แลนด์สไลด์ไม่มีจริง โพลชี้พท.ได้160ที่นั่ง/‘บิ๊กตู่’โผล่เล่นน้ำครั้งแรกในรอบ15ปี

ซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจเลือกตั้ง ส.ส. ชี้ชัดแลนด์สไลด์ไม่มีจริง!   คาดเพื่อไทยยังกวาดเก้าอี้สูงสุด แต่ได้ผู้แทนฯ ทั้ง 2 ระบบแค่ 160 ที่นั่ง “ภูมิใจไทย” ตามติดอันดับสองได้ 121 เก้าอี้ อึ้ง! ก้าวไกลหล่นวูบมาอยู่ที่หกเหลือแค่ 22 เก้าอี้ “บิ๊กตู่” เดินสายมูไหว้พระ 3 วัด ก่อนโผล่มาเล่นน้ำสงกรานต์ที่ตรอกข้าวสาร ลั่นยังฟิตและใจสู้ ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้มา 8 ปี ส่วน “เศรษฐา” ลงประจวบฯ ไม่กล้าฟันธงพรรคจะแลนด์สไลด์

เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เม.ย.2566 สำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้เผยผลการศึกษาเรื่อง โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 3 : ข้อมูลใหม่แลนด์สไลด์? กรณีศึกษาประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไปใน 400 เขตเลือกตั้ง และผลการประมาณการจำนวน 100 ที่นั่งผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง  53,094,778 คนทั่วประเทศ จำนวน 6,073 ตัวอย่าง

โดยผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือ 61.4% ตั้งใจจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ หรือประมาณการได้ว่าจะมีผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ประมาณ 32,600,194 คน หรือกว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศ และมี 38.6% ไม่ไปหรือประมาณ 20 ล้านคนที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้

ที่น่าสนใจคือ ผลการศึกษาประมาณการจำนวน 500 ที่นั่ง และค่าร้อยละของจำนวนที่นั่ง ส.ส.แต่ละพรรคการเมืองจำนวนต่ำสุดถึงสูงสุดของแต่ละพรรคการเมือง จำแนกทั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนี้ ได้แก่ พรรคเพื่อไทย (พท.) จะได้ผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส.เขตเลือกตั้งจำนวน 133 ที่นั่ง หรือ 33.3% ของจำนวนที่นั่ง ส.ส.เขตเลือกตั้ง 400 ที่นั่ง และคาดว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 27 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรค พท.จะได้ 160 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 135 ที่นั่ง และค่าสูงสุดอยู่ที่ 185 ที่นั่ง 

ขณะที่พรรคการเมืองที่จะได้ ส.ส.อันดับที่สอง ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะได้ผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส.เขต 101 ที่นั่ง หรือ 25.3% และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรค ภท.จะได้ 121 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 96 ที่นั่งและค่าสูงสุดอยู่ที่ 146 ที่นั่ง พรรคการเมืองที่คาดว่าจะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. อันดับที่สาม ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะได้ ส.ส.เขต 53 ที่นั่ง หรือ 13.3% และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 11 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรค พปชร.ได้ 64 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 39 ที่นั่ง และค่าสูงสุดที่ 89 ที่นั่ง

อันดับที่สี่ ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะได้ ส.ส.เขต  44 ที่นั่ง และคาดว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรค ปชป.ได้ 52 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 27 ที่นั่ง และค่าสูงสุดที่ 77 ที่นั่ง, อันดับที่ห้า ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะได้ ส.ส.เขต 35 ที่นั่ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรค รทสช.จะได้ 43 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 18 ที่นั่ง และค่าสูงสุดที่ 68 ที่นั่ง

ที่น่าพิจารณาคือ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ ส.ส.เขตเลือกตั้งเป็นอันดับที่หก คือได้ 10 ที่นั่ง แต่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้อันดับสามคือได้ 12 ที่นั่ง รวมแล้ว พรรค ก.ก.ได้ 22 ที่นั่ง โดยจะได้จำนวนที่นั่งสูงสุดที่ 47 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคอื่นๆ จะได้ ส.ส.เขตเลือกตั้ง 24 ที่นั่ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 14 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรคอื่นๆ จะได้รวม 38 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 13 ที่นั่ง และค่าสูงสุดอยู่ที่ 63 ที่นั่ง 

 “ข้อมูลใหม่ในผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริงกับพรรคการเมืองใดๆ ในภาพรวมทั้งประเทศ แต่อาจเกิดได้เป็นรายพื้นที่บางแห่ง เช่น ภาคใต้ที่ยังคงพบว่าพรรค ปชป.มีร่องรอยของแลนด์สไลด์ที่อาจได้ยกจังหวัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในฝั่งอ่าวไทย ในขณะที่พรรค ภท.จะกระจายแทรกอยู่ในภาคต่างๆ ในลักษณะที่เกือบแลนด์สไลด์ แต่พรรค พท.จะมีภาพค่อนข้างชัดเจนในแลนด์สไลด์ในภาคอีสานตอนบนและภาคเหนือ แต่จะมีพรรค ภท.ได้ในอีสานตอนล่าง โดยมีพรรค พปชร.เด่นในโคราชและอีสานล่างเช่นกัน เช่น ปราจีนบุรี สระแก้ว เป็นต้น แต่ภาคกลางจะเป็นลักษณะผสมผสานกันของพรรคการเมืองต่างๆ ในพื้นที่” ซูเปอร์โพลระบุ

‘ประยุทธ์’ปรับลุกส์เข้าเทศกาล

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวในการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ โดยช่วงเช้า ที่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร เขตคลองสาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 ของพรรค สวมเสื้อผ้ามัดย้อมลายสีขาวฟ้า ด้านในเป็นเสื้อยืดสีน้ำเงิน โลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาทำบุญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และแกนนำพรรคร่วมคณะ

โดยทันทีที่มาถึงก็มีประชาชนมารดน้ำดำหัวขอพร พร้อมมอบพวงมาลัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ตามประเพณีไทย และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ช่วงหนึ่งได้มีประชาชนเข้ามาชมว่ารองเท้าผ้าใบของ พล.อ.ประยุทธ์ดูทะมัดทะแมงดี ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ใส่สบาย ลูกสาวเป็นคนซื้อให้

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้สักการะสมเด็จพระสิทธารถพุทธเจ้า หรือหลวงพ่อสมปราถนา และไหว้พระปรางค์สามยอด ก่อนสรงน้ำพระพุทธรูป และได้สักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่า รักชาติ บ้านเมือง ขอให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็น และประชาชนมีความสุข ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย ขอให้ช่วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวกับผู้มาปฏิบัติธรรมที่วัดว่า นี่แหละคือประเทศไทยของเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วันนี้ถือว่าทุกคนมารักษาศีล นอกจากทำให้ตัวเอง ให้ครอบครัว ก็ช่วยกันเพื่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ด้วย นั่นคือสิ่งที่นายกฯ ยึดมั่นมาตลอด ซึ่งตนก็ทำหน้าที่ ทั้งนี้ การอธิษฐานนอกจากให้ตนเองแล้ว อย่าลืมอธิษฐานให้คนอื่นด้วย ซึ่งทั้งหมดคือกุศล วันนี้เรามาทำบุญร่วมกัน การทำกุศลคือเผื่อแผ่แบ่งปันให้คนอื่นมีความรู้สึกดีๆ ให้ คิดว่าบรรยากาศทุกอย่างก็จะดีขึ้น วันนี้ดีใจ ขอให้ทุกคนสมปรารถนาในสิ่งที่ทุกคนตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติธรรมในวันนี้ เราจะได้มีกุศลสั่งสมไปเรื่อยๆ ทั้งชาตินี้ชาติหน้า จะมีหรือเปล่าก็แล้วแต่ แต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกันเพื่อบ้านเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวอีกว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เราจะรู้ว่าความทุกข์เกิดจากอะไร หาให้เจอ และหาวิธีการแก้ไขให้ดีถูกต้อง ประเทศชาติบ้านเมืองก็เหมือนกัน ส่วนการทำความดีสิ่งสำคัญคือการทำความดีจากหัวใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีทุกคน ใครไม่มีหัวใจไม่ได้ ฉะนั้นหัวใจมีไว้หลายอย่าง ไว้รักตัวเอง รักคนอื่น และรักสถาบันชาติ ศาสนา หัวใจดวงเดียว นี่คือพลังของเรา อะไรจะสำเร็จ จะบริสุทธิ์ อะไรจะเกิดขึ้นก็ด้วยเรากำหนดใจของเราอย่างที่ทางศาสนาสอนไว้ ตนก็พออ่านอยู่บ้าง ขอฝากอุทิศส่วนกุศลด้วย ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี และประเทศไทยมีความก้าวหน้า และความก้าวหน้าทุกอย่างจะต้องมีความมั่นคงและยั่งยืน ถ้าทำอะไรผลีผลามจะล้มทั้งหมด เพราะประเทศชาติมีโครงสร้างหลายโครงสร้างด้วยกัน ต้องให้ความสำคัญทุกโครงสร้าง ไม่ว่าจะความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม

"อย่าลืมเลข มีเลข 1 ถึงเลข 10 ตอนนี้พื้นที่นี้ขอให้จำเลข 7 ไว้ ตรงนี้พูดได้หรือเปล่า ถ้านึกถึงผมก็เกิน 20 ไปหน่อย ถ้ารักกัน 22 มีแค่ 2 เบอร์กาให้ถูก ถ้ารักกันก็ต้องช่วยกัน ประเทศไทยเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่ของนายกฯ คนเดียว ไม่ใช่นายกฯ ต้องทำคนเดียว ประชาชนต้องทำกับนายกฯ ด้วยจึงจะสำเร็จแน่นอน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

หลังนายกฯ พบปะผู้ปฏิบัติธรรม ทางแม่ชีได้กล่าวตักเตือนผู้ปฏิบัติธรรมที่สวมชุดขาวทั้งหมดให้สำรวม เพราะอยู่ในการปฏิบัติธรรม ไม่เหมาะที่จะไปแตะตัวนายกฯ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนขึ้นรถเดินทางไปวัดต่อไปว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข ประสบความสำเร็จ ทั้งการงานและครอบครัว เวลาขอพรขอให้คนอื่นเยอะๆ บุญกุศลจะกลับมาที่ตัวเองหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างพบประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ทำท่า y2k และทำท่ากากบาทเบอร์ 22

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมายังวัดที่ 2 คือ วัดหงส์รัตนรามราชวรวิหาร และเข้ากราบนมัสการพระเทพปริยัติมุนี (มีชัย วีรปัญโญ) หรือเจ้าคุณมีชัย เจ้าอาวาสวัด โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าภายใน

‘ลุงตู่’ลั่นสมองยังดีอยู่

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ได้อธิษฐานขอพรให้ประเทศชาติและประชาชน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และครอบครัวมีความสุข ความปลอดภัย ประสบความสำเร็จในการทำงาน หากทำสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชน ก็ขอให้สำเร็จๆๆๆ ขอให้ทุกคนทำเรื่องเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงของการเลือกตั้ง แต่คิดว่าการทำความดีทำได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งใจ ทั้งจิต  บริหารจิตใจตัวเองให้ดีแล้วกัน พยายามควบคุมตรงนี้มาโดยตลอด สวดมนต์ก็พยายามสวดให้มาก และสวดมนต์มาหลายปีแล้ว เพราะบวชมาแล้ว 4 ครั้ง

“ฉันยังไม่แก่มากขนาดนั้น ยังทำประโยชน์ได้พอสมควร สมองยังดีอยู่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ต่อมาเวลา 12.22 น. คณะของ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระราชาคณะของวัดนี้ 3 องค์ ได้แก่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี), สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสรีวงศ์) และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ อิศรางกูร) ภายหลังสักการะ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ตีระฆังภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนที่เดินทางมาทำบุญขอถ่ายรูปและส่งเสียงเชียร์ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่อยู่ยาว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินต่อมายังตลาดวังหลัง โดยมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์แวะดื่มกาแฟโบราณ โดยกล่าวว่า กลิ่นหอมทนไม่ไหว จากนั้นได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าประชาชนในตลาด โดยกล่าวกับประชาชนช่วงหนึ่งด้วยว่า มาเยี่ยมเยือน ไม่ได้มาหวังอะไรทั้งสิ้น และในโอกาสปีใหม่ไทยก็ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ พรใดที่ให้มาก็ขอให้กลับไปร้อยเท่าพันทวี

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ถนนตรอกข้าวสาร พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ โดยเป็นการเดินทางมาแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์มาถึง ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยการเล่นน้ำสงกรานต์ภายในถนนข้าวสาร ทั้งนี้ ประชาชนที่เล่นน้ำอยู่แล้ว พอรู้ว่าเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้ามาทักทายและพร้อมใจกันสาดน้ำและส่งเสียงเรียกลุงตู่ตลอดทาง

โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้เจ้าหน้าที่ซื้อปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่มาเพื่อร่วมฉีดน้ำเล่นสงกรานต์กับประชาชน ซึ่งตลอดทาง พล.อ.ประยุทธ์เล่นน้ำกับประชาชนอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ ระหว่างเล่นสาดน้ำสงกรานต์ได้เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติถามว่านี่คือนายกรัฐมนตรีของไทยจริงหรือ พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพทันที

ทั้งนี้ ในการเล่นน้ำทีมงานได้ขอร้องว่าอย่าฉีดน้ำไปที่หน้า พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ห้ามไปอยู่ จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เปียกไปทั้งตัว พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เคยมาตรอกข้าวสารมา 15 ปี สมัยเป็นทหารก็ไม่เคยมา แต่ตอนนี้มาแล้วรู้สึกสดชื่น มันเป็นผลงานที่เร่งเปิดประเทศ เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยว และการมาในวันนี้ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินมาขึ้นรถยนต์ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชวนผู้สื่อข่าววิ่งเพื่อโชว์ความฟิตก่อนเดินทางกลับอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเข้ารดน้ำขอพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ซึ่ง พล.อ.ประวิตรให้พรอย่างไรบ้างว่า สื่ออยากรู้ทุกเรื่อง ก็อวยพรให้ประสบความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรง และเรื่องการเมืองไม่อยากพูดมาก

ใจไม่สู้ไม่อยู่มา 8 ปี

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่บางพรรคมีนโยบายหาเสียงแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 112 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แล้วพวกเราคิดว่าอย่างไร ต้องถามสื่อว่าควรหรือไม่ ขอให้สื่อพูดดังๆ สื่อทั้งหมด เห็นควรหรือไม่ที่จะให้แก้ ถ้าไม่เห็นด้วยก็พูดดังๆ มันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่เวลา คนทั้งแผ่นดินเขาเทิดทูน จะทำไปเพื่ออะไร

เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ติดอันดับคนอยากประแป้งมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข จะไปเยี่ยมพ่อแม่เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ขอให้มีการมีงานทำเหมือนเดิมและดีกว่าเดิม  นโยบายของพรรคจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อให้ดีขึ้น

ถามด้วยว่า เพลงลุงตู่อยู่ไหนติดหูคนเยอะมาก ท่อนสองแต่งเองใช่หรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เหรอ” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ร้องเพลงลุงตู่อยู่ไหนอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า วันนี้นอกเวลาราชการใช่หรือไม่ ถ้าเลือกลุงตู่ก็จะได้ลุงตู่

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นรถยนต์ โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเข่าเจ็บใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าไม่แข็งแรงก็กลับบ้านไป ถ้าอ่อนแอก็กลับบ้านไป แช่งฉันทุกวันเลยเหรอ ประชาชนฉันไปเยี่ยมทุกวันทุกคืนอยู่แล้ว และสวดมนต์ให้ ทำอะไรก็นึกถึง การที่ไปเยี่ยมทุกจังหวัด แม้ไม่ได้ไป แต่ก็ไปด้วยถนนหนทางและรถไฟรางคู่ นี่คือไปเยี่ยมแล้ว เป็นการไปเยี่ยมแทนผลงานที่ปรากฏ และทุกคนก็เห็นว่านี่แหละใครเป็นคนทำ แล้วจะทำต่อหรือไม่ล่ะ”

เมื่อถามอีกว่า ยังแข็งแรงอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ชูกำปั้นพร้อมกล่าวว่า “ใช่ ยังแข็งแรงอยู่ ทำไมแช่งทุกวันเลยหรือ แข็งแรงและอารมณ์ดีด้วย

เมื่อถามด้วยว่าใจสู้หรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ถ้าใจไม่สู้จะอยู่มา 8 ปีหรือ”

นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา อวยพรปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ ตอนหนึ่งว่า การหาเสียงเลือกตั้งในช่วงนี้เหลือเวลาอยู่ประมาณเกือบ 1 เดือน ก่อนจะเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้  แน่นอนที่สุดว่าทุกพรรคการเมืองก็ทุ่มเทเวลาไปกับการหาเสียง ก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตาม และสิ่งที่จะขอร้องคือ พี่น้องจะเลือกผู้ใดก็ตาม ขอได้โปรดอย่าให้อำนาจของเงินเข้ามามีอิทธิพลเหนือกว่าการตัดสินของเรา เพราะระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นไม่ใช่หมายถึงว่าเราเลือกตั้งจบแล้วจบกัน ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงก็คือการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม เราถึงจะได้คนดี

“ถ้าเราเลือกคนที่ซื้อเสียง คนที่ทุจริต คนที่โกงเลือกตั้ง ในที่สุดเราก็จะได้รัฐบาลที่มาจากระบบทุจริต รัฐบาลนั้นก็ต้องหาผลประโยชน์ก็คือทุจริต บ้านเมืองก็จะมีผลเสียหาย ระบอบประชาธิปไตยเราจะไปสู่ความสำเร็จ ก้าวหน้า ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชนเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยได้ใช้สิทธิ์โดยชอบธรรม ก็ขออวยพรให้พี่น้องตัดสินใจยึดถือว่าประเทศจะรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต ความสุจริตจะเกิดขึ้นโดยพื้นฐานคือประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ นับตั้งแต่นาทีแรกของการเลือกผู้แทนฯ ที่มาด้วยความสุจริต”

ส่วนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ โดยช่วงเช้า แวะรับประทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ ก่อนเดินตลาดเช้าหัวหิน อำเภอหัวหิน เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว พร้อมแวะซื้อหมูปิ้งลุงแก โดยนายเศรษฐาได้ทักทายกับคุณลุงเจ้าของร้านหมูปิ้งอย่างคุ้นเคย ซึ่งทันทีที่นายเศรษฐาทักว่า “คุณลุงเป็นอย่างไรบ้าง” ลุงก็ตอบกลับมาทันทีว่า “คุณเศรษฐา ขอให้คุณเศรษฐาโชคดี ได้เป็นนายกฯ” ซึ่งนายเศรษฐาระบุว่า “นี่ร้านประจำผมครับ” พร้อมเอื้อมมือเข้าไปปิ้งหมูปิ้งด้วยตัวเอง

เศรษฐาไม่กล้าฟันธงแลนด์สไลด์

สำหรับบรรยากาศการเดินตลาดเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีพ่อค้าแม่ค้ามอบดอกไม้ให้นายเศรษฐาเพื่อให้กำลังใจ ขณะที่พี่น้องประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ทักทายและขอถ่ายภาพกับนายเศรษฐาตลอดทาง จากนั้นนายเศรษฐาและคณะเดินตลาดปราณบุรี สี่แยกปราณบุรี

เมื่อถามว่า ขณะนี้เหลือ 30 วันก่อนวันเลือกตั้ง มั่นใจเรื่องเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 เสียงแค่ไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่อยากคาดเดา เราเดินหน้าเผยแพร่นโยบายของเรา เรามีความมั่นใจทุกนโยบายที่เราสื่อสารออกไป เราทำเต็มที่

ต่อมาช่วงเย็น นายเศรษฐาได้ใช้เวลากับเพื่อนๆ และครอบครัว โดยได้เตะฟุตบอลชายหาด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน โดยนายเศรษฐาได้ชวนนักท่องเที่ยวที่มาทำกิจกรรมบริเวณชายหาดร่วมเตะฟุตบอลด้วยกัน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยตอบรับทำให้บรรยากาศคึกคักและเป็นกันเอง ขณะที่ ภรรยาและลูกสาวของนายเศรษฐาได้มายืนเชียร์ติดขอบสนาม และร่วมลุ้นทุกครั้งที่นายเศรษฐาจะได้ทำประตู จากนั้นนายเศรษฐาได้พาครอบครัวเดินเล่นออกกำลังกายในช่วงเย็นบริเวณชายหาดหน้าที่พักใน อ.หัวหิน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค พท. พร้อมแกนนำ ลงพื้นที่วัดบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เพื่อปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรค และเดินทางต่อไปที่ศูนย์การเรียนรู้เทิดไทฟาร์ม อำเภอศรีสำโรง เพื่อปราศรัยอีกรอบหนึ่ง โดยระบุว่า วันนี้เรามารวมพลังกันรักษาเก้าอี้ ส.ส.เดิม ทวงคืน ส.ส.เก่า และสร้าง ส.ส.ใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง