ชู‘ผู้นำความมั่นคง’ ประยุทธ์ปราศรัยครั้งแรก ชัยวุฒิดุอัดไพร่หมื่นล้าน

3 พรรคการเมือง "รทสช.-พปชร.-ปชป." เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เมืองกรุง "ลุงตู่" อ้อน FC บอกเป็นคนกรุงเทพฯ ปลุก ปชช.สามัคคี อย่าให้ใครมาเหยียบย่ำ-ทำลาย 3 แกนหลัก ปท.  "ชัยวุฒิ" ฟาดยับไพร่หมื่นล้านมาด่าประเทศ รับไม่ได้พวกเนรคุณแผ่นดิน "จุรินทร์" ลั่นแก้ รธน.ห้ามแตะหมวด 1-2  "ธนาธร" โยน "ปิยบุตร" วิจารณ์เพื่อไทยแค่เห็นส่วนตัว เชื่อลึกๆ 2 พรรคยังมีนโยบายตรงกัน

มีการจัดเวทีปราศรัยของ 3 พรรคการเมืองใหญ่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกอบด้วย พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในช่วงเย็นวันที่ 7 เม.ย. เพื่อเปิดนโยบายการหาเสียงสำหรับคนกรุงเทพฯ

โดยที่สวนเบญจกิติ บริเวณลานอัฒจันทร์กลางแจ้ง เวลา 17.00 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่กรุงเทพฯ เวทีแรก ในกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค และแกนนำพรรค เข้าร่วมกิจกรรม

ภายหลังการแนะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต นายพีระพันธุ์ได้ขึ้นปราศรัยช่วงหนึ่งว่า หัวใจของพรรคคือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน มีคนฝากส่งมาเรื่องหนึ่งบอกว่าอย่าลืมเรื่องประเทศไทย คนไทยกว่า 70 ล้านคน แต่ทำไมวันนี้เห็นคนไม่กี่คน หยิบมือหนึ่ง สร้างความวุ่นวายปั่นป่วน ทำไมคนไทยไม่รักชาติ ทำไมชังชาติ ทำไมไม่รักสถาบัน ทำไมจะล้มสถาบัน
"เขาถามผมว่าถ้ามาดูแลบ้านเมืองจะทำอย่างไร ผมตอบไปว่าคำตอบง่ายมาก แผ่นดินไทยประเทศไทยมีไว้เพื่อคนรักชาติ แผ่นดินประเทศไทยเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักชัยของประเทศ ถ้าคุณไม่ชอบคุณไม่มีสิทธิ์เปลี่ยน เพราะคนไทยทั้งชาติเขาเอา ถ้าคุณไม่ชอบเชิญไปอยู่ที่อื่น ไม่ห้าม ไปได้เลย ท่านชอบประเทศไหนไปเลย แต่ประเทศไทยต้องเป็นแบบนี้ตลอดไป ภายใต้รวมไทยสร้างชาติเราจะไม่เปลี่ยนแปลง ถ้ารวมไทยสร้างชาติเป็นแกนนำรัฐบาล เราจะจัดการกับพวกชังชาติ พวกล้มสถาบันโดยเด็ดขาด" นายพีระพันธุ์กล่าว

ต่อมาเวลา 18.38 น. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งระบุว่า เรามีรอยยิ้ม ยิ้มหวานๆ ทุกคน ยิ้มกว้างๆ เขาเรียกว่ายิ้มสยาม นี่คือเสน่ห์ของคนไทยคนกรุงเทพฯ เราต้องไม่โมโหโทโส ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้ง ยิ้มอย่างเดียวยิ้มๆๆ และเราเป็นแหล่งกินแหล่งเที่ยวหลากหลาย เราเป็นมหาอำนาจอาหารระดับโลก อาหารไทย ฝรั่ง จีน และญี่ปุ่น เขากินจนปากพอง แต่เขาก็พยายาม เวลาเจอแขกต่างประเทศมาถามว่าอาหารไทยอร่อยไหม เขาบอกว่าอร่อย แต่เผ็ดไปนิดหนึ่ง ซึ่งตรงนี้พวกเราปรับได้อยู่แล้ว ความเผ็ด เพราะคนไทยเป็นคนเผ็ดร้อนใช่ไหม ใครมาเหยียบย่ำใครมาทำลายไม่ได้ เหมือนที่เรารักประเทศของเรา รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะต้องเป็นคนที่เผ็ดร้อน ในการที่จะป้องกันแกนหลักของประเทศไทยไว้ให้ได้ทั้ง 3 ส่วน เราควรจะภูมิใจใช่ไหม

 “ลองนึกดูนะ ฝันๆ หลับๆ ไปแล้วตื่นขึ้นมา เอ๊ะถ้าเราได้ ส.ส. 33 เขตทั้งหมดนี้จะเป็นไงเนี่ย เราบางคนก็อย่าลืม คนบางคนชอบเรา แต่บางคนก็ไม่ชอบ แต่มีคนต้องการที่ไม่รู้จะเลือกใครเอามาให้ได้ ข้างบ้านใครไม่ออกมาเลือกตั้งไปเคาะประตูมาให้หมด ออกมาเลือกตั้ง ทุกคนต้องมาใช้สิทธิ์ร่วมกัน ในการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอะไรก็แล้วแต่”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

'ตู่' ปลุกป้อง 3 แกนหลัก ปท.

แคนดิเดตนายกฯ รทสช.กล่าวว่า ขอให้พวกเรารอรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ วันนั้นการที่เราบริหารจัดการได้อย่างดีมีคุณภาพในการนำพาประเทศผ่านวิกฤตโควิด-19 ของเราถือว่าเป็นประเทศชั้นนำในโลกใบนี้ได้อย่างปลอดภัย เสียหายน้อยที่สุด และเราสามารถเปิดประเทศได้เร็วที่สุด เพราะใคร เพราะลุงตู่เป็นคนตัดสินใจ จากวันนั้นมาถึงวันนี้ คนเข้ามาในประเทศอีก 10 ล้านคน แล้วรายได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นอยากได้ผู้นำที่ทำแบบนี้ได้ไหม ทุกประเทศเขาเลือกผู้นำจากตรงไหน เขาเลือกจากผู้นำที่ให้ความสำคัญประเด็นความมั่นคง ถ้าประเทศชาติไม่มั่นคงแล้วมันจะมั่งคั่งได้อย่างไร ใครจะกล้ามาลงทุน ไม่มีหรอก แต่นี่คนเดิมนะ ถ้าบ้านเรายังเละๆ ทะเลาะเบาะแว้งกัน ทั้งนี้ เรามักจะมองอะไรที่ใกล้ตัว ตนไม่ว่า แต่เราก็ต้องมองไกลตัวด้วย ตนบริหารมาหลายปี นึกถึงคนทุกคน

"เราต้องการผู้นำที่มีวิสัยทัศน์หรือเปล่า มองอนาคตไหม อนาคตคืออะไร อนาคตมีลุงตู่อยู่ด้วย จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด เบอร์อะไร 22 ใช่ไหม เป็นทหารมา 30 กว่าปีไม่เคยมีความสุขเท่าวันนี้  เพราะอยู่ในกองทัพตั้งแต่เด็กจนโต เป็นผู้บังคับบัญชามา มีระเบียบวินัยในกองทัพ ทหารทุกคนตอนรักเหมือนลูกเหมือนหลาน ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ จำคำพูดของผมไว้" แคนดิเดตนายกฯ รทสช.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า บอกเสียก่อนนะว่าตนเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่โคราชก็จริง แต่คุณพ่ออยู่กรุงเทพฯ ต้นตระกูลใหญ่อยู่กรุงเทพฯ อยู่บางขุนเทียน ตอนพายเรือข้ามน้ำเรียนหนังสือ อยู่คนละฝั่งนั่งเรือเล็กๆ ไปขึ้นรถไปโรงเรียน บางวันไปสายหน่อย เพราะเรือล่ม หนังสือเปียกหมด เพราะเรือหางยาววิ่งเยอะ คลองวัดไทร วัดหนัง วัดสิงห์ สิ่งที่เป็นปัญหามากในวันนี้คือน้ำท่วม การจราจรคูคลองไม่สะอาด ขยะเต็มเมือง แต่ถ้าเราช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงคลองเกลื่อนทั่วไป เราต้องปรับให้ได้ ผมจะแก้ระบบระบายน้ำในกรุงเทพฯ ให้ได้ อย่าคิดว่าเราสั่งได้ ต่อให้เป็นนายกฯมาจากไหนก็สั่งไม่ได้ สั่งประชาชนไม่ได้ แต่ขอความร่วมมือและขอความเห็นชอบ การจะสร้างถนนขุดท่ออะไรต่างๆถ้าถามก็ไม่ได้ขุด เพราะท่านคือพลังคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องฟังเสียงท่าน ตนได้แต่ขอร้อง ตนไม่เคยทุบใคร หรือสั่งใครผิดๆ ถูกๆ กรุงเทพฯเป็นดินแดนแห่งสวรรค์ อย่าทำให้สวรรค์เป็นนรกก็แล้วกัน

"เราต้องไม่ให้ใครทำแบบนั้นใช่ไหม นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของท่าน พ่อแม่บรรพบุรุษ พระมหากษัตริย์ วันนั้นมาถึงวันนี้กี่ร้อยปีแล้ว เราเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งที่ได้ทำ ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นพรรค รทสช.ว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้ผมมาในฐานะนักการเมือง จะเอ่ยชื่อรัฐมนตรีไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยไม่ได้ตั้งใจ วันนี้ก่อนนอนก็ต้องเรียกตัวเองว่าลุงตู่ เพราะอยู่มานานก็ติดชื่อตัวเอง อะไรก็แล้วแต่ ต้องพยายามระมัดระวังที่สุด 8 ปีที่ผ่านมาผมได้เปลี่ยนไปมาก ในการทำงาน แม้แต่สวนเบญจกิติ ผมก็มีส่วนร่วมในการผลักดัน ซึ่งจะไม่จบแค่นี้ จะสวยงามกว่านี้ สิ่งที่คาดหวังไว้คือทำอย่างที่ต่างประเทศทำ ซึ่งเดี๋ยวค่อยว่ากันต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "วันนี้มีอย่างเดียว ขอพวกเรารักกันมากๆรักสามัคคีมีพลัง ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการงานสิ่งใดก็ไร้ผล จะพาประเทศย่อยยับอับจน ประชาชนจะสุขอยู่อย่างไร จำไว้ นี่คือคำสัญญาจากรวมไทยสร้างชาติ บัตรกี่ใบ เบอร์อะไร ส.ส.เขตมีหลายเบอร์มี 2 ใบ ส.ส.เขตต้องเลือกตามเบอร์ ส.ส.เขต ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ต้องเบอร์ 22 เท่านั้น จำหน้าไอ้คนนี้ไว้ให้ได้ ไม่ลืมกัน แต่ไม่ต้องฝันถึงนะ จริงๆ แล้วผมเขียนมาทั้งหมด แต่พอเจอพวกเราก็พูดไม่หมด แต่อยากให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมด้วย ไม่ใช่มานั่งฟังแล้วหน้าแหยๆ แต่นี่ไม่มีคนกลับบ้านเลย ยอดเยี่ยม มีใครไปกั้นประตูไว้หรือเปล่า ก็ไม่มี ผมสั่งแล้วอย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค รทสช.ยังได้ปล่อยเพลง “ลุงตู่อยู่รวมไทยสร้างชาติ” หรือ “ลุงตู่อยู่ไหน” เวอร์ชัน 2 ออกมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง โดยถือฤกษ์วันที่ 7 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรก พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตเลือกตั้งพร้อมเบอร์ ท่ามกลางผู้สนับสนุนและประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับฟัง

พปชร.ซัดไพร่หมื่นล.ด่าปท.

ส่วนที่สวนเบญจสิริ เขตคลองเตย เวลา 17.30 น. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดปราศรัยย่อยกรุงเทพฯ โซนใต้ “พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ” มีผู้บริหารและแกนนำพรรค นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค รับผิดชอบดูแลพื้นที่ กทม., นายอุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม. พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ เขต 23, นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ เขต 4, น.ส.แพรว กิจสุวรรณ เขต 21 ปราศรัย นางชญาภา ปรีดาพากย์ แนะนำนโยบายพรรคใน กทม. โดยบรรยากาศก่อนปราศรัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอกชนคอยตรวจบุคคลที่ผ่านเข้า-ออกอย่างเข้มงวด เพื่อคัดกรองสิ่งผิดปกติ ขณะที่ผู้สนับสนุนทยอยเดินทางมาจับจองที่นั่ง ประมาณ 500 คน 

 จากนั้นเวลา 18.57 น. นายชัยวุฒิ ขึ้นปราศรัย ตอนหนึ่งระบุว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลที่มี พปชร.เป็นแกนนำมา 4 ปี เชื่อหรือไม่ว่าในขณะที่เราหาเสียง เรารู้สึกดี มีต่างชาติชื่นชมไทย แต่เวลาหาเสียงจะมีนักการเมืองฝ่ายค้านตรงข้ามรัฐบาลพูดแต่สิ่งไม่ดี พูดปัญหาต่างๆ ให้คนเกลียดชังประเทศไทย  

 “แม้จะมีนักการเมืองบางคนไม่ขอเรียกชื่อแล้วกัน ขอเรียกว่าไพร่หมื่นล้าน เจ้าสัวหมื่นล้าน พวกท่านรู้ว่าผมหมายถึงใคร พูดว่าประเทศไทยแย่มาก ไม่มีโอกาสให้ลูกหลาน เราต้องเปลี่ยนประเทศจะได้โอกาส คุณเคยถามอากง อาม่า ถามพ่อคุณมั้ย อพยพมาจากจีน เสื่อผืน หมอนใบ มาหาโอกาส มาใช้ชีวิตในไทย ทำโน่นทำนี่จนร่ำรวย มีธุรกิจเป็นแสนล้าน จนมีเงินมาทำพรรคการเมือง วันนี้มาบอกประเทศไทยไม่ให้โอกาสคนมันจริงหรือไม่ วันนี้ผมเห็นเยอะ วัยรุ่นอายุ 20 ปีจับเงินล้าน ค้าขายออนไลน์ ในรัฐบาลชุดนี้ที่วางระบบดิจิทัลให้เกิดการค้าขายออนไลน์ เกิดเศรษฐดิจิทัลแบบใหม่ เกิดคนขายของออนไลน์มากมาย แม่ค้าบางคนมารวยในรัฐบาลชุดนี้นี่แหละ หลายคนมีโอกาสทำมาหากิน” นายชัยวุฒิกล่าว 

 รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า อากงตนเป็นคนจีน มาพึ่งประเทศไทย เขาสอนตนตลอดว่าเราต้องรักแผ่นดินที่เราอยู่ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องกตัญญูต่อแผ่นดิน ดูแลแผ่นดินนี้ให้ดีที่สุดเพื่อลูกหลานต่อไป ตนรับไม่ได้ถ้ามีคนแบบนั้นมาเนรคุณแผ่นดิน และเชื่อว่าทุกคนรับไม่ได้ แล้วไปทำพรรคการเมืองก็ไปพูดบิดเบือนบอกว่ารัฐบาลนี้บริหารประเทศล้มเหลว ประเทศเสียหาย ทั้งที่ตัวเลขเศรษฐกิจมันดีทั้งหมด ไปหลอกชาวบ้านทำไม  

 "วันนี้มีพรรคการเมืองใหม่คือพรรคก้าวไกล มีผู้ช่วยหาเสียงคือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผมเชื่อว่าไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียง เห็นพรรคมีปัญหาทีไรให้นายธนาธรมาเคลียร์ จบ เป็นพรรคของนายทุนแน่นอน ไม่ใช่พรรคของประชาชน ขณะที่ พปชร. ผมยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ตั้งใจมาช่วยประชาชนแก้ปัญหาให้บ้านเมือง ไม่เคยมีนายทุนกลุ่มไหนมานั่งมาสั่ง และรัฐบาลชุดนี้ถ้าไม่มี พล.อ.ประวิตร ไม่มีทางอยู่ครบเทอมได้ ครั้งหน้า พล.อ.ประวิตรจะเป็นเสาหลัก แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีอย่างแน่นอน" รองหัวหน้า พปชร.กล่าว 

 นายชัยวุฒิยังกล่าวถึงเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหารว่า รู้ว่านโยบายแบบนี้วัยรุ่นชอบ แต่มันต้องทำให้เขาเข้าใจว่าประเทศไทยอยู่ได้ ต้องรักชาติและเสียสละเพื่อแผ่นดินไทย ซึ่งเขาไปปลูกค่านิยมแบบนี้ให้ลูกหลานได้อย่างไร ตนเสียใจมาก วันนี้ถามว่าเวลาเกณฑ์ทหารเขาก็มีคนสมัครเต็มใจไป เพราะรักชาติ แต่ไม่พอ มันถึงต้องเกณฑ์ทหาร ตนไม่เห็นด้วยกับนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร เพราะทำให้ประเทศเรามีปัญหาเรื่องความมั่นคงแน่ จะเกิดค่านิยมที่ไม่รักชาติ ไม่รักแผ่นดิน เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก

"วันนี้เห็นสองพรรคแล้วที่หาเสียงเรื่องยกเลิกเกณฑ์ทหาร คือพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ผมรับไม่ได้กับนโยบายนี้ เราจะปล่อยให้การเมืองมาทำแบบนี้ไม่ได้ เอาแต่ความนิยม แต่ไม่มีการหลักการไม่มีเหตุผล" นายชัยวุฒิกล่าว  

แก้ รธน.ห้ามแตะหมวด 1-2

ขณะที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เวลา 17.30 น.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่เป็นครั้งแรก โดยในการปราศรัยครั้งนี้ ปชป.จัดเวทีแบบ 360 องศา เพื่อให้ผู้สมัคร ส.ส.ใกล้ชิดกับประชาชน เพราะประชาชนเท่ากับ ปชป. อย่างไรก็ตาม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเวทีเริ่มต้นด้วยการแนะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคทั้ง 33 คน 33 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเป็นการปราศรัยของผู้สมัคร ส.ส.กทม. อาทิ นายธนา ชีรวินิจ เขตดินแดง พญาไท หมายเลข 9, นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เขตพระนคร ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ หมายเลข 10, ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง เขตคลองเตย วัฒนา หมายเลข 5 เป็นต้น

นอกจากนี้ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรค ปชป. ได้การจัดงานรูปแบบใหม่ใช้ 3D Mapping ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีการและศิลปะมาผสมผสาน แล้วฉายไปยังตึกของศาลาว่าการกรุงเทพฯ ให้เป็นฉาก แทนการใช้จอภาพหรือฉากหลังแบบเดิมๆ และยังจัดเวทีให้ผู้สมัคร ส.ส.ได้มีความใกล้ชิดกับประชาชน เพราะประชาชนเท่ากับประชาธิปัตย์

ต่อมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า พรรคสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 รวมทั้งจะไม่ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

 “14 พ.ค. ท่านไม่มีหลายทางเลือก คนไทยมีทางเลือกทางเดียว คือเลือกทางรอดของประเทศ หมายถึงการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่ใช่ประชาธิปไตยครึ่งใบ ทางรอดคือประชาธิปไตยเต็มใบ และต้องไม่โกงด้วย เพราะโกงเมื่อใดเข้าเงื่อนไขยึดอำนาจเมื่อนั้น และในที่สุดวงจรอุบาทว์ก็จะกลับมา” นายจุรินทร์กล่าว

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ปราศรัยว่า จากนี้ทีมปราศรัยของพรรคทั้งเวทีใหญ่ เวทีระดับเขต เวทีย่อย ปูพรมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเวทีใหญ่ที่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วยได้วางคิวถึงสิ้นเดือนเม.ย.แล้ว ส่วนในเดือน พ.ค. จะมีการปราศรัยในทุกวันทุกภูมิภาค เพื่อเน้นย้ำนโยบายและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ตัวแคนดิเดตทั้ง 3 คนก็จะทำงานร่วมกันเป็นทีม การไปร่วมเวทีใดขึ้นกับสถานการณ์และช่วงเวลาที่เหมาะสมลงตัว ส่วนเวทีปราศรัยปิดท้าย คาดว่าหลายพรรคการเมืองจะปักหมุดในช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค. พรรค พท. ก็เช่นกัน ซึ่งเวทีนี้จะมีแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คนปรากฏตัวบนเวทีร่วมกันอีกครั้ง เชื่อว่าเวลานั้น น.ส.แพทองธารจะผ่านการคลอดบุตรและพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันที่จะเข้าร่วมเวทีนี้อย่างแน่นอน

ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยกล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังพรรคประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประชาชนสามารถใช้วิจารณญาณได้ แต่ท่วงทำนองขอให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ได้ร่วมงาน ร่วมแนวทางประชาธิปไตยด้วยกันมา เพื่อทำให้การทำงานภาพรวมในสนามเลือกตั้งสวยงาม การแก้รัฐธรรมนูญเป็นแนวทางที่นำเสนอโดยนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค และเป็นแนวทางของพรรค พท.มาตลอด ที่ต้องแก้เต็มคาราเบล ต้องให้มีประชาชนเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มีกระบวนการทำประชามติทั้งก่อนและหลังการยกร่างการมี ส.ส.ร. ส่วนเนื้อหาสาระต้องเป็นวาระของ ส.ส.ร.ด้วย

“พรรคการเมืองมีสิทธิ์เสนอแนวทางประกอบการพิจารณาได้ แต่ไม่ใช่การไปแทรกแซงกดดัน การเห็นด้วยหรือไม่ต้องเคารพต่อความเห็นของ ส.ส.ร. ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองคงไม่มีใครมีมาตรวัดว่าใครทำอะไรมามากกว่าใคร เราเคารพทั้งความเหมือนและความต่างของเพื่อนร่วมทางจะดีกว่า” นายณัฐวุฒิกล่าว

โยนปิยบุตรวิจารณ์ส่วนตัว

วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ระบุไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะทำนโยบายหยุดรัฐประหารสำเร็จว่า เป็นสิทธิส่วนบุคคลของปิยบุตรในการแสดงความคิดเห็น เพราะถ้าหากเชื่อว่าจะมีพรรคการเมืองที่กล้าต่อสู้กับการทำรัฐประหารอย่างจริงจัง คงไม่มีอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่กลายมาเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้ แต่ในขณะเดียวกันตนก็เชื่อว่าถ้าพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยสามารถจับมือกันได้ จะมีทั้งพลังและประสบการณ์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย

“การร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็นทางเลือกการจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในตอนนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จริง ก็ยังมีความจำเป็นที่ทั้งสองพรรคต้องปรับจูนกันหลายอย่าง นโยบายของเพื่อไทยที่ดี ผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกลพร้อมผลักดันสนับสนุนอยู่แล้ว และเชื่อว่านโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุนเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับการหารือของทั้งสองพรรคหลังจากการเลือกตั้ง ว่าจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างไร”นายธนาธรกล่าว

เช่นเดียวกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตรว่า คิดว่าเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเหมือนกันคือ หยุดรัฐประหาร หากใครรู้จักนายปิยบุตรดี จะรู้ว่านายปิยบุตรพูดเกี่ยวกับหลักการ

ถามว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหากับพรรค พท.ในอนาคตหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า หากเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง และมองภาพใหญ่มากกว่าภาพเล็ก ตนคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหา สิ่งที่ควรต้องทำคือต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยการทำประชามติอย่างไร จะลดอำนาจของกองทัพลงได้อย่างไร ตนมั่นใจว่าจะหยุดรัฐประหารได้ หากมีเจตจำนงที่มากพอ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

30วันเลือกนายกปทุม

"พิเชษฐ์" แจ้งสภา 143 สส.สังกัดพรรคประชาชนแล้ว ด้าน "ณัฐวุฒิ" เผยใช้อักษรย่อ "ปชน."

คนใกล้ชิดอดีตบิ๊กกปปส. หนุน 'พระเอก' นั่งเก้าอี้รมต.ร่วมครม.ลูกแม้ว หลานอาปู

ถึงวันนี้ก็เห็นชัดเจนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ผนึกกำลัง สนับสนุน คุณขิง นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เต็มที่