เกษตรกรเฮลั่น! รัฐทุ่ม1.4แสนล. ประกันข้าว-ยาง

เกษตรกรเฮ! ครม.จัดหนักทุ่มงบ 1.41 แสนล้าน อนุมัติ 54,972.72 ล้าน แจกชาวนาไร่ละพันบาท ไฟเขียวประกันรายได้ข้าวเพิ่ม 76,080 ล้าน ยางล็อต 3 อีก 10,065 ล้าน นายกฯ สั่งคลังลดงบประกันรายได้ไม่ให้ขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ ว่า ครม.มีมติอนุมัติกรอบวงเงินรวมทั้งสิ้น 54,972.72 ล้านบาท สำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดหาแหล่งเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการ

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2564 มีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าว แบ่งเป็นงบประมาณจ่ายขาดให้เกษตรกรวงเงิน 53,871.84 ล้านบาท ค่าชดเชยต้นทุนเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อัตราร้อยละ 2 วงเงิน 1,077.44 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการของ ธ.ก.ส. รายละ 5 บาทเป็นวงเงิน 23.44 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรประมาณ 4.69 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ จะได้รับการช่วยเหลือในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท โดยระยะเวลาจ่ายเงินตั้งแต่เดือน ก.ย. 2564-เม.ย.2565 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จากสถานการณ์ต่างๆ เช่น ภัยแล้ง โรคระบาด รวมทั้งสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า​ ครม.ยังมีมติอนุมัติวงเงินรวม 76,080.95 ล้านบาท ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 เพิ่มเติม โดยแบ่งเป็นวงเงินจ่ายชดเชยให้เกษตรกรจำนวน 74,569.31 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย ธ.ก.ส. จำนวน 1,511.64 ล้านบาท ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานบอร์ด นบข. ต้องการเห็นพี่น้องเกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายข้าวเปลือกในราคาที่เหมาะสม ป้องกันความเสี่ยงในการจำหน่ายผลผลิต และช่วยเกษตรกรในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ ครม.มีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 วงเงินรวม 10,065.69 ล้านบาท โดยเป็นการประกันรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและเกษตรกรที่แจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทยภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 จำนวน 1,880,458 ราย โดยพื้นที่สวนยางกรีดได้ 19.16 ล้านไร่ และประกันรายได้ในระหว่างตุลาคม 2564-มีนาคม 2565

หลักเกณฑ์และข้อกำหนดโครงการ ดังนี้ เป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่, ผลผลิตยางแห้ง จำนวน 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน รายละไม่เกิน 25 ไร่, ผลผลิตยางก้อนถ้วย จำนวน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน รายละไม่เกิน 25 ไร่, กำหนดเงินค่าประกันรายได้ โดยราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม, แบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของส่วนร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ งบประมาณ 10,065.69 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณสำหรับประกันประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง 9,783.61 ล้านบาท งบประมาณสำหรับชดเชยต้นทุนเงินธนาคาร ภายในวงเงินไม่เกิน 195.68 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและค่าธรรมเนียมโอนเงิน ธ.ก.ส. ให้เกษตรกรชาวสวนยาง 5 บาทต่อราย จำนวน 9.4 ล้านบาท และงบบริหารโครงการจำนวน 77 ล้านบาท

นายธนกร​กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางในกรณีที่ราคายางตกต่ำในช่วงวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ซึ่งชาวสวนยางจะได้เงินส่วนต่างของรายได้ที่ควรได้รับ ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้สม่ำเสมออย่างทั่วถึง นับเป็นมาตรการทางอ้อม ที่นำมาใช้แทนการแทรกแซงราคายาง เพื่อลดการบิดเบือนกลไกตลาดในอนาคต ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติยังได้หารือและเห็นชอบหลักการในการดำเนินมาตรการคู่ขนานอื่น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางและผู้ประกอบกิจการยาง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกำหนดแหล่งที่มาของงบประมาณให้มีความชัดเจน เหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก่อนดำเนินการต่อไป

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ระหว่างการประชุม ครม. มีการพิจารณาการประกันรายได้พืชผลการเกษตร 5 ชนิด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้งบประมาณของจากโครงการสูงมาก จึงสั่งให้กระทรวงการคลังไปดูและปรับลดวงเงินงบประมาณ เพื่อไม่ให้ขัดมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ

ในช่วงเช้า ก่อนการประชุม ครม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี​ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับเงินประกันรายได้ข้าว​ ได้จ่ายให้ชาวนาแล้ว 2 งวด เป็นเงินประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท​ ส่วนที่เหลืออีก 31 งวดก่อนหน้านี้ยังไม่ได้จ่ายไป เพราะต้องรอขยับเพดานหนี้รัฐบาล ซึ่งเพิ่งดำเนินการไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย. โดยในส่วนเงินส่วนต่างที่เหลือ 7.6 หมื่นล้านบาท หากผ่าน ครม.จะเร่งจ่าย รวมถึงเงินช่วยปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน จะมีการจ่ายให้เกษตรกรต่อไป ส่วนเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยาง 1 หมื่นล้านบาทนั้น แต่ขณะนี้ราคายางสูงกว่ารายได้ที่ประกัน​ จึงไม่ต้องจ่ายส่วนต่างเพียงเป็นการเตรียมวงเงินไว้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' ฝากการบ้านคมนาคมตรวจเข้มสภาพรถบัสทั่วประเทศ!

'ธนกร' ฝากคมนาคมตรวจเข้ม สภาพรถบัสทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุไฟไหม้ ชี้ทัศนศึกษาเป็นเรื่องดี แต่ต้องแก้ตรงจุดตรวจสภาพรถ-คนขับให้ดี ปลอดภัยที่สุด เสียใจกับครอบครัวผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต