พปชร.ยังไม่ปิดประตูจับมือพท.

"บิ๊กป้อม" หน้าหงาย  "เศรษฐา" ลั่นหากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ไม่จับมือกับใคร พปชร.ตามตื๊อต่อ "ธรรมรักษ์" ไม่มีกั๊ก บอกยังไม่ปิดประตูตายที่จะจับมือกับ พท. ย้ำไปได้ทุกขั้ว  นโยบายไปกันได้ก็จับมือกันได้ เป็นไปได้หมด "รทสช." เผยหลังสงกรานต์ "ลุงตู่" ออนทัวร์หาเสียงทั่วประเทศ เจอกันแน่

เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา   ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี พรรคเพื่อไทย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสรงน้ำพระเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระสงฆ์ที่คอยกล่าวให้พรประชาชนยังได้กล่าวให้พรนายเศรษฐาด้วยว่า ให้ช่วยกันเลือกเบอร์ 29 และขอให้แลนด์สไลด์

ต่อมานายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ไม่ได้ยินว่าพระอวยพร แต่ก็ขอขอบคุณ ส่วนตัวไม่ได้ขอพรให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าขอในใจในทุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไป

 เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกไม่ปิดทางจับมือกับ พท. นายเศรษฐากล่าวว่า ตัวเลขไม่ได้คิดอะไรยาก 22.01 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ค่อยมาคิดกันก็ไม่แปลกอะไร วันนี้หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายหลักทุกนโยบาย และสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยได้ ส่วนจะไปจับมือกับใครหรือไม่นั้น ไว้ผลและตัวเลขออกมาค่อยว่ากันดีกว่า

"ถ้าเราได้แลนด์สไลด์จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจับมือกับใคร นี่คือเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทยทุกคน" นายเศรษฐากล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13  เม.ย. พรรคพลังประชารัฐได้เผยแพร่ซิงเกิลใหม่ของพรรค โดยระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค เซอร์ไพรส์มอบเป็นของขวัญให้กับทุกคน ส่งต่อไปยังผู้สมัคร 400 เขตใช้ในการสื่อสารให้กับประชาชนทุกพื้นที่ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจ เพื่อคนไทยทุกคน ร่วมกันสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศไทย กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ ซิงเกิลใหม่นี้ปล่อยครั้งแรกในวันที่ 13 เม.ย. ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย ส่งใจจาก พล.อ.ประวิตร ถึงพี่น้องประชาชนทุกคน ด้วยบทเพลงที่สื่อถึงความตั้งใจในการทำนโยบาย พร้อมอาสาเข้ามาทำงาน ที่จะทำทันที ไม่มีการแบ่งแยก เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง จากใจบันดาลแรงของพล.อ.ประวิตร ขณะที่ไฮไลต์ที่สำคัญใน MV เป็นการถ่ายทำที่ผู้บริหารและผู้สมัครหลากหลาย GEN ร่วมใจผนึกความเป็นหนึ่งเดียว เพื่อถ่ายทอดความตั้งใจในการทำงานเพื่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บทเพลงนี้มีความยาวประมาณ 3.41 นาที ด้วยทำนองที่สนุกสนาน จำง่าย อธิบายถึงนโยบายที่ตอกย้ำ “ใจบันดาลแรง” ของพล.อ.ประวิตร ที่พูดจริง ทำได้จริง ไม่ทิ้งใคร และที่สำคัญคือการชูนโยบายหลัก ๆ ที่จะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนผ่านบัตรประชารัฐ เบี้ยยังชีพผู้สูงวัย บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยเฉพาะสู้ภัยแล้ง และแก้ที่ดินทำกิน และที่สำคัญคือการปลุกพลังให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง

สําหรับบทเพลง ‘พลังประชารัฐ’ นี้ถูกเรียบเรียงเนื้อหาจากความจริงใจของพล.อ.ประวิตร ที่ได้ทํานโยบายเพื่อจะช่วยประชาชนให้หลุดพ้นความเหลื่อมล้ำ โดยมีกลไกของว่าที่ผู้สมัครที่จะไปทําหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเนื้อหาเพลงมีใจความว่า Intro: (พลังประชารัฐเต็มต็ใจเข้ามา ช่วยขจัดทุกปัญหา จะพัฒนาทุกพื้นที่)

 “ทุกนโยบาย พรรคทําได้จริง พูดจริงทําจริง เราจะไม่ทิ้งใคร ข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งแยกไทย จะขออาสาเข้ามารับใช้ ขอโอกาสให้เรา เข้ามาแก้จน จะไม่มีมืดมน ไม่จนหนทาง จะสร้างอนาคต ที่เคยฝันไว้ให้เป็นจริง...

พลังประชารัฐ มาด้วยใจ จะมาสร้างไทย เพื่อให้ชีวิต พรุ่งนี้ต้องดีกว่า จะได้ลืมตาอ้าปาก ไม่จนอีกต่อไป พลังประชารัฐ มาด้วยใจ จะมาสร้างไทย เพื่อให้ชีวิต พรุ่งนี้ ได้เริ่มใหม่ พร้อมทุ่มเท หมดใจ.. ใจบันดาลแรง

บัตรประชารัฐ ให้เลยเจ็ดร้อย มีเบี้ยให้จอย ให้กับคนสูงวัย ที่ไหนแห้งแล้ง เราจะส่งน้ำไป ที่ดินทํากิน คือนโยบายของเรา ทําเพื่อคนไทย ใจบันดาลแรง ทํา เพื่อชาติไทย ใจบันดาลแรง ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าไปด้วยกัน

พปชร.ยังไม่ปิดประตูจับมือ พท.

ด้าน พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ที่มาช่วยงานการเมืองให้กับพลังประชารัฐในพื้นที่เลือกตั้งภาคอีสาน กล่าวว่า ในฐานะเป็นแม่ทัพเก่าในภาคอีสานที่คุมการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทย ที่อดีตมี 126 เขต แต่ปัจจุบันมี 133 เขตเลือกตั้ง ปัจจุบันมาทำงานให้พรรคพลังประชารัฐยอมรับว่ามาร่วมงานในระยะเวลาสั้น และไม่ได้เป็นผู้คัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. เลย เพียงแต่มาเสริมและผลักดัน เพราะฉะนั้นเป้าหมายการคว้าเก้าอี้ ส.ส.แบบเก่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่ส่วนตัวก็จะเจาะว่าเขตไหนเป็นไปได้ โดยวางเป้าให้ได้ ส.ส.ในภาคอีสานอย่างน้อยเฉลี่ยจังหวัดละ 1 คน ถือว่าพอใจแล้ว และยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยกระแสดี แต่ผู้สมัครบางคนก็ยังอ่อนแออยู่ พลังประชารัฐจะไปช่วงชิงตรงนั้น และรับไม่ได้ที่พอผลสำรวจชี้ว่าพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.ในภาคอีสาน 4 คน โดยตั้งเป้าไว้เฉลี่ยจังหวัดละคน

พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร ถึงจะทราบว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ดังนั้นจะบอกว่าตอนนี้มั่นใจหรือไม่มั่นใจไม่ได้ และหัวหน้าพรรคก็บอกแล้วต้องดูผลการเลือกตั้ง และไม่ทราบเรื่องการจับมือดีลกับพรรคการเมืองใด

 “ส่วนการปฏิเสธจับมือกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้น หัวหน้าพรรคก็ได้บอกแล้วว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นมติพรรค ซึ่งยังถือว่ายังไม่ปิดประตูตายที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองอื่นๆ ไปได้ทุกขั้ว นโยบายไปกันได้ก็จะจับมือกันได้ เป็นไปได้หมด เลือกตั้งเสร็จแล้ว มันเป็นไปได้ทั้งนั้น ใครจะจับมือกับใคร มันอยู่ที่นโยบายว่าไปกันได้หรือเปล่า ไม่ได้ปิดประตูตาย” พล.อ.ธรรมรักษ์ระบุ

ด้านความเคลื่อนไหวในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรค รทสช. กล่าวว่า สโลแกนพรรคที่ว่า ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ หนึ่งในสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้คือ นโยบายโคล้านครอบครัว เพราะสามารถเปลี่ยนชีวิตลูกหลานคนไทยจากแรงงานไปสู่ผู้ที่มีความร่ำรวยได้ ภายใน 6 ปีจะสามารถทำเงินล้านได้จากโคเพียง 2 ตัว และถ้าตามสูตร 10 ปี จะมีเงิน 7 ล้านบาท เป็นนโยบายโคที่คิดแบบคณิตศาสตร์ เป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถผิดไปจากนี้ และหลังจากทำโครงการนำร่องที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้ 5 พันล้านบาท เมื่อเดือน มี.ค.66 มีกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชน เนื่องจากใช้เงินน้อยมาก แต่สามารถผลิตเงินได้อีกจำนวนมาก

"เรื่องโคถือเป็นบ่อน้ำมันในประเทศ ต้องดึงศักยภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ผ่านมาเราเจริญ แต่รายได้คนไม่เคยตามทัน มันใจว่าโคล้านครอบครัวตอบโจทย์ประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนมองว่าหากเป็นการแจกเงินเดี๋ยวมันก็หมด ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตคน เป็นเพียงแค่เงินที่เอามากระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังซื้อในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เสร็จแล้วก็หมดไป"

ถามว่า พรรค รทสช.ตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ 100 ขึ้นได้หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่สามารถประเมินได้ แต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์หวังไว้ก็เป็นร้อย เราพยายามมุ่งเป้าที่จะทำให้ได้ตามจำนวนนั้น

 วันเดียวกัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. พร้อมด้วยนายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรค อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่บริเวณตลาดรุ่งเจริญ ยานนาวา โดยมีประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปด้วยจํานวนมาก บริเวณซอยเจริญกรุง 79 บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น โดยผู้เฒ่าผู้แก่ต่างให้การต้อนรับและอวยพรให้นายเนวินธุ์ได้เป็น ส.ส.ในพื้นที่ และขอให้พรรครวมไทยสร้างชาติชนะการเลือกตั้งเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

รทสช.มั่นใจกระแสดีเรื่อยๆ

นายเอกนัฏให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาผลโพลของพรรคมีกระแสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าหลังจากนี้โดยเฉพาะในวันที่ 14 พฤษภาคม จะมีพลังเงียบที่อาจจะออกมาพลิกปากกาเซียน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นเราจึงเชื่อผลโพลจากประชาชนมากที่สุด แม้ผลโพลตอนนี้จะเป็นรอง แต่ผลโพลที่แม่นที่สุดคือผลโพลจากประชาชนในวันเลือกตั้ง ตนเดินหาเสียงทุกวัน รับทราบได้ว่ามีพลังเงียบจำนวนมากที่ไม่ได้แสดงออกมาในผลโพล แต่ตั้งใจจะไปเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนมากในวันเลือกตั้ง เพื่อไปยกมือให้กับลุงตู่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

 เลขาธิการพรรค รทสช.กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์จะเริ่มลงพื้นที่ โดยเริ่มที่กรุงเทพฯ ก่อน และจะมีเวทีปราศรัยไปทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 10 เวที เพราะถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ไปทุกที่ไปทุกภาค โดยในช่วงเทศกาลก็อาจจะได้เห็นลุงตู่ปรับลุกส์ในชุดลายดอก เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศปีใหม่ของคนไทย พรรค รทสช.จะยังคงยึดการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของกกต. ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการย้ำให้ผู้สมัครทุกคนหาเสียงอยู่ในกรอบที่ กกต.กำหนด ได้มีการเข้มงวดให้ตรวจสอบอย่างชัดเจน ในส่วนของการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ น่าจะเป็นกรอบที่ทำได้อยู่แล้ว เพราะเป็นไปตามประเพณีของคนไทย

วันเดียวกันนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหาเสียงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชของพรรค รทสช.ว่า ได้ย้ำให้ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตของพรรคเร่งทำคะแนน เนื่องจากหลายพื้นที่ยังพบว่าคะแนนนิยมของผู้สมัครยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก มีเพียงคะแนนนิยมในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค นำโด่งทิ้งห่างจากผู้สมัครอยู่มาก และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อให้ชาวบ้านเลือกทั้งคน ทั้งพรรค นอกจากนี้ จะกำชับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคให้ประชาสัมพันธ์แคมเปญใหม่ “ของจริงยิ่งกว่า 10,000 บาท” เป็นแคมเปญหาเสียงด้านนโยบายเศรษฐกิจภายใต้สโลแกน “หาเงินได้ ใช้เงินเป็น” จะรวมบัตรสวัสดิการพลัส หรือบัตรลุงตู่ ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย ต่อยอดโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นช่องทางให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงความช่วยเหลือแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีตัวกลางหักหัวคิวโครงการบัตรสวัสดิการพลัส ใช้บัตรประชาชนอัจฉริยะ เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล เพิ่มสิทธิให้ผู้มีสิทธิ เป็นเดือนละ 1000 บาท เป็นค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ ค่ารถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้า รถ บขส. ค่าไฟ ค่าน้ำประปา ค่าแก๊ส  ผู้มีสิทธิสามารถซื้อสินค้าได้จากร้านธงฟ้า 84,712 ร้านทั่วประเทศ อยากจะให้นำคลิปนี้ไปเปิดให้ชาวบ้านดูด้วย เพราะเข้าง่ายใจ จะได้ทราบว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเข้ามาสานต่อ ทำอะไรให้อีกบ้าง คลิปนี้จะทำให้เห็นภาพชัดของการ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” เชื่อว่าเมื่อดูคลิปจบจะเลือกรวมไทยสร้างชาติเบอร์ 22 แน่นอน

หลังสงกรานต์'ลุงตู่'ลุยหาเสียงหนัก

นายธนกรกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการเดินสายหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังวางตารางกัน โดย พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ปราศรัยด้วยตัวเองในเวทีหลัก คาดว่าจะไปพบกับพี่น้องทั่วทุกภาคอย่างแน่นอน เพราะมีเสียงเรียกร้องมาทุกพื้นที่ อยากฟังอยากเห็นลีลา พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัย ขณะนี้กำลังจัดวางคิว ก่อนเสนอให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคพิจารณา และเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ หลังสงกรานต์เจอกันแน่นอน

ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ รองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวว่า พรรค รทสช.เป็นพรรคการเมืองตั้งใหม่ อาจเป็นรองพรรคการเมืองอื่นที่ตั้งมาก่อน แต่เรา พรรค รทสช.ได้เปรียบตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค รทสช. ได้ทํามาแล้ว 8 ปี และมีผลงานเป็นรูปธรรมเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน

"ตรงนี้ทําให้ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ ง่ายต่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ด้วยการเอาผลงานที่จับต้องได้ของแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติที่ทํามาแล้ว 8 ปี และจะต่อยอด ออกดอกออกผลต่อไปในอนาคต" นายเสกสกลกล่าว

รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรายังมีนโยบายใหม่ออกมา ภายใต้หลักการการต่อยอดของเดิม และเริ่มสิ่งใหม่ๆ เอาไปบอก เอาไปถาม และสื่อสารกับพี่น้องประชาชน แบบนี้เอาไหม ชอบไหม ถ้าชอบเลือกเราเป็นรัฐบาล เราสามารถทําให้ได้ ไปแก้ปัญหาให้ ไปสร้างงานให้ ไปทําให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ทุกข์ยากลําบาก เรามีหน้าที่ทํา ตรงนี้ ทําให้ความหวังของประชาชนเป็นความจริง

"เสนอนโยบายอะไรที่เป็นความเพ้อฝัน แต่สุดท้ายทําได้จริงหรือเปล่า ทั้งถูกตั้งข้อครหา เช่น เอาเงินมาจากไหน พอเข้าไปมีอํานาจจะเอื้อประโยชน์หรือไม่ ดังนั้นผมจึงเรียกร้องไปยังทุกพรรคการเมือง ให้ขายนโยบายหาเสียงบนพื้นฐานต้องทําได้จริง มีงบประมาณเพียงพอ อย่ามุ่งเน้นแต่ขายฝันหรือเพ้อเจ้ออะไรก็ได้เพียงเพื่อต้องการคะแนนจากพี่น้องประชาชน เพราะอาจส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติในระยะยาวตามมา" รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธรรมนัส' รูดซิปปาก! ไม่รู้ 'วัน อยู่บำรุง' ย้ายซบพลังประชารัฐ เรื่องของบิ๊กป้อม

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณี นายวัน อยู่บำรุง อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะย้ายไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในวันอังคารที่ 23 ก.ค.นี้โดยระบุสั้นๆว่า ตนไม่ทราบ