ฟื้นนโยบายฆ่าตัดตอนยุคแม้ว

ทีมลุงตู่ปล่อยคลิปภารกิจนายกฯ-ประกอบเพลง "ไร้รัก ไร้ผล"   วอนคนไทยรู้รักสามัคคี ก้าวไปกับลุงตู่    "รทสช." ตั้ง 8 ขุนพล "ธนกร" นั่งหัวหน้าสร้างภาพลักษณ์แจงข้อเท็จจริง "เอกนัฏ" นำทีมลงพื้นที่ กทม. โวเสียงตอบรับพรรคเบอร์ 22 ดีขึ้นทุกวัน "ธรรมนัส" ไม่เชื่อ พท.กวาด 310 เก้าอี้ "ชัยวุฒิ" แนะเศรษฐาดูบทเรียน "สมัคร สนุทรเวช"  "อนุทิน" อู้คำเมืองอ้อนชาวเชียงราย "เศรษฐา" ซัดนายกฯ คนปัจจุบันไม่เคยเปิดตลาดเกษตรใหม่ๆ "สมศักดิ์" ฟุ้งปชช.พอใจผลงานปราบยาเสพติดยุค " ทักษิณ" พร้อมเดินหน้าสานต่อ "หญิงหน่อย" หลั่งน้ำตากลางเวทีสกลนคร

เมื่อวันอาทิตย์ สำนักวิจัยซูเปอร์โพลเสนอผลสำรวจเรื่อง นายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนต้องการ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ  1,850 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2566 ที่น่าพิจารณาคือ 5 อันดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน พบว่า อันดับแรก หรือ ร้อยละ 57.2 ได้แก่ ปัญหาเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังเจอ, อันดับที่สอง หรือร้อยละ 52.5 ได้แก่ นโยบายที่พรรคการเมืองเสนอและทำได้จริง, อันดับที่สาม  หรือร้อยละ 44.1 ได้แก่ ผู้นำการเมือง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, อันดับที่สี่ หรือร้อยละ 40.3 ได้แก่ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และอันดับที่ห้า หรือร้อยละ 38.0 ได้แก่ พรรคการเมือง

ที่น่าสนใจคือ นายกฯ ที่ประชาชนต้องการในมิติต่างๆ พบว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ใจกลุ่มคนที่ชอบนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 78.6, นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่มีประสบการณ์แก้ปัญหาธุรกิจ วิกฤตเศรษฐกิจได้ ร้อยละ 73.8, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 73.2, นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่จิตใจดีไม่เป็นเหตุขัดแย้ง ร้อยละ 67.2

นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังได้ใจกลุ่ม อสม. คนที่เห็นผลงานแก้วิกฤตโควิด นโยบายสุขภาพ ร้อยละ 62.3, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่เป็นตัวของตัวเอง ร้อยละ 59.2, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่มีความสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ร้อยละ 52.4, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองจากภาพจำในอดีต ร้อยละ 50.0 และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกฯ ที่อายุไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ร้อยละ 47.7

 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ขณะนี้แต่ละพรรคการเมืองต่างแข่งขันประชันนโยบายเพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนพิจารณา พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก็ขออาสาและเสนอตัวรับใช้ประชาชนให้เกิดความต่อเนื่อง ตามที่ประกาศทำอยู่ ทำแล้ว ทำต่อ มีหลายนโยบายดีๆ ที่ต้องสะสางให้สำเร็จ หากพรรคอื่นเข้ามาอาจไม่มาสานต่อเรื่องที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำไว้ ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ดังนั้นขอโอกาสกาเบอร์ 22 ให้พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาทำงานต่อให้ประเทศพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ลงนามคำสั่งพรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานสื่อสารและประชาสัมพันธ์ โดยมีนายธนกร ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ขณะที่คณะทำงานประกอบด้วยนายอนุชา บูรพชัยศรี, นายบุญยอด สุขถิ่นไทย, นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์, นายวินท์ สุธีรชัย, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์, น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี และ น.ส.อัยรดา บำรุงรักษ์ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ

ปลุกปชช.ก้าวไปกับ 'ลุงตู่'

โดยมีอำนาจหน้าที่วางยุทธศาสตร์การสื่อสารการประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือของพรรค รทสช. รวมทั้งผู้บริหารพรรคและสมาชิกพรรค ต่อประชาชนและสาธารณะ สื่อสารประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับพรรค

เพจเฟซบุ๊กลุงตู่ตูน ซึ่งเป็นเพจสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์คลิปวิดีโอภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ และบทสัมภาษณ์ประชาชนหลากหลายกลุ่ม ถึงความรู้สึกที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบบทเพลงไร้รัก ไร้ผล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์นำบางท่อนมากล่าวถึงภายหลังร่วมงานสถาปนากลาโหม 136 ปี เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2566 โดยประชาชนผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่หยิบยกบทเพลงดังกล่าวขึ้นมา ทำให้คนไทยได้คิดถึงเพลงนี้อีกครั้ง ได้คิดและมีสติขึ้นมา อยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน อย่าแตกแยกกันอีกเลย ขอวิงวอนให้ทุกคนมาร่วมรักประเทศชาติด้วยกัน และพากันเดินหน้าต่อไปในอนาคต อย่ามาขัดแย้ง อย่ามาทะเลาะกันเลย และจะก้าวข้ามความขัดแย้งไปพร้อมๆ กับ พล.อ.ประยุทธ์ สมัครสมานสามัคคี ร่วมกันพัฒนาชาติไทยไปด้วยกัน

ช่วงเช้า เวลา 08.00 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. พร้อมด้วยนายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรค ลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนนจากชาวบ้านในเขตลาดพร้าว บางกะปิและคันนายาว ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า ได้ลงพื้นที่รณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจถึงเบอร์ผู้สมัครในแต่ละเขต และเบอร์ของพรรคคือ 22  จากการลงพื้นที่มีเสียงจากประชาชนที่สะท้อนปัญหามายังพรรคน้อยมาก ส่วนใหญ่จะพบว่าประชาชนเชียร์ผู้สมัครของพรรคอยู่แล้ว เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่  พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี

 “เสียงตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนรู้จักพรรครวมไทยสร้างชาติเบอร์ 22” นายเอกนัฏกล่าว

มั่นใจปักธงปทุมธานี

ที่ จ.ปทุมธานี ร.อ.ธรรมนัส ธรรมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวในระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียงที่ จ.ปทุมธานี ว่ามั่นใจว่าจะปักธงได้ แม้ว่าการเลือกตั้งปี 2562 ผู้สมัครส่วนใหญ่อยู่อันดับสอง แม้เราจะเตรียมตัวมาก แต่สำหรับการเลือกตั้งปีนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถคว้าโอกาสได้ไม่ยาก จ.ปทุมธานีเราจะประสบความสำเร็จ ส่วนที่หลายพรรคการเมืองตั้งเป้า จ.ปทุมธานีนั้น เราต้องมั่นใจในผู้สมัครของเรา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ก็มั่นใจว่าปักหมุดได้ เพราะเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 จังหวัดรอบกรุงเทพมหานคร

เมื่อถามว่า มีการดีลกับพรรคอื่นในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรกล่าวชัดเจนว่ายังไม่คุยเรื่องนี่ เพราะยังไม่ถึงเวลา ขอให้ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุดก่อน

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะจับมือทุกพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นโยบายเราชัดเจนว่าก้าวข้ามความขัดแย้ง มองประโยชน์ประเทศและประชาชน ส่วนจะรวมกับพรรค รทสช.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค 

ถามย้ำว่า ให้เลือกดีลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเลือกพรรคไหน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตอนนี้ไวเกินไปที่จะพูด เรายังไม่รู้ว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่

เมื่อถามถึงกรณีโพลต่างๆ ไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร จะเรียกคะแนนนิยมได้อย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เหลืออีกกว่า 30 วันในการเลือกตั้ง ในฐานะผู้สมัครดูแลพื้นที่ มีความมั่นใจว่าพรรค พปชร.จะชนะ ยังไงก็ต้องเกิด 50 ที่นั่ง 

'อนุทิน' อ้อนชาวเชียงราย

ถามอีกว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ พรรคเพื่อไทยคาดหวังว่าจะได้ 310 ที่นั่ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองหวังว่าจะได้เยอะที่สุด แต่ความจริง ส.ส.มีแค่ 500 ที่ ส่วนตัวว่ายาก และประเมินยาก ต้องดูอีกสักระยะหนึ่งไป ปลายเดือนคาดว่าจะชัดเจน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส รองหัวหน้าพรรค พปชร. ปราศรัยตอนหนึ่งถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าออกข่าวว่าโอนหุ้นบริษัทให้คนอื่นหมดแล้ว ยกเลิกตำแหน่งในบริษัทและประกาศว่าจะเป็นนายกฯ นั้น และเคยบอกว่าจะไม่เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นนายกฯ แสดงว่าเขาคุยกันแล้วว่าจะเป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นต้องดูว่า น.ส.แพทองธารโอนหุ้นเหมือนนายเศรษฐาหรือหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายชัยวุฒิได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อมูลว่า น.ส.แพทองธารยังไม่โอนหุ้นในบริษัท เอสซี แอสเสท 1,200 ล้านหุ้น หรือ 28.54% พร้อมกับฟันธงว่าขอวิเคราะห์เลือกพรรคเพื่อไทย ได้เศรษฐาเป็นนายกฯ แน่นอน ซึ่งการเป็นนายกฯ นั้นต้องทำตามคำสั่งนายใหญ่ เตือนด้วยความเป็นห่วง เพราะนายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ใช่เป็นคนในครอบครัว ดูอย่างเมื่อปี 2550 พรรคพลังประชาชน ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ แต่ขัดใจนายใหญ่ก็อยู่ไม่ได้ จึงได้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ก็เพราะเป็นน้องเขยนายใหญ่ 

ที่สนามกีฬาตำบลป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และคณะผู้บริหารพรรค เดินทางลงพื้นที่เพื่อปราศรัยหาเสียง ประชาชนต้อนรับอย่างเนืองแน่น โดยการปราศรัยครั้งนี้ นายอนุทินได้ใช้ภาษากลางผสมภาษาถิ่นภาคเหนือเพื่อสื่อสารกับประชาชน บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน นายอนุทินกล่าวว่า “ขอบคุณนักๆ  เจ้า ขอบคุณขนาดเจ้า อากาศฮ้อนจะอี้ ก็ยังมาต้อนฮับอย่างอบอุ่น พี่น้องมาต้อนฮับขนาดนี้ จะไม่ได้หัวใจผมไปได้จะได”

จากนั้นนายอนุทินได้แนะนำตัวผู้สมัครรายคน ก่อนระบุว่า ที่อยู่ตรงนี้คือ คนรับใช้ของพี่น้องทุกคน มาวันนี้ เพื่อขอโอกาสให้ท่านได้เลือกเราเข้าไปทำงานในสภา ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้ทำงานรับใช้ท่านมาแล้ว ตอนที่เป็นรมว.สาธารณสุข และช่วงสุดท้ายนายอนุทินได้กล่าวถึงจุดเด่นของพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นพรรคที่ปฏิเสธความขัดแย้ง แต่มุ่งมั่นการทำงาน หากได้เข้าไปในสภา จะไม่เล่นการเมือง แต่จะร่วมมือกับทุกพรรคพัฒนาประเทศ

ปชป.ชู ปชต.ต้องไม่โกง

ที่โรงแรม The Pride Hotel Phitsanulok อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ประชุมมอบนโยบายให้กับแกนนำพรรค 50 คน จาก 5 เขตเลือกตั้ง เน้น 3 ป. ประชาชน ประชาธิปไตย ประชาธิปัตย์ โดยให้แกนนำเน้นเดินเข้าหาประชาชนถึงบ้าน 

ต่อมาเวลา 10.00 น. ได้เดินทางมาที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพาณิชยการพิษณุโลก โดยนายจุรินทร์พร้อมคณะได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงพร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ปชป. จ.พิษณุโลก ทั้ง 5 เขตว่า พรรคมี 16 นโยบายเด่น คือเดินหน้า การประกันรายได้เกษตรกร ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด สนับสนุนการค้าขายต่างประเทศ เป็นต้น

จากนั้นนายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า  มีความเชื่อมั่นในผลงานของ ปชป. ว่า พรรคมีผลงานที่เป็นจุดแข็งที่เป็นที่ประจักษ์มากมาย ที่สามารถครองใจประชาชน และตนเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็สั่งสมประสบการณ์มานาน  จากนี้ต่อไปเราต้องเดินหน้าต่อไปคือต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบและเป็นระบบรัฐสภา ไม่ใช่ประชาธิปไตยระบบประธานาธิบดี ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ไม่โกงด้วย เพราะโกงเมื่อไรเราก็สูญเสียประชาธิปไตยเมื่อนั้น หลายยุคสมัยที่เกิดการรัฐประหาร ก็เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้นทุจริตคอร์รัปชัน โกงบ้านโกงเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการหาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์อย่างไรบ้าง นายจุรินทร์  กล่าวว่า ไม่กล้าไปวิจารณ์ท่านหรอก  ถ้าเลือกท่านมาเป็นนายกฯ ท่านก็อยู่ได้แค่ 2 ปี หลังนั้นก็จะเกิดประเด็นทางการเมืองขึ้นอีก จึงอยากให้เลือกพรรคการเมืองที่ยั่งยืน พรรคการเมืองที่รับผิดชอบและสามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชนได้ต่อไปยาวนาน ไม่อยากให้เลือกพรรคเฉพาะกิจ

พท.ส่อฟื้นฆ่าตัดตอน

เมื่อเวลา 12.20 น. ที่ตลาดทุ่งโฮ้ง จ.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พร้อมแกนนำเดินตลาดทุ่งโฮ้ง เพื่อทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาเดินซื้อผ้าม่อฮ่อมและผ้ามัดย้อม ซึ่งตลาดทุ่งโฮ้งถือเป็นแหล่งผลิตผ้าม่อฮ่อมและผ้ามัดย้อมที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ซึ่งนายเศรษฐาและคณะได้พากันสวมเสื้อม่อฮ่อมเพื่อทำกิจกรรมที่จังหวัดแพร่ในวันนี้ด้วย

นายเศรษฐากล่าวว่า หากพรรค พท. เป็นรัฐบาล จะเป็นนายหน้านำสินค้า และซอฟต์เพาเวอร์ของไทยไปเจรจาค้าขายกับต่างชาติ นายกฯ จากพรรค พท. จะเป็นเซลส์แมนนำสินค้าของพี่น้องประชาชนไปขายกับต่างประเทศ

จากนั้น เวลา 14.00 น. นายเศรษฐา และคณะพบปะเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และชาวนาในพื้นที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่สะท้อนเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ รวมถึงเรื่องเอกสารสิทธิที่ดินทำมาหากิน และระบบน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก โดยพรรค พท.จะสร้างถนนและทางรถไฟรางคู่ เพื่อขยายตลาดให้กับพี่น้องเกษตรกรทุกคนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และขยายตลาดการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศ เนื่องจาก 8 ปีที่ผ่านมานายกฯ คนปัจจุบันไม่ได้ไปเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับพี่น้องเกษตรกรเลย            

ต่อมา เวลา 15.30 น. ที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยย่อย จากนั้นนายเศรษฐาและคณะ ขึ้นรถร่วมกิจกรรมรถแห่รอบเมือง จ.ลําปาง และปราศรัยบนรถแห่ที่ห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมืองลำปาง

ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่โรงเรียนวัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เพื่อปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยนายสมศักดิ์กล่าวตอนหนึ่งว่า การแก้ปัญหายาเสพติดที่ประชาชนพอใจผลงานรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของนายทักษิณ จนถึงขั้นพร้อมใจกันบอกว่าคนที่แก้ปัญหายาเสพติดได้ดีที่สุดคือนายทักษิณ ปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยก็มีนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดแบบจริงจัง บวกกับผมที่ได้เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดอย่างหนักมากว่า 4 ปี ขณะเป็น รมว.ยุติธรรม ซึ่งได้แก้กฎหมายกว่า 24 ฉบับ เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อเน้นยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายา โดยสามารถยึดอายัดทรัพย์ได้รวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท ตัดวงจรการค้ายาเสพติดไปได้จำนวนมาก

 “เสมือนผมปูแนวทางใหม่ไว้แล้ว ถ้าขับเคลื่อนไปพร้อมกับนโยบายพรรคเพื่อไทย ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหายาเสพติดได้” นายสมศักดิ์กล่าว

จากกรณีที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย มีอาการป่วยกะทันหันหลังจากลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.น่าน โดยได้ตรวจซีทีสแกน พบว่ามีก้อนเลือดแห้งอยู่ในสมอง ล่าสุดนายชัยเกษมเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวจาก จ.น่าน พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คอยติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิด และได้เดินทางถึงกรุงเทพฯ แล้ว ก่อนเข้ารับการรักษาตัวที่ตึกอัษฎางค์ โรงพยาบาลศิริราช โดยนายชัยเกษมยังสามารถสื่อสารพูดคุยกับครอบครัวได้ตามปกติ   

ที่ จ.สกลนคร พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค เดินทางจาก จ.นครพนม มายังเวทีปราศรัยไทยสร้างไทย อีสานมั่งคั่ง ปักธงสกลนคร ที่โรงเรียนสกลนครพัฒนา อ.เมืองฯ พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรค โดยมีประชาชนให้ความสนใจรับฟังเวทีปราศรัยกว่าหมื่นคน คุณหญิงสุดารัตน์ ได้หลั่งน้ำตากลางเวทีปราศรัย หลังมีประชาชนหลายรายวิ่งเข้ามากอดและร้องไห้ พร้อมตะโกนส่งเสียงเชียร์คุณหญิงหน่อยนายกฯ คนอีสาน.