สกัดแผนแม้วกลับไทย จี้เลิกกำหนดสถานที่คุมขัง พท.ลั่นเป็นรัฐบาลแก้รธน.

"บิ๊กตู่" เผย รทสช.จัดโผปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้ว แย้มอาจมีแก้ไข ลั่นยึดหลักคนทำงานไม่มีโควตา พร้อมนำทีมไปลงสมัครรับเลือกตั้ง 3-4 เม.ย. "พท." ประกาศเป็นรัฐบาล ชงประชามติแก้ รธน. ยกระดับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปัดตอบรับมือ "ทักษิณ" จะกลับไทย "วัชระ" ชิงสกัดกลับมาติดคุกแบบเท่ๆ ร้องนายกฯ เร่งยกเลิกกฎ ก.ยุติธรรมเรื่องกำหนดสถานที่คุมขังส่อเอื้อนักโทษหนีคดี "ลุงป้อม" คึก! พปชร.จัดใหญ่เปิดตัว 492 ผู้สมัคร ส.ส. ยันก้าวข้ามความขัดแย้ง "ปชป." ทำเก๋จัดรถ EV ขนผู้สมัครไปอาคารกีฬาเวสน์ 2 "องอาจ" โวพลังบวกหลัง "มาร์ค" ขึ้นเวทีบางพลัด

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เวลา 16.45 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ  (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเย็นวันที่  30 มี.ค. จะไม่เดินทางเข้าที่ทำการพรรค  รทสช. เพราะคุยกันแล้ว เป็นเรื่องของพรรคที่ดำเนินการภายใน ก็ได้คุยกันภายในพรรค หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ซึ่งบางครั้งทั้งหมดเป็นการประสานและหารือกับตนแล้ว และก็ดำเนินการตามนั้น ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีปัญหาเขาก็จะสอบถามมา เพราะตนก็มีงานที่ต้องทำตรงนี้ด้วย ฉะนั้นอะไรก็ต้องแบ่งให้ถูก เพราะมันลาราชการลำบาก งานเยอะ

ถามว่า วันที่ 3-4 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์จะไปให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคในการสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คิดว่าน่าจะไป เมื่อถามว่าไปทั้ง 2 วันเลยใช่หรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ดูก่อนสิ ตรงไหนมันควรจะไปก็ไป แต่ถ้าไปก็ต้องลาราชการ เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะนำเวทีปราศรัยใหญ่ในวันที่ 7 เม.ย.นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า มันควรจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า เหรอ

ถามถึงการจัดบัญชีรายชื่อ ส.ส.ของพรรคเรียบร้อยแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เรียบร้อย อาจจะมีการแก้ไข เมื่อแก้ไขก็ต้องทำใหม่หมด นั่นคือหลักการของทาง กกต. เมื่อส่งไปก็ต้องดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ มีคนลาออกมีคนย้ายอีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอยู่ แต่อย่างไรมันก็ทันเวลาอยู่แล้ว

"การจัดบัญชีรายชื่ออย่ามาบอกว่าเป็นสัดส่วนของใครเลย เราก็พิจารณาคนที่ทำงาน ก็ทำงานมาด้วยกัน ซึ่งต้องดูว่างานมากงานน้อย ใครควรจะอยู่ระดับไหนก็ว่ากันไปตามความเหมาะสม  เรียกว่าให้ความเป็นธรรมทุกคน และทุกคนก็อยากจะอยู่ในบัญชีรายชื่อ อยากอยู่ต้นๆ อะไรทำนองนี้ ก็ต้องไปดูผลงานต่างๆ เป็นอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับกันในมติส่วนใหญ่" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ซักว่า วันพาผู้สมัครไปสมัคร ส.ส.จะขึ้นรถแห่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องทีละขั้นสิ ไปให้กำลังใจเขาก่อน และจะดูว่าเขาจะไปไหนอย่างไร และมันควร-ไม่ควรอย่างไร ก็ต้องดูกัน ถ้ามาถามล็อกแบบนี้มันตอบไม่ได้ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็น รวมถึงการกำหนดเวลาอะไรต่างๆ ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย

ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ไม่ต้องแอบไปก็ได้ เพื่อที่สื่อจะได้เห็นบรรยากาศความเป็นจริง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมไม่ได้แอบ แต่ผมไม่ได้แจ้งใครในการลงพื้นที่ แต่บางครั้งผมก็คำนึงถึงความปลอดภัยของผมเหมือนกัน เพราะดูแลผมไม่ได้มากนัก เพราะผมเป็นนักการเมือง"

พท.ลั่นเป็นรบ.ชงแก้รธน.

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย (พท.) วันที่ 30 มี.ค. นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียมของพรรค พท. ประชุมคณะกรรมการครั้งแรก ร่วมนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค พท. และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานฯ พร้อมคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรค

นายชัยเกษมให้สัมภาษณ์ว่า 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนรู้สึกว่ามีการใช้กฎหมายรังแกประชาชนค่อนข้างมาก ดังนั้นต้องฟื้นฟูกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อปกป้องประชาชน เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เกิดความเสมอภาค ให้ความเหลื่อมล้ำหมดไป ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ยึดประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพประชาชน การจับกุมคุมขัง

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวได้แถลงข่าว โดยนายชูศักดิ์ ระบุว่า วันนี้คณะกรรมการฯ มีความเห็นร่วมกันใน 4 ข้อคือ 1.พรรค พท.มีนโยบายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยผ่านกระบวนการของสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. แต่ที่ผ่านมา ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ ซึ่งขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ทำประชามติก่อน ดังนั้นหากพรรค พท.เป็นรัฐบาล คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีมติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการทำประชามติสอบถามประชาชน

2.ในเรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 40 แต่เมื่อเกิดการรัฐประหาร ก็ไม่มีเรื่องนี้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอีก ดังนั้นต้องมีการรื้อฟื้น ฟื้นฟู เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพ การใช้ชีวิตของประชาชน โดยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ วิธีปฏิบัติใดที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับการแก้ไข 3.ในเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ความเสมอภาค เท่าเทียม ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของสังคม ทั้งทางกฎหมายและการปฏิบัติ ต้องได้รับการแก้ไขโดยพลัน และ 4.ที่ผ่านมาประชาชนถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกัน ด้วยเหตุผลที่ใช้ดุลยพินิจกว้างขวาง ดังนั้นต้องแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ ป.วิอาญา เพื่อให้หลักประกันต่อประชาชนในสิทธิของการประกันตัว ซึ่งพรรคเห็นว่าการให้ประกันตัวต้องเป็นหลัก การไม่ให้ประกันต้องเป็นข้อยกเว้น และเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ให้ประกันเรื่องอะไร

"เหล่านี้พรรคเพื่อไทยจะใช้เป็นนโยบายหาเสียง ต้องไม่ให้ตีความอย่างกว้างขวาง" นายชูศักดิ์กล่าว

ถามถึงกรณีที่ภาคสังคมออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมกฎหมายต่างๆ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราต้องเริ่มที่การแก้โครงสร้างรัฐธรรมนูญ อะไรที่ขัดกับหลักการเราจะดำเนินการ ส่วนรายละเอียดจะศึกษาและประกาศต่อไป ขอให้คำมั่นว่าจะดำเนินการในเรื่องความเท่าเทียมทันทีเมื่อเราเป็นรัฐบาล

ซักถึงกรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ ระบุหากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมารับโทษ จะมีคนไปนอนเฝ้าหน้าเรือนจำและเกิดความวุ่นวาย คณะกรรมการฯได้พิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้หารือเรื่องนี้ การตัดสินใจของนายทักษิณเป็นความคิดของท่าน

"พรรค พท.เห็นว่าสถานการณ์ปัจุบันต้องการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชน เราจะเป็นเครื่องมือเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงร่วมกับประชาชน ดังนั้นปัญหาสำคัญทั้งเศรษฐกิจ กฎหมาย ระเบียบที่ทำลายสิทธิขั้นพื้นฐาน เราจะทำควบคู่กันไป และหากเราเป็นแกนนำรัฐบาล นโยบายเหล่านี้จะเป็นหลักในการขับเคลื่อนของรัฐบาล" นายภูมิธรรมกล่าว

วัชระจี้แก้กฎ ก.ยุติธรรม

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวถึงการเลือกตั้งว่า ถึงเวลานี้ต้องยอมรับว่ากระแสความนิยมของพรรคดีขึ้น ประชาชนตอบรับนโยบายของพรรค รวมทั้งจากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พบประชาชนตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองไหน ดังนั้นจากกระแสที่เกิดขึ้นเชื่อว่าพรรค พท.ชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.เกินกว่าครึ่งของจำนวน ส.ส.ในสภาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่อีสานเชื่อว่าผู้สมัครจะได้ ส.ส.เกิน 100 คนจากจำนวน ส.ส.ทั้งหมดในพื้นที่อีสานจำนวน 132 คน

"ในการเลือกตั้งครั้งนี้เงินไม่ใช่ประเด็นหลักในการเลือกตั้ง เพราะประชาชนทราบดีแล้วว่า 8 ปีที่ผ่านมาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ใครเป็นผู้นำรวมไปถึงพรรคการเมืองกลุ่มไหนบริหารประเทศ ที่มีส่วนสำคัญทำให้ประชาชนใช้ชีวิตลำบาก ดังนั้นมั่นใจว่าเงินไม่สามารถชี้นำการเลือกตั้งได้เลย" นายสมคิดกล่าว

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนและยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2563 ตามที่ รมว.ยุติธรรมได้ประกาศเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2563 โดยกำหนดสถานที่คุมขัง หมายความว่า สถานที่อื่นที่มิใช่เรือนจำซึ่งเป็นสถานที่ของทางราชการหรือเอกชนที่เจ้าของหรือผู้ปกครองดูแลรักษาสถานที่อนุญาตหรือยินยอมเป็นหนังสือให้ใช้ประโยชน์ในการควบคุมผู้ต้องขัง ทั้งนี้ ต้องไม่ใช่สถานที่ตามมาตรา 89/2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

นายวัชระกล่าวว่า ต้องการสอบถามข้อเท็จจริงว่ากฎกระทรวงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับบุคคลทางการเมืองที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งหลบหนีคดีตามคำพิพากษาและจะกลับประเทศไทยใช่หรือไม่ ส่อว่ามีนัยสำคัญแอบแฝงทางการเมืองและไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอย่างเท่าเทียมกัน ที่อาจขัดกับหลักนิติรัฐนิติธรรมและคำพิพากษาของฝ่ายตุลาการ

"หากคณะรัฐมนตรีชุด พล.อ.ประยุทธ์ไม่เห็นพ้องด้วย ขอให้เร่งรีบใช้อำนาจของนายกฯ ยกเลิกกฎกระทรวงโดยพลัน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านเมือง และขอให้นำสาระหลักการดังกล่าวเพื่อรอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดต่อไปพิจารณาจะเป็นการเหมาะสมที่สุด รวมทั้งขอให้นายกฯ สั่งการกระทรวงยุติธรรมเพื่อดำเนินการทบทวนและยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ.2563 เพื่อธำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐนิติธรรมโดยเร็วที่สุด" นายวัชระกล่าว

ที่บางกอกอารีน่า เขตหนองจอก กทม. เวลา 14.30 น. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 400 คน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 92 คน รวม 492 คน และเปิดนโยบายพรรค โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง โดยบรรยากาศมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่หลายพันคน นอกจากนี้ ยังมีแฟนคลับแต่งคอสเพลย์อนิเมะ รวมถึงมีศิลปินดารา อาทิ กิ๊ก ดนัย จารุจินดา, โก้ บีมิกซ์, ป๊อก โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว, นิรุติ สาวสุชาติ, กลุ่มนางงาม นายแบบ อินฟลูเอนเซอร์จากหลากหลายอาชีพ,   กลุ่ม LGBTQ, กลุ่มนักกีฬาอีสปอร์ต มาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค พปชร.ด้วย 

'บิ๊กป้อม'คึกเปิดตัวผู้สมัคร

พล.อ.ประวิตรกล่าวบนเวทีว่า อยากจะสื่อสารให้ประชาชนชาวไทยทราบว่าคนไทยทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องร่วมชาติที่มีสายเลือดเดียวกัน ที่ผ่านมาประเทศของเราพัฒนาได้ยากเพราะความขัดแย้งและแตกแยก ตนจึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมใจกันก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยความรักความเข้าใจ  เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

 “ผมพร้อมที่จะประสานประโยชน์กับทุกฝ่าย พร้อมที่จะนำความรักความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติของเราคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป คนไทยทุกคนต้องรักกัน สามัคคีกัน เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างความสงบสุขความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศชาติและประชาชนของเรา  เมื่อเราก้าวข้ามความขัดแย้งได้ เราก็จะมีพลังที่จะก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน จะก้าวทั้งความขัดแย้งและความยากจน” หัวหน้าพรรค พปชร.ระบุ

พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายทักษิณจะกลับมาประเทศไทย โดยระบุเพียงว่า ไม่ขอพูดถึง เพราะเขาถูกลงโทษไม่ใช่หรือ ก็ขอให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม

ถามว่า ดูจากบรรยากาศวันนี้ เราพร้อมกับการเลือกตั้งมากที่สุดแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวเสียงดังว่า เราพร้อมแล้ว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายสมหวัง อัสราษี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. อดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงว่า ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป จะลงพื้นที่หาเสียงโน้มน้าวใจให้คนเสื้อแดงที่เคยอยู่ร่วมกันมาให้หันมาสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรค เพื่อมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย รวมถึงจะไปชี้แจงนโยบายของพรรคให้ชาวบ้านได้เข้าใจ และบางเวทีจะไปร่วมกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ

 “จุดประสงค์หลักผมอยากให้พรรค รทสช.ชนะเลือกตั้ง ลุงตู่เป็นนายกฯ ต่อไป ดังนั้นการลงพื้นที่ภาคอีสาน จะไปหาเพื่อนเก่าที่เคยเป็นคนเสื้อแดงด้วยกันมา ไปอธิบายให้คนเสื้อแดงได้เข้าใจอะไรเป็นอะไร ในฐานะตัวจริงเสียงจริงรู้หมดทุกเรื่อง" นายสมหวังกล่าว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม. พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ได้เชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.และ ผอ.ศูนย์เลือกตั้ง กทม.ทั้ง 33 เขต ร่วมประชุมวางแผนการเลือกตั้ง และซักซ้อมความเข้าใจก่อนสมัครวันที่ 3 มี.ค.นี้

นายองอาจกล่าวว่า ในการสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในวันที่ 3 เม.ย. พรรคได้นัดว่าที่ผู้สมัครมาที่พรรคตั้งแต่เวลา 05.30 น. โดยใช้รถบัสพลังงานไฟฟ้า หรือรถ EV เดินทางไปยังสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2  ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่าพรรค ปชป.เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 

"ในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 09.30 น. ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ผ่านการรับรองทั้ง 100 รายชื่อ จะมารวมตัวกันที่พรรค สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนที่จะเดินทางไปสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 4 เม.ย.โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นผู้นำผู้สมัครไปยื่นสมัครด้วยตนเอง" นายองอาจกล่าว

ถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. มาร่วมขึ้นเวทีพบปะประชาชนที่ใต้สะพานพระราม 8 จะยิ่งเสริมพลังของ ปชป.มากขึ้นหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า คิดว่าบุคลากรของพรรคล้วนแล้วแต่มีคุณค่า มีความหมายดังนั้นท่านใดก็ตามที่เข้ามามีส่วนช่วย ก็ถือว่าช่วยเพิ่มความนิยมในพรรค ปชป.มากขึ้น

"ถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ทุกท่านล้วนแล้วแต่มีผู้สนับสนุนหรือมี FC ของท่าน จึงมีแต่บวก มีแต่เพิ่ม ไม่มีลดแน่นอน" นายองอาจกล่าว

วันเดียวกัน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า คนบ้านนอกอย่างผม คบใครไม่เคยเผื่อเลือก มีแต่ความ “จริงใจ" ใครทำอะไร? ใครเข้ามาเพื่ออะไร? ผมมองออก... ไม่ได้โง่กับพี่ กับน้อง กับเพื่อน ผมมีแต่ความจริงใจ ถ้าจะด่าหรือตำหนิ ผมพูดตรงๆ ไม่ฝากใครไปบอก และไม่พูดออกอากาศ เพราะทุกคนผิดได้ พี่ๆ น้องๆ พรรคพวกกัน ถ้าชัดเจนต่อกัน จริงใจให้กัน ไม่จ้องแทงหลัง มีความจริงใจต่อกัน ผมเต็มที่กลับเสมอ.