ป้อมปิดประตู112 ผสมพันธุ์พท.-กก.

"บิ๊กตู่" ปัดไม่เคยคุย "ลุงป้อม" จับมือตั้งรัฐบาล โอ่ "รทสช." กระแสดี มั่นใจกวาด ส.ส.ทะลุ 100 กั๊กตอบร่วมเวทีดีเบต บอกอธิบายไปหลายช่องทางแล้ว แต่ "ธนกร" แย้มช่วงโค้งท้ายอาจมี "บิ๊กเซอร์ไพรส์" ร่วมดีเบต "ไพบูลย์" ไม่เสียหน้า "ประวิตร" ตอบชัดนโยบายไม่ตรงกัน ปม ม.112 ปิดประตูจับมือ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" ร่วมรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 11 เม.ย. เวลา 08.42 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม  เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระหว่างเดินเข้าตึกสันติไมตรี  ผู้สื่อข่าวทักทายนายกฯ และถามว่าจะอวยพรอะไรหรือไม่เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ โดยนายกฯ ไม่ตอบเพียงแต่ส่งยิ้มหวาน

สำหรับการประชุม ครม.วันนี้ มีรัฐมนตรีลา 9 คน ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์,  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ

จากนั้น เวลา 12.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม. ถึงการไปรดน้ำขอพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า คงต้องทำตามประเพณี สุดแล้วแต่ว่าท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่พรุ่งนี้ (12 เม.ย.) ก็รดอยู่แล้ว มีพิธีอยู่แล้ว

ถามว่า วันสงกรานต์นายกฯ จะไปไหน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คิดดูก่อน ผู้สื่อข่าวจึงกระเซ้าว่า จะไปด้วย นายกฯจึงกล่าวว่า ไม่ให้ไป พร้อมกับยิ้ม  

ซักถึงกรณีหากสื่อเชิญไปร่วมเวทีดีเบตทางการเมือง จะมีโอกาสไปร่วมหรือไม่ เพื่อพูดถึงนโยบายทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็อธิบายไปหลายช่องทางแล้ว 

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ จะตอบรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทันทีว่า “ขอคำถามอื่นซิ”

ถามว่า ได้พูดคุยอะไรกับ พล.อ.ประวิตรเรื่องการจับมือตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการเตรียมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เคยคุยกัน เรื่องพวกนี้เป็นสิทธิของแต่ละคนแต่ละท่าน และท่านก็เป็นหัวหน้าพรรค ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใครอยู่แล้ว ตนต้องการทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อประชาชน อะไรที่ดีก็ว่ากันไป อย่ามาพูดว่าแต่ แต่ทั้งหมดมันคืออนาคต มันยังไม่เกิดอย่าเพิ่งไปคิดมัน

ซักว่ามองพรรค พปชร.เล่นบทสองหน้าหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้มอง ตนไม่ได้มองใครทั้งสิ้น ตนมองว่ารัฐบาลจะทำอะไรเพื่อประชาชนได้บ้าง ทั้งวันนี้และวันหน้า ไม่สร้างภาระไว้ให้กับคนอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ ยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ชายวัยกลางคนที่ปีนต้นไม้ด้านข้างทำเนียบรัฐบาลได้ตะโกนส่งเสียงดังถึงนายกฯ ตลอดเวลาช่วงที่ให้สัมภาษณ์ จนทำให้นายกฯ ถามว่า “ใครอะ” จากนั้นผู้สื่อข่าวตอบว่า “เขามาปีนต้นไม้ตะโกนหานายกฯ เป็นชั่วโมงแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า “เหรอ ไปบอกว่านายกฯ เขาทำงานอยู่” 

เมื่อถามว่า ได้ฟังตัวแทนจากพรรครทสช.ไปขึ้นเวทีดีเบตร่วมกับพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็โอเค ก็บอกให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ไปทะเลาะอะไรกับใคร นโยบายของตนคือไม่ไปอะไรกับพรรคอื่นๆ ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ตนไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามกับใคร เพราะมองประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักตลอดเวลา และทุกคนไม่ใช่ศัตรูของตน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน  

ถามถึงกระแสตอบรับของพรรค รทสช.ตอนนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ดีอยู่ มีอะไรเสียหายเหรอ เมื่อถามว่าทางพรรค รทสช.ได้ทำโพลของพรรคมารายงานอย่างไรบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คุณก็รู้เองอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ก็โอเค ก็ยังรับได้อยู่ ถามว่าการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีนโยบายเด็ดอะไรออกมาแบบเปรี้ยงๆหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม้เด็ดเป็นอย่างไร

"กลยุทธ์ของผมมีอยู่แล้ว ที่ทำทุกวันนี้ก็เป็นกลยุทธ์ของผม แต่ทำอะไรก็ตามก็ต้องมีความระมัดระวัง ผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติและประชาชนที่เขาได้รับอยู่แล้วจะทำอย่างไรไม่ให้เขาได้รับผลกระทบในการทำอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา ถ้าทำใหม่ๆ ขึ้นมาแล้วคนเก่าๆ ไม่ได้อะไรเลย แล้วจะยอมกันไหมล่ะ ผมไม่อยากจะทะเลาะเบาะแว้งกับใคร กรุณาใช้วิจารณญาณใคร่ครวญให้ดีแล้วกัน ฝากสื่อด้วยแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ซักว่า คิดว่าพรรค รทสช.จะได้เสียงทะลุ 100 หรือไม่ เพราะดูเหมือนทางพรรคมีความมั่นใจ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คงต้องมั่นใจละมั้ง ธรรมดาทุกพรรคก็ต้องมั่นใจ 

"เราเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. ก็ต้องมั่นใจในสิ่งที่เราทำวันนี้ ทำด้วยความถูกต้อง สุจริตและยุติธรรม ซึ่งเป็นนโยบายของพรรค หัวหน้าพรรคเขาก็ดำเนินการตามนี้ ขอให้เชื่อมั่นก็แล้วกัน แต่ถ้าทุกคนต้องการอะไรที่มันหวือหวา ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ต้องระมัดระวังความเสียหายขนาดใหญ่จะตามมา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เกิน 310 เสียงหรือไม่ ถึงหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คิดทำไมเล่า ใครเท่าไหร่ก็เท่านั้น เรื่องของท่าน มันต้องคิดไปล่วงหน้าทำไม

แย้มมีเซอร์ไพรส์บิ๊กตู่ดีเบต

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าเวลา 09.30 น. นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงตารางหาเสียงรวมถึงเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคว่า คณะสื่อสารและประชาสัมพันธ์ของพรรคที่ตัวเองเป็นกรรมการ จะประชุมและได้ข้อสรุปในวันนี้ โดยเบื้องต้นจะไปหาเสียงทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมาย เช่น ภาคกลางและภาคใต้ 

ถามว่า เวทีดีเบต พล.อ.ประยุทธ์จะมีโอกาสไปร่วมสักเวทีหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า ก็ไม่แน่ ช่วงโค้งสุดท้ายไม่แน่อาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ก็ได้ เพราะทุกวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนัก

ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรค รทสช. กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ก็เริ่มมีการวางคิวกันเอาไว้บ้างแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงคิว ทุกอย่างจะเริ่มหลังเทศกาลสงกรานต์ เพราะช่วงประเพณีจึงไม่สะดวก อย่างใน กทม.ไปหาเสียงตอนนี้ก็คงจะเงียบ เพราะประชาชนกลับต่างจังหวัด

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ลงนามคำสั่งพรรค รทสช. ที่ 11/2566 เรื่องแต่งตั้งสมาชิกพรรคให้ดำรงตำแหน่งในพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรค จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น,  นายธนกร วังบุญคงชนะ, นายอนุชา บูรพชัยศรี และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ โดยมีอำนาจหน้าที่ในการให้คำปรึกษา แนะนำ และให้คำเสนอแนะในการดำเนินกิจกรรมและการดำเนินการทางการเมืองของพรรค

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีประกาศไม่ร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย (พท.)และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า สิ่งที่ไม่สบายใจที่จะร่วมงานกับ 2 พรรคดังกล่าว เป็นเรื่องที่สังคมรับทราบชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลประกาศนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และพรรค พท.ก็ไม่ได้แสดงจุดยืนว่าไม่เห็นชอบ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการที่นโยบายของพรรคการเมืองจะไปแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักรเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย และเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ  กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายในส่วนกฎหมายอาญาเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และมาตราถัดไปคือมาตรา 113 คือเรื่องเกี่ยวกับคดีกบฏ กฎหมายเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปแตะต้องหรือแก้ไข

นอกจากนี้ พรรค พท.ยังมีกรณีออกนโยบายให้เงินในดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 10,000 บาท ให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป ถือเป็นการเหวี่ยงแห 54 ล้านคน เป็นการแจกเงิน สะท้อนวิธีคิดของพรรค และเมื่อโยงไปกับนโยบายเก่าๆของพรรค มักจะออกรูปแบบสุ่มเสี่ยงหรือทำให้เงินมีปัญหา ถ้าเป็นเช่นนั้นหากไปร่วมงานร่วมเป็นคณะรัฐมนตรีคงจะยุ่งไปกันใหญ่ ไปไม่ได้

ป้อมชัดไม่จับมือ 'พท.-ก.ก.'

 “พล.อ.ประวิตรเห็นชอบก่อนที่ผมจะออกมาพูด และเรื่องนี้มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าวมาหลายปี ตลอดเวลาเราคัดค้านมาตลอด และมีความพยายามในชั้นของสภาที่ยังไม่เหมาะสม และยังลุกลามมาเป็นการเสนอนโยบายของพรรคการเมือง จึงถึงเวลา ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาถกเถียงกัน เป็นความพยายามที่ป้องกัน บั่นทอน กัดเซาะให้เกิดความเสื่อมหรือมีปัญหาของสถาบัน มองว่าจงใจหรือมีจุดประสงค์หรือมีเจตนาดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดคุยกัน จึงถือว่าเกินไป เรารับไม่ได้อย่างแน่นอน และพรรคก้าวไกลเป็นเจ้าของเรื่อง ส่วนพรรคเพื่อไทยเพิกเฉยไม่มีการแสดงอาการอะไรแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น จึงอนุมานได้ว่าคนที่นิ่งคือไม่ได้แย้ง” นายไพบูลย์กล่าว 

ถามว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มองเป็นความเห็นส่วนตัวที่เร็วเกินไป และบางคนอาจมองว่าสวนทางกับแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งของ พล.อ.ประวิตรนั้น นายไพบูลย์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคให้ความเห็นชอบแล้วตนจึงออกมาพูดได้ และเป็นคนละเรื่องกับเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งที่พรรคยังคงยึดหลักดังกล่าว แต่ไม่ใช่ในลักษณะที่จะต้องไปร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เห็นนโยบายแล้วรับไม่ได้ จึงประกาศว่าไม่ร่วม และเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะมีข่าวว่ามีดีลลับ พปชร.จะจับมือกับพรรค พท. และไกลไปถึงจะจับมือกับพรรคก้าวไกล จึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนว่าจะไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายที่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

"ขอย้ำว่าไม่ได้มีความขัดแย้ง ส่วนตัวรับรู้มาจากหัวหน้าพรรค ซึ่งเห็นด้วย และเป็นผู้ที่ต้องมาเสนอต่อสังคมเพื่อให้เห็นชัดเจนว่าจะไม่ร่วมงานกับทั้ง 2 พรรค" นายไพบูลย์ระบุ

ต่อมาเวลา 18.00 น. พรรค พปชร. มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. โดยภายหลังการประชุมพล.อ.ประวิตรตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีทำไมคนไทยถึงต้องเลือกพรรค พปชร.ว่า ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเลือกใคร ขอให้เลือกคนดีมาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรค พปชร. ส่วนจะเลือกหรือไม่ และถ้าเห็นว่ามีคนอื่นดีกว่า ก็เชิญนะครับ ทั้งนี้ พรรค พปชร.ขออาสารับใช้ประชาชน 

ถามว่าอะไรคือความโดดเด่นของพรรค พปชร. ที่ประชาชนต้องเลือกพล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า คุณคิดว่าอะไร พร้อมกับกล่าวว่า เราก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจน ที่พรรค พปชร.จะทำให้ชัดเจน เมื่อถามย้ำว่าแล้วความโดดเด่นของ พล.อ.ประวิตรที่จะเป็นนายกฯ คืออะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อันนี้ต้องแล้วแต่คนเลือก จะมาบอกว่าผมจะเป็นนายกฯ คงพูดไม่ได้ ต้องแล้วแต่คนเลือก ผมคงมาบอกไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่นายไพบูลย์ระบุจะไม่จับมือกับพรรค พท.และก้าวไกล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ผมบอกไปแล้วไงครับว่าต้องรอว่าเราได้คะแนนเสียงเท่าไหร่"

เมื่อถามย้ำว่า แต่ดูเหมือนนายไพบูลย์ออกมาปิดประตูแล้วว่าจะไม่ร่วม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “คือนโยบายไม่ตรงกัน” ต่อข้อถามว่า หมายถึงนโยบายเกี่ยวกับมาตรา 112 ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า “แล้วมันเป็นนโยบายหรือเปล่า”  

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ยังคงลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคใน กทม.หาเสียง โดยเดินทางพร้อม น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรค ช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ

นายชวนได้ขอให้ทุกคนช่วยกันเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับประชาสัมพันธ์นโยบายต่างๆของพรรค โดยเฉพาะนโยบายที่ประสบความสำเร็จและยังมีผลอยู่ในปัจจุบัน อย่างกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยตนเป็นนายกรัฐมนตรี. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

30วันเลือกนายกปทุม

"พิเชษฐ์" แจ้งสภา 143 สส.สังกัดพรรคประชาชนแล้ว ด้าน "ณัฐวุฒิ" เผยใช้อักษรย่อ "ปชน."