พะเยาเดือด!ธรรมนัสฉะเสธ.ดัง

นายกฯ ขอพรพระให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย นำไปสู่การเลือกตั้งบริสุทธิ์-ยุติธรรม ยัน รบ.ต้องทำทุกอย่างให้เดินหน้า ไม่ได้สนแต่การเมือง "พีระพันธุ์" ให้ "บิ๊กตู่" ตัดสินใจร่วมวงดีเบต ย้ำ รทสช.ไม่ใช้นโยบายสุดโต่ง ลั่นจับขั้วรัฐบาลกับพรรคยึดชาติ ศาสน์  กษัตริย์ และประชาชน "ธรรมนัส" เดือด ซัดบ้านใหญ่พะเยารวมหัวลูกน้องเสธ.คนดังขู่ผู้นำท้องถิ่นให้ช่วยผู้สมัคร ส.ส. "เสธ.หิ" ออกตัวไม่ใช่คนที่ผู้กองอ้าง  วิจารณ์แซด! กกต.ยกโขยงไปนอก

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 12 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2566 ตอนหนึ่งว่า เรามีโอกาสมากมายที่จะดำรงชีวิตต่อไปในทางที่ดีขึ้น วันนี้ก็มีนักธุรกิจมากมายออกมาพูดเรื่องนู้นเรื่องนี้ นักการเมืองก็ออกมาพูด ประชาชนทั่วไปก็พูด แต่คนทำก็คงจะเป็นตนละมั้ง  ถ้าต้องมีโอกาสทำก็จะทำ ทำให้ดีขึ้น รับฟังข้อพิจารณาต่างๆ คนที่พูดมาบางอย่างดี บางอย่างก็ไม่ใช่ บางอย่างก็ทำไม่ได้ถ้ามันเสียหาย คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำก็สุดแล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือผลจากการกระทำเหล่านี้ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งก็คือประชาชนนั่นแหละ ก็ต้องระมัดระวังแล้วกัน

"ขอให้สนใจภูมิภาคกันบ้าง ไม่ใช่สนใจแต่เรื่องใกล้ตัวหรือการเมือง สนใจรอบบ้านเขาบ้างว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีความขัดแย้งตรงไหนบ้าง ทะเล บนบก มีไหม รัฐบาลต้องทำทุกอย่างในการที่จะเดินหน้าประเทศ ทั้งในประเทศและรอบประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร นั่นคือหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่การเมือง ต้องทำทุกอย่าง และข้าราชการทั้งหมดก็ต้องรับแนวนโยบายนี้ไปปฏิบัติ เพราะฉะนั้นวันนี้ขอให้ทุกคนสนใจบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเราจะต้องระมัดระวังตัวกันอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนตัดสินใจให้ดีแล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่า ช่วงนี้นายกฯ อธิษฐานขอพรอะไรเป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอพรพระให้บ้านเมืองสงบ ปลอดภัย นำไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม รวมถึงได้รัฐบาลที่ดีอย่างที่ทุกคนต้องการ ประเทศชาติจะได้ก้าวหน้า แต่ไม่ใช่ก้าวไปเดินหน้า 2 ก้าว ถอยหลัง 2 ก้าว มันไม่ได้ไปไหน เข้าใจหรือไม่ ฉะนั้นต้องไปคิดใคร่ครวญให้ดี ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกันด้วย จะรักใครชอบใครในทางการเมืองก็ว่ากันไป ดูว่าเราจะได้อะไร จะเสียอะไรในวันข้างหน้า ก็ไม่รู้ แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดในนามของรัฐบาลชุดนี้ เราคุยกันอยู่ทุกวัน เพื่อนกันอยู่แล้ว (สื่อมวลชน)

ถามว่า มือของนายกฯ หายดีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวติดตลกว่า “มือฉันก็ยังอยู่" พร้อมชูฝ่ามือด้านที่เป็นแผลว่า “ดีขึ้นเยอะแล้ว เอาพลาสเตอร์ปิดกันเชื้อโรคไว้ ขอบคุณที่เป็นห่วง ฝ่ามือเป็นแผลเพราะผ่ายาว ขี้สงสัยถามทุกเรื่อง ทีหลังจัดเวรไปนอนบ้านฉันคนหนึ่ง แต่ต้องไปอยู่อีกตึกนึง เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิง” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปรดน้ำอวยพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า อวยพรไปหมดแล้ว เดี๋ยวจะไปกราบท่านที่บ้าน

'ดีเบต' ให้บิ๊กตู่ตัดสินใจ

ส่วนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช. ) กล่าวถึงการวางคิวลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการวางคิวและกำหนดการจะให้ไปลงพื้นที่ตรงไหนบ้าง เพราะต้องให้พื้นที่ไปพิจารณาว่ามีความเหมาะสมอย่างไร ส่วนพื้นที่เป้าหมายก็อยู่ในทุกภาคอยู่แล้ว ส่วนการวางคิวดีเบตของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น ตนยังไม่ทราบ เพราะขึ้นอยู่กับเรื่องและความเหมาะสม โดยที่ท่านจะเป็นผู้พิจารณาเอง

ถามว่า บางพรรคการเมืองออกนโยบายสุดโต่ง จะมีผลกระทบต่อนโยบายของพรรค รทสช.หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ก็คงไม่ใช้วิธีแบบนั้น แต่ละพรรคมีวิธีที่แตกต่างกันไป สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ประชาชนพิจารณา

"นโยบายเงินดิจิทัลตรงนี้ประชาชนก็ต้องพิจารณา เพราะไม่สามารถได้ทั้งหมด แต่ต้องมีทั้งได้และเสีย และที่สำคัญจะได้จริงหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ และรูปแบบเงินแบบนี้จะกระทบต่อค่าเงินบาทหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่พรรคเราไปวิจารณ์มากไม่ได้" นายพีระพันธุ์กล่าว

หัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวถึงกรณีกล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่าจะจัดการพวกชังชาติว่า บอกอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น และสุภาษิตไทยที่ว่าคับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก  เพราะฉะนั้นใครที่อึดอัดใจก็คงอยู่ไม่ได้ ซึ่งเป็นเหมือนสุภาษิตไทย คับที่ไม่เป็นไร  คับใจมันอึดอัด ดังนั้นถ้าเราอึดอัดก็อย่าอยู่ แค่นั้นเอง

"การจับมือจัดตั้งรัฐบาล พรรคที่จะทำงานร่วมกันได้ต้องยึดมั่นในอุดมการณ์เดียวกันคือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจะเป็นพรรคไหนก็แล้วแต่ หากทำงานเพื่อสถาบันหลักของชาติบ้านเมืองก็ทำงานด้วยกันทั้งนั้น" หัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ของพรรค รทสช.ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าหลังเทศกาลสงกรานต์ รทสช.จะเดินสายหาเสียงพบปะประชาชน ในรูปแบบเวทีหลัก และเวทีรอง โดยเวทีหลัก พล.อ.ประยุทธ์จะนำปราศรัยด้วยตนเอง  สำหรับคิวปราศรัยค่อนข้างจะเต็ม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ส่วนจังหวัดตรัง และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีข้อจำกัดเรื่องความมั่นคง ก็อาจจะใช้เวลากลางวันโดยการขึ้นรถแห่

"จากการหารือกับแกนนำพรรคในหลายภาค คะแนนความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งเป็นคะแนนความนิยมส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่สำหรับผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ยังไล่ตามคะแนน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทัน ดังนั้นต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียง ผู้สมัครจะต้องไปเนื้อเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ เช่น การปรับป้ายหาเสียง เพื่อให้เลือกทั้งคน ทั้งพรรค นอกจากนี้ผมยังเสนอหัวหน้าพรรคให้ตั้งทีมโฆษกพรรค ที่มีทั้งคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า และมีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านผสมผสานกันไป" นายธนกรกล่าว

เดือด!ผู้กองซัดเสธ.คนดัง

วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา และประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรค พปชร. โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า  เมื่อวานรีบขึ้นเหนือ ผมนัดหมายกับพี่น้องชาติพันธุ์ที่หมู่บ้านอายิโกะ ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย แต่ไปไม่ไหวเพราะมีอาการปวดหัวตัวร้อน ต้องรีบไปหาหมอที่ รพ.ทันที หมอให้พัก 5 วันครับ เพราะร่างกายอ่อนแอ หักโหมหลายวัน ก็ตั้งใจจะปิดมือถือเพื่อพักผ่อนตามคำแนะนำคุณหมอ แต่คงพักไม่ได้แล้วครับ เพราะมีผู้นำทั้งท้องถิ่น ท้องที่ ตั้งแต่ ส.อบจ. นายก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน (ในพื้นที่เขต 3) มารอพบที่บ้านผู้นำทั้งหลายเกิดความวิตกกังวลในความปลอดภัยหลังที่ถูกเรียกเข้าไปบ้านใหญ่เจ๊ ล. ขาใหญ่อำเภอปง พะเยา ซึ่งเป็นพี่สาว ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา เขต 3 ของพรรคหนึ่ง ที่ตอนนี้ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลกร่าง ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ เล่าให้ฟังว่าพอไปถึงบ้านเจ๊ ล. ก็มีกองกำลังทหารเกือบ 1 หมวด พกอาวุธ (ปืนสั้น)  ภายใต้การควบคุมของเสธ.น. (ลูกน้องเสธ.นอกราชการคนดัง) และข่มขู่ว่าจะจัดการกับผู้นำขั้นเด็ดขาดหากไม่ช่วยผู้สมัครรายนี้ จะเริ่มปฏิบัติการโดยใช้กองกำลังทหารค้นบ้านผู้นำทุกรายที่เห็นต่าง

"การที่พี่ๆ น้องๆ ทหารเข้ามาในพื้นที่บ้านเกิดผม และมาข่มขู่พี่น้องชาวพะเยาของผม ผมว่ามันมากไปแล้วครับ ผมจะไม่ยอมปล่อยให้พวกคุณทำอย่างนี้อีกแน่นอน ฉะนั้นพี่น้องทหารทั้งหลายรีบกลับกรมกองต้นสังกัดด่วน ก่อนที่อนาคตรับราชการจะหมดไป ผมมีรายชื่อและต้นสังกัดของพวกท่านหมดแล้วและวันนี้ผมสั่งให้แนวร่วมภาคประชาชนเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อผมจะทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาของท่านลำดับชั้นต่อไป ผมให้โอกาสพี่น้องทหารทั้งหลายนะครับ แต่หากไม่เชื่อคำแนะนำผม ก็อย่ามาโทษกันภายหลังครับ พวกเราคนพะเยา จะไม่ยอมให้ไอ้อีผู้ใดชักศึกเข้าบ้าน" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

อย่างไรก็ดี นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรค รทสช. กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสโพสต์ดังกล่าวว่า ตนไม่ไปเกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ตนเดินทางไปที่จังหวัดเชียงราย ไปเตรียมหาเสียงและนั่งรถลงพื้นที่ไป จ.พะเยา เพื่อไปพบกับผู้สมัครของพรรค รทสช. แค่เพียงแค่ 30 นาที ก่อนที่จะมีการดีเบต หลังจากดีเบตได้คุยกับผู้สมัคร ส.ส.และไปที่บ้านของผู้สมัคร ส.ส.เพื่อพูดคุยเรื่องการวางแผนหาเสียงและข้อมูลต่างๆ แล้ว จากนั้นเดินทางกลับมานอนที่จังหวัดเชียงราย 

 “ผมไม่มีเวลาจะไปไหนเลย ผมจะไปขู่ใครได้ แล้วใครจะไปกล้าขู่คนของท่าน ร.อ.ธรรมนัส ผมก็เป็นเพื่อนท่าน ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้ท่าน ว่าไป” นายหิมาลัยกล่าว

ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ทีมผู้บริหารครอบครัวเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แคนดิเดตนายก 1 ใน 3 ของพรรค พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค สมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงกับชาวมหาชัย

นายเศรษฐารับปากว่า หากพรรคได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ สัญญาว่าจะทำให้สมุทรสาครได้กลับมาเป็นเจ้าสมุทรภายใน 4 ปี เพราะการประมงนั้นนับว่าเป็นอาชีพที่สำคัญ และเชื่อว่าเพื่อไทยจะทำได้ เพราะทีมของพรรคมีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องที่จะแก้ปัญหาด้วยความรู้ความสามารถที่มี ซึ่งการจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้

อึ้ง'กกต.'ยกโขยงไปนอก

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงที่จังหวัดเพชรบุรี โดยได้สรงน้ำพระเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร และรับพรจากเจ้าอาวาส พระครูวาทีวรวัฒน์ จากนั้นจึงเดินทักทายประชาชนและขึ้นรถแห่พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเขต 1, นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ผู้สมัครเขต 3, นายอรรถพร พลบุตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ ตระเวนในตลาดเทศบาลเมืองเพชรบุรี มีประชาชนให้การต้อนรับมอบดอกไม้ พวงมาลัย ผลไม้ ข้าวแช่ ขนมหวานเมืองเพชรเป็นกำลังใจตลอดเส้นทาง

พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น.ส.ใจยา วาจาดี ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 1 จ.อุบลราชธานี เขต 4 (อ.วารินชำราบ, อ.สำโรง เฉพาะ ต. สำโรง ต.โคกก่อง ต.บอน) กล่าวว่า ในวันที่ 22 เม.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. พร้อมแกนนำพรรค จะเดินทางมาช่วยรณรงค์หาเสียงในพื้นที่ตน ซึ่งได้เตรียมกิจกรรมเดินตลาดและเปิดเวทีปราศรัยไว้แล้ว

ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีรายงานว่า กกต.ได้สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร ในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.นี้  หลังเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. จนถึงวันที่ 9 เม.ย.2566 มีจำนวนผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนทั้งสิ้น 2,350,969 ราย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กกต. หลังจากพบว่า กกต.ทั้ง 6 คน ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย แต่ทยอยเดินทางไปดูการเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ในช่วงที่สังคมเรียกร้องให้ กกต.วินิจฉัยนโยบายหาเสียงประชานิยมของพรรคการเมือง รวมทั้งขอให้ กกต.พิจารณาขยายระยะเวลาการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มเติม เนื่องจากวันสุดท้ายของการทะเบียนเกิดปัญหาระบบล่ม

จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต. และนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต. เดินทางไปประเทศฮังการีและสโลวาเกีย  ส่วนนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินทางไปประเทศแอฟริกา, นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. เดินทางไปประเทศเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์,  นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต. เดินทางไปนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย 

"การเดินทางดังกล่าวเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใน กกต.ถึงความเหมาะสม เนื่องจากในอดีตจะมีการมอบ กกต. 2-3 คนเท่านั้นให้เดินทางไป เพราะการไปแต่ละครั้งใช้งบประมาณสูง แต่ครั้งนี้ กกต.ทั้ง 6 คน กลับเดินทางไปกันหมด อีกทั้งมองว่าขณะนี้เพิ่งผ่านขั้นตอนการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชเท่านั้น หากจะเดินทางไปควรไปช่วงที่มีการส่งบัตรเลือกตั้งไปยังประเทศต่างๆ และกระจายบัตรไปยังผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ไว้ หรือช่วงเวลาที่สถานทูตกำหนดให้มาใช้สิทธิ์จะเป็นประโยชน์มากกว่า" แหล่งข่าวระบุ.