“ธปท.” ลุ้นจีดีพีปี 64 โตสูงกว่า 0.7% หลังแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว อานิสงส์คลายล็อกโควิด เร่งฉีดวัคซีน-มาตรการรัฐหนุนเต็มสูบ จับตา “โอไมครอน” คาดกระทบ ศก.ปีนี้ไม่มาก นายกฯ ถกหามาตรการใหม่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แย้มมีข่าวดีเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. ยังประเมินว่าแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2564 จะยังขยายตัวได้ตามคาดการณ์ที่ 0.7% หรือมากกว่าเล็กน้อย หลังจากที่จีดีพีในไตรมาส 3/2564 ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ภาพผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนต่อเศรษฐกิจ ณ วันนี้ยังไม่ชัดเจน แต่เบื้องต้นมองว่ากว่าที่โอไมครอนจะเห็นผล หรือมีผลกับเศรษฐกิจในปีนี้คงไม่เยอะมาก อาจจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนขึ้นในปีหน้า ซึ่งทั้งหมดยังต้องการเวลาในการพิจารณาก่อน โดยเบื้องต้นคาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไป น่าจะเห็นภาพดังกล่าวที่ชัดเจนขึ้น
“ในแง่ผลกระทบจากการระบาดของโอไมครอน อย่างแรกคงต้องดูว่ามีความรุนแรงมากน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาอย่างไร และหากมีการแพร่กระจาย อาจจะไม่ใช่เรื่องของการแพร่ระบาด แต่เป็นเรื่องมาตรการที่จะเข้ามาดูแล ซึ่งหลายๆ ฝ่ายคงจับตามองพัฒนาการของเรื่องนี้ โดยยังต้องขอเวลาในการประเมินภาพให้ชัดเจนก่อน แต่ยอมรับว่าเป็นประเด็นที่ ธปท. จับตาดูอยู่” นางสาวชญาวดีกล่าว
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.2564 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด และการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้าต่อเนื่อง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมรายได้ครัวเรือนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทยอยฟื้นตัว ประกอบกับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่ช่วยพยุงกำลังซื้อของครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้า ขยายตัวที่ 1.3% ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า ส่งผลให้การส่งออกปรับเพิ่มขึ้นในหลายหมวด โดยเฉพาะยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมัน
นางสาวชญาวดีกล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มทยอยปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการและสถานการณ์การระบาดในประเทศที่ดีขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน ต.ค.2564 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 1.6 แสนคน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยเป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อนที่ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ประกาศใช้ล่าช้า และการเบิกจ่ายในปีนี้ของหน่วยงานภาครัฐที่ทำได้ค่อนข้างดี
นอกจากนี้ เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนชะลอลงจากที่เร่งตัวในเดือนก่อนหน้า โดยติดลบ 1.2% แต่ภาพรวมยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ทั้งฝั่งการผลิตและบริการ ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 2.38% ตามราคาผักที่ผลผลิตได้รับผลกระทบชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม และราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเป็นสำคัญ สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.21% ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง แม้ว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นบ้างตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น โดยยังคงเป็นผลต่อเนื่องจากการเปิดประเทศและสถานการณ์โควิด-19ที่คลี่คลาย ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น
อย่างไรก็ดี ในเดือน พ.ย.2564 ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัว และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ รวมถึงปัญหาซัพพลาย ดิสรัปชัน ทั้งการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และตู้คอนเทนเนอร์ สถานการณ์ราคาพลังงานและวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เชิญนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมหารือแนวทางดึงดูดนักลงทุนต่างชาติสร้างเศรษฐกิจใหม่ในด้านต่างๆ รวมถึงด้านดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) การสนับสนุน Startup และการสนับสนุนการท่องเที่ยว ทั้งหมดเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อพลิกโฉมประเทศไทย ตนมั่นใจว่านักลงทุนต่างชาติจะให้ความสนใจกับมาตรการใหม่ๆ ของไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยอีกไม่นานจะมีข่าวดีมาแจ้งให้ทราบกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"