เคาะขึ้นเอฟที98.27สต. ขยับจ่ายค่าไฟ4.77บาท

กกพ.เคาะขึ้นค่าเอฟที 98.27 สตางค์/หน่วย เก็บค่าไฟฟ้าอัตราเดียวทั้งประชาชนและภาคธุรกิจ จ่ายที่ 4.77 บาทต่อหน่วย มีผลงวด พ.ค.-ส.ค.66 ย้ำฟังเสียงประชาชน พร้อมพิจารณาหนังสือยืนยันจาก กฟผ.ถึงความเหมาะสมแล้ว

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยภายหลังการประชุม กกพ. ครั้งที่ 15/2566 (ครั้งที่ 843) ว่า จากการประชุม กกพ. ครั้งที่ 12/2566 (ครั้งที่ 840) เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2566 ได้มีมติให้สำนักงาน กกพ.นำค่าเอฟทีประมาณการงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 และแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นทั้ง 3 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1 ค่าเอฟทีเรียกเก็บ 293.60 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 6.72 บาทต่อหน่วย, กรณีที่ 2 ค่าเอฟทีเรียกเก็บ 105.25 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 4.84 บาทต่อหน่วย และกรณีที่ 3 ค่าเอฟทีเรียกเก็บ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 4.77 บาทต่อหน่วย ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ไปตั้งแต่วันที่ 10-20 มี.ค.2566 นั้น

ซึ่งสำนักงาน กกพ.ได้รวบรวมและสรุปประเด็นความคิดเห็นต่อการปรับค่าเอฟทีครั้งนี้ได้ดังนี้ เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ 1 (ค่าเอฟที 293.60 สต.ต่อหน่วย) 15%, เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ 2 (ค่าเอฟที 105.25 สต.ต่อหน่วย) 10%, เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ 3 (ค่าเอฟที 98.27 สต.ต่อหน่วย) 30%, ให้คงค่าเอฟทีเท่ากับ 93.43 สต.ต่อหน่วย 10%, ความคิดเห็นอื่นๆ 25% และเป็นคำถาม 10% 

ทั้งนี้ จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นนั้น ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวด พ.ค.-ส.ค.2566 โดยมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเป็นอัตราเดียวกันสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เท่ากับ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนที่เรียกเก็บอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย  

 “กกพ.ได้พิจารณาหนังสือยืนยันจาก กฟผ.ถึงความเหมาะสมของอัตราค่าไฟฟ้า 4.77 บาทต่อหน่วยประกอบแล้วด้วย ซึ่งในการพิจารณาค่าเอฟทีในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 เป็นการประมาณการค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นโดยอ้างอิงจากข้อมูลจริงเฉลี่ยในเดือน ม.ค.2566 หากการดำเนินการจริงมีการเปลี่ยนแปลงไปจากค่าประมาณการดังกล่าว กกพ.จะนำส่วนต่างค่าใช้จ่ายมาปรับปรุงการคิดค่าเอฟทีในรอบต่อๆ ไป ตามหลักเกณฑ์การคำนวณค่าเอฟที” นายคมกฤชระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง