเสียง ส.ส.ร่วมสนับสนุนมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น หากได้รับโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ได้ แต่คงไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนอยากให้เป็นรัฐบาลแบบนี้ ขั้นตอนอย่างเป็นทางการเริ่มต้นอย่างนั้น ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน แต่ในทางปฏิบัติจริงมีประเด็นที่ต้องมาพิจารณาซับซ้อนกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความชอบธรรมของพรรคการเมือง ที่ได้ ส.ส.มากที่สุด ต้องมีสิทธิเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก่อน พรรคการเมืองต่างๆ จะแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายกันอย่างไร ร่วมกับใครแล้วได้รับการตอบสนองข้อเสนอดีกว่า

"ใครคือผู้กุมอำนาจที่แท้จริง ระหว่างอำนาจของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง กับอำนาจที่ซ่อนอยู่ในกลไกตามรัฐธรรมนูญ อันไหนมีอิทธิพล หรือสามารถกำหนดการจัดตั้งรัฐบาลได้มากกว่า และอื่นๆ อีกมากมาย หลายเรื่องที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจเป็นเงื่อนไขที่ยังไม่เกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ คนที่มีประสบการณ์การเมืองจะรู้ว่าในการจัดตั้งรัฐบาลทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนมีเรื่องราวที่แปรเปลี่ยนไป ไม่เคยเป็นไปอย่างที่ประกาศไว้ในช่วงหาเสียงทั้งนั้น มีข้อมูลที่จะพูดถึงการปรับเปลี่ยนของพรรคเพื่อเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และประชาชนมากที่สุดเสมอ" หัวหน้าพรรค พปชร.ระบุ

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตรได้ยกตัวอย่างการการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2562 ผู้นำพรรคการเมืองหลายพรรคประกาศตัวไว้อย่างหนึ่ง แต่พอถึงการจัดตั้งรัฐบาลจริง ต้องเข้าร่วมด้วยเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง เช่น พรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศไม่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่พอถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมโดยหัวหน้าพรรคคนใหม่ แค่ให้คุณอภิสิทธิ์ลาออกไป โดยมีประโยชน์ของประชาชนมากมายมาใช้อ้าง รวมทั้งได้ยกตัวอย่างกรณีนายอนุทิน รวมทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ประกาศไม่รับตำแหน่ง สุดท้ายก็มาเป็น รมว.อุตสาหกรรม โดยบอกไม่ใช่เรื่องผิด นี่คือความปกติของการเมืองไทย

"การเมืองไทยทุกเรื่องจึงขึ้นอยู่กับการเจรจาตามเงื่อนไขเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเรื่องสำคัญระดับจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร จะร่วมรัฐบาลกับใคร จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรอขั้นตอนที่เหมาะสม การตัดสินใจประกาศว่าจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นที่รู้กันว่านั่นเป็นแค่การหาเสียง ที่เป็นจริงคือการเจรจาด้วยเหตุผลเฉพาะหน้า ทุกคนในพรรคต้องร่วมกันประเมินอย่างรอบคอบ แล้วดำเนินการตามที่เรียกว่ามติพรรค การบริหารการตัดสินใจของพรรคการเมือง ต้องเป็นในนามมติพรรค ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งจะมาทุบโต๊ะว่าพรรคต้องจัดการอย่างนั้นอย่างนี้" พล.อ.ประวิตรระบุ

ช่วงท้าย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ดังนั้นคำถามตอบว่าพรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาลแบบไหน อย่างไร จะร่วมกับใคร พรรคไหน จึงเป็นเรื่องที่ต้องรอให้ตามขั้นตอนที่เหมาะสม ด้วยเงื่อนไขเฉพาะหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับการเจรจาอย่างรอบคอบ และต้องเป็นไปในนามมติพรรค ไม่ใช่เรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมาประกาศตัดสิน จะไม่เป็นเช่นนั้น หากจะมีความเด็ดขาดแน่นอนก็คือ พลังประชารัฐจะตัดสินใจทุกเรื่อง ทุกอย่างด้วยเหตุผล ต้องร่วมกันก้าวข้ามความขัดแย้ง

พท.ลั่นล้างยาเสพติด

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทีมเศรษฐกิจพรรค นำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.การคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์, นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย และประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์, ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ รมต.เศรษฐกิจอาเซียน แถลงข่าววาระประเทศไทย ครั้งที่ 2 “ปชป.ชูรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ลดรายจ่ายคนไทย”

นายเกียรติกล่าวว่า พรรคมีมาตรการที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนที่มีความเป็นไปได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศ โดยปัจจุบันปัญหาเรื่องพลังงานแยกออกเป็น 4 หมวดคือ ก๊าซหุงต้ม ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และไฟฟ้า ซึ่งหากได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จะรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อลดรายจ่ายให้คนไทยอย่างถาวร

 “พรรคจะยกเลิกค่า FT หลายประเทศส่วนใหญ่ไม่มีค่า FT เพราะมันมีวิธีที่ดีกว่า ไม่ต้องให้ใครก็แล้วแต่มากำหนดราคาค่าไฟ และตอนนี้ FT เป็นการคิดประเมินโดยมองไปในอนาคต 4 เดือน โดยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน ต้นทุนเชื้อเพลิงค่าไฟจากเอกชน ประเทศเพื่อนบ้าน สมมติฐานผิดก็ค่าไฟผิด ทำให้คนเดือดร้อน ค่าไฟเราแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำไมไม่ให้ราคาไฟฟ้าตรงกับต้นทุนจริง เราสามารถใช้ตัวเลขย้อนหลัง 4 เดือน แล้วจะทำระบบกองทุนไว้สำหรับความผันผวนได้” นายเกียรติกล่าว

ในส่วนเรื่องน้ำมัน พรรคจะกำหนดค่าการกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ 1 บาทต่อลิตร ซึ่งที่ผ่านมาค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจะทบทวนโครงสร้างราคาและภาษีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรม จะทบทวนเงินเข้ากองทุน ทบทวนการคำนวณต้นทุนน้ำมันที่อ้างอิงราคามันสำปะหลังและปาล์มน้ำมัน ต้องไม่ลืมว่าทุก 1 บาทต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรบริษัทน้ำมันสูงขึ้นกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี ไม่เป็นธรรมกับประชาชน สำหรับก๊าซธรรมชาติจะมีการเฉลี่ยต้นทุนระหว่างนำเข้ากับแหล่งในประเทศให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรม

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมด้วย น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค พร้อมคณะ เดินทางไปขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้นายธนากร เลี้ยงฤทัย ผู้สมัครส.ส.เขต 4 หมายเลข 4 ที่บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เช่นเดียวกับที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแล กทม. พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ลงพื้นที่หาเสียงสนับสนุนให้ นายชยิน พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ส. กทม เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ หมายเลข 7

พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายธาม สมุทรานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ เบอร์ 8 และนายกอบกฤต สุขสถิตย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตห้วยขวาง เบอร์ 13 ณ ตลาดลาดพร้าว  87 โดยนายกรณ์กล่าวว่า ประชาชนสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่าค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกครัวเรือน

พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค, นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ แถลงถึงกรณีประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ราคาค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า พรรคขอตั้งข้อสังเกตว่าค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น เป็นความตั้งใจบริหารเพื่อให้ประโยชน์กับใครคนใดคนหนึ่งหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลปี 2565 พบว่ามีค่าความพร้อมจ่าย ที่ต้องจ่ายให้กับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่โยนมาให้ประชาชนเป็นผู้รับผิดชอบ ผ่านบิลค่าไฟในแต่ละเดือน จึงขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาล เหตุใดจึงต้องบริหารงานในลักษณะของการผลักภาระมาให้ประชาชน

ที่ลานตลาดนัดน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่นพรรคพท.ทั้ง 11 เขต โดยนายเศรษฐาปราศรัยตอนหนึ่งว่า นายกฯ นั่งอยู่แต่ทำเนียบฯ ไม่เคยออกไปเปิดตลาดใหม่ ยืนยันแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนของพรรค ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ เราจะออกไปเปิดตลาด เอาสินค้าของพี่น้องไปจำหน่ายต่างประเทศ เราคิดใหญ่ ทำเป็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปราศรัยเสร็จสิ้น มีชาวบ้านเดินขึ้นมาบนเวทีมอบกระติบข้าวเหนียว ปลาร้าบอง เนื้อแดดเดียว กล้วยน้ำว้าและถั่วฝักยาวให้ ซึ่งนายเศรษฐาได้ไหว้ขอบคุณ   

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีที่มีการเน้นย้ำเรื่องปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานว่า หากพรรคได้เข้ามา จะปราบปรามด้านยาเสพติดทั้งหมด และเป็นเรื่องที่มีหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นคนที่จะผลักดันตรงนี้ได้คือนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เราจะนั่งเป็นประธานหัวโต๊ะในการบริหารจัดการเรื่องยาเสพติดให้หมดไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณเสือกทุกเรื่อง ฟุ้งกลับมาช่วยปชช.ลืมตาอ้าปาก/ไม่ครอบงำมีแต่อิ๊งค์สั่งพ่อ

เสื้อแดงแห่ต้อนรับ "ทักษิณ" ลงอุดรฯ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เพื่อไทยหาเสียงครั้งแรกในรอบ 18 ปี