สธ.ผวา‘โอไมครอน’โผล่ ชงใช้RT-PCRแทนATK

ปลัด สธ.ประชุมอีโอดีสั่งจับตาใกล้ชิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ชงศบค.เพิ่มมาตรการเข้มสกัดเข้าไทย คัดกรองผู้เข้าประเทศด้วย RT-PCR แทน ATK ประสานหน่วยมั่นคงคุมเข้มชายแดน ยันยังไม่พบในไทย กำชับแจงประชาชนลดตื่นตระหนก "บิ๊กตู่” บินอุดรฯ 1 ธ.ค. ตรวจความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน​ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,854 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,390 ราย, มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 5,130 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก​ 260 ราย, มาจากเรือนจำ 457 ราย, เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 7​ ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,106,813 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น​ 6,354 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,006,856 ราย อยู่ระหว่างรักษา 79,250 ราย อาการหนัก 1,395 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 330 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 30​ ราย เป็นชาย 16​ ราย หญิง 14​ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 20​ ราย มีโรคเรื้อรัง 8​ ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช​ ปัตตานี​ สงขลา​ จันทบุรี​ จังหวัดละ​ 3 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 20,707 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม​ 467,240 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น​ 92,125,296 โดส

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 28 พ.ย. ได้แก่ กทม. 664 ราย, สงขลา 377 ราย, นครศรีธรรมราช 355 ราย, สุราษฎร์ธานี 277 ราย,​ เชียงใหม่​ 226 ราย,​ ชลบุรี​ 205​ ราย, ปัตตานี 162 ราย, สมุทรปราการ​ 156 ราย,​ ภูเก็ต​ 122 ราย และระยอง​ 121 ราย

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 (EOC) ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ และข้อมูลการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์โอไมครอนในทวีปแอฟริกา โดยสั่งการให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมควบคุมโรค ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความวิตกกังวลและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ปลัด สธ.กล่าวว่า สธ.ติดตามเฝ้าระวังและประสานข้อมูลการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์โอไมครอนในทวีปแอฟริกา อย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมมาตรการเข้มเพื่อสกัดกั้นเชื้อกลายพันธุ์ดังกล่าว โดยสัปดาห์นี้ สธ.จะมีการเสนอมาตรการเพิ่มเติมให้ ศบค.ได้พิจารณา อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนคงมาตรการป้องกันตนเองอย่างสูงสุด และขอให้มั่นใจว่า สธ.มีมาตรการระวังเข้ม ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์โอไมครอนในไทย และ สธ.ได้ปรับมาตรการคัดกรองป้องกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น

ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สธ.ได้เตรียมเสนอมาตรการเพิ่มต่อ ศบค.สัปดาห์นี้ คือห้ามหรือจำกัดการเดินทางของกลุ่มประเทศเสี่ยงเข้ามาไทย ซึ่งเริ่มทำแล้ว และจับตาประเทศที่มีผู้นำเชื้อโอไมครอนเข้าไปและพบผู้ติดเชื้อแล้วว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ เสนอให้ปรับการตรวจคัดกรอง RT-PCR เพื่อตรวจจับเชื้อได้ดีกว่าการตรวจ ATK และประสานหน่วยความมั่นคงสกัดกั้นการลักลอบการเดินทางเข้าไทยตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด

สำหรับจำนวนผู้เดินทางเข้าไทยทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1-27 พ.ย.2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 116,323 ราย พบติดเชื้อ 149 ราย คิดเป็น 0.13% เฉพาะวันที่ 27 พ.ย. เดินทางเข้ามา 6,115 ราย พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อทุกรายถูกส่งเข้าระบบการรักษาพยาบาลและส่งตรวจหาสายพันธุ์เพื่อการเฝ้าระวัง โดย 10 ประเทศที่มีผู้เดินทางเข้ามามากที่สุดคือ สหรัฐ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสิงคโปร์

วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้หน่วยงานทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคง คมนาคม และการท่องเที่ยว เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอย่างใกล้ชิด สั่งการให้ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ปฏิบัติตามมาตรการการคัดกรองที่เข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในประเทศและสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคการท่องเที่ยวของไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี วันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยช่วงเช้าจะเดินทางไปยังวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี เพื่อกราบนมัสการพระราชวชิรธรรมาจารย์ (หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม) และพระราชภาวนาวชิรากร (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก) และตรวจความก้าวหน้าพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะ จะเดินทางไปยังศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฮอลล์ ถนนทองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมืองฯ เพื่อประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดอุดรธานี พร้อมกันนี้ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี บรรยายสรุปการเตรียมความพร้อมของจังหวัดในการเป็นเจ้าภาพการจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 และสรุปมุมมองนักธุรกิจรุ่นใหม่ในการพัฒนา จ.อุดรธานี และในช่วงบ่าย จะเดินทางไปยังวังนาคินทร์ คำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง เพื่อตรวจความพร้อมในการเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยว

ขณะที่นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามมติที่ประชุม ศบค. โดยเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมทั้งให้เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการโรงงาน โรงแรม ร้านอาหาร รวมทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ให้ใช้ผลการฉีดวัคซีนประกอบการพิจารณาการจ้างงาน เพื่อป้องกันและคัดกรองโรคของพนักงาน และให้เตรียมความพร้อมในการเปิดกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3

“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด