บิ๊กตู่ให้ดูราชกิจจาฯ/อิ๊งค์ใบ้กินสื่อนอกจี้ถาม

"บิ๊กตู่" ขึ้นดอยสุเทพ ทำพิธีสืบชะตาสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อล้านนาให้อายุยืนยาว อ้อนชาวเชียงใหม่รักคนเหนืออยู่แล้ว ย้ำใกล้เลือกตั้งขอ ปชช.ใช้สติ เผย "ยุบสภา" ไม่พูดเอง ประกาศออกราชกิจจาฯ "3 นิ้ว" แฝงมวลชน มอบกรวยดอกไม้แห้งธูปเทียนให้นายกฯ "รทสช." จัดทัพอีสานครบทุกเขต "วิทยา" ลั่นไม่กลัวแลนด์สไลด์ "สมศักดิ์"  แถลงเปิดใจซบเพื่อไทย มั่นใจได้เป็นรัฐบาล "พท." คึกโชว์ตัวว่าที่ผู้สมัคร 400 เขต "อุ๊งอิ๊ง" อึ้ง! เจอสื่อนอกถามลงสนามการเมืองกังวลตอกย้ำภาพเป็นพรรคครอบครัวชินวัตรหรือไม่ โยน "เศรษฐา" ปฏิเสธแทน "บิ๊กบี้" ปัดตอบมอง "ประยุทธ์" เล่นการเมืองต่อ ย้ำคนจบ จปร.เป็นสุภาพบุรุษทุกคน  

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. เวลา 07.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) เพื่อเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่

เวลา 10.45 น. คณะของ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึง จ.เชียงใหม่ และเดินทางไปวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร  โดยเมื่อเดินทางถึงนายกฯ จุดธูปเทียนถวายพระธาตุพร้อมเครื่องบวงสรวง และทำพิธีเวียนเทียนและห่มผ้าพระธาตุ จากนั้นได้ถวายภัตตาหารเพลและเครื่องไทยธรรม ทำพิธีทักษิณานุประทานอุทิศแด่ครูบาเจ้าศรีวิชัย พร้อมทำพิธีสืบชะตาบนพระวิหารหลวง โดยพระธรรมเสนาบดี (ธงชัย สุวณฺณสิริ) รองเจ้าคณะภาค 7 และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ซึ่งความเชื่อทางภาคเหนือเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ ให้อายุยืนยาว และวันนี้ก็ถือว่าเป็นวันดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจุดที่นายกฯสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ณ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้มี อบต.และตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำดอกกุหลาบมามอบให้กำลังใจนายกฯ ซึ่งระหว่างนายกฯ เดินมาขึ้นรถเพื่อไปจุดต่อไป ปรากฏว่าได้มีเสียงหญิงสูงวัยสวมหมวกสีเหลือง เสื้อม่อฮ่อม ตะโกนเรียกนายกฯ ว่า "นายกฯคะ ให้ดอกไม้ค่ะ" นายกฯ กล่าวว่า จ้ะๆ   พร้อมหันมารับดอกไม้ ซึ่งเป็นดอกไม้แห้งสีเหลืองพร้อมธูปเทียนอยู่ในกรวยใบตอง 2 กรวย นายกฯ จึงถามหญิงดังกล่าวว่า "ดอกไม้มงคลน้อ" ปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าวถามทันทีว่า "จะยุบสภาเมื่อไหร่" ทำให้นายกฯ มองและกล่าวว่า "เดี๋ยวก็รอฟังแล้วกัน จะทำไมหรือ มีอะไรไหมล่ะถึงอยากรู้ เดี๋ยวถึงเวลาเองแหละ เอาที่มันอยู่กันก่อนนะ" หลังจากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับคนที่มาให้การต้อนรับด้วยสีหน้าเริ่มตึง ก่อนเดินไปขึ้นรถ

โดยหญิงคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือ นางวันดี รัตน์ด้วง ชาวพิจิตร แม่บ้านหอพักที่เชียงใหม่ โดยนางวันดีกล่าวกับผู้สื่อข่าวพร้อมชู 3 นิ้วด้วยว่า มันไม่ไหวแล้ว ลูกหลานก็ไม่มีงานทำ ภาวะเศรษฐกิจก็แย่ อะไรก็ขึ้น แต่ค่าแรงไม่ขึ้น  ก็สุดๆ มันไม่ไหวแล้ว ประเทศเรามันต้องเปลี่ยนนายกฯ แล้ว 8 ปีแล้ว จึงอยากรู้ว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ และจะเลือกตั้งวันไหน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยืนประกบหญิงดังกล่าว แต่ไม่ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด  รายงานข่าวแจ้งว่า นางวันดีเคยออกมาเคลื่อนไหวเมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เมื่อปี 65 ด้วย

จากนั้นเวลา 12.40 น. นายกฯ รับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก กลุ่ม 10 จังหวัดภาคเหนือ จากพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลําพูน ในฐานะประธานมูลนิธิครูบาเจ้าศรีวิชัย  และอาจารย์ ดร.อัครสิทธิ์ บุญส่งแท้ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สํานักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ รายงานแนวทางการดําเนินงานโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสําคัญของโลก

'ยุบสภา' รอราชกิจจาฯ

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางไปที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ เพื่อพบปะประชาชน โดยทันทีที่มาถึงมีกลุ่มแฟนคลับมารอต้อนรับถือป้ายข้อความ อาทิ 8 ปีผลงานเพื่อประชาชนทุกคนรักลุงตู่, ขึ้นเหนือเยือนเชียงใหม่ยอดขวัญใจคือลุงตู่ เป็นต้น จากนั้นนายกฯ ได้ชมนิทรรศการประวัติและผลงานครูบาเจ้าศรีวิชัย และรับฟังรายงานสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รักคนเหนืออยู่แล้ว ชอบบรรยากาศภาคเหนือ ชอบความอ่อนหวาน ความสวยงาม ประวัติศาสตร์ของพวกเรา ไม่ได้ปากหวาน ผมเคยมาอยู่หลายปีในช่วงก่อนหน้านี้จนเคยชินกับสภาพที่นี่ วันนี้มาทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ดีกว่าเดิม สวยกว่าเดิม ก็เพราะพวกเราทำให้หลายอย่างดีขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า อยากเรียนว่าวันนี้ถ้าเราต้องการให้ประเทศไทยเดินอย่างไรในวันข้างหน้า ต้องเข้าใจระบบการบริหารราชการแผ่นดิน ระบบงบประมาณ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศเจริญเติบโตหรือล้มเหลวในโอกาสต่อไป นั่นคือความโปร่งใสในการทำหน้าที่ของทุกคนในทุกระดับ ซึ่งตนเชื่อมั่นทุกคนกำลังช่วยกันอยู่ พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้วกัน ขอให้ทุกคนทำตามกติกาหลักเกณฑ์ให้ถูกต้องก็ไม่มีปัญหาอะไร

"โครงการต่างๆ พวกโกง ตราบใดที่ผมยังเป็นนายกฯ อยู่ จะพยายามดูแลติดตามให้ เพราะหลายอย่างอนุมัติไปแล้ว แต่อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ แต่หลายอย่างอนุมัติไม่ได้เพราะอยู่ในขั้นตอนของนายกฯ รักษาการ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งใครจะเป็นรัฐบาลก็ว่าไป ฉะนั้นพวกเราจะเป็นผู้เลือกผู้ตัดสินใจ ขอให้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองต่างๆ" นายกฯ กล่าว

ถามถึงการยุบสภาได้เตรียมแล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องเตรียมแล้วสิ รออีกสักนิดนึงเดี๋ยวก็ออก

ซักว่าสัปดาห์หน้าประกาศได้แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดี๋ยว ก็รอสิ รอๆ ต้องรอประกาศในราชกิจจาฯ ก่อน

ถามถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เห็นแต่ในข่าว ยังไม่ได้เจอกับท่าน คงไม่มีอะไรหรอก พอซักว่านายสมศักดิ์ไปพรรคเพื่อไทย (พท.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไปไหนก็ไป ไม่เป็นไร

ต่อมาเวลา 16.15 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ติดตามการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทันทีที่มาถึงมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติให้การต้อนรับ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ เขต 4 ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ เขต 5 นายโสภณ โกชุม เขต 6 นายสันติ ตันสุหัช เขต 7,     จังหวัดเชียงราย นายสมนึก ใจจักร เขต 1 นายนิคม นามเสถียร เขต 3 นายบุญถิ่น นวลใหม่ เขต 4 และ พล.ต.สุวิทย์ วังยาว เขต 6, จังหวัดพิษณุโลก นายวิเชียร ภักดี เขต 3 และจังหวัดพะเยา นายไพโรจน์ ตันบรรจง เขต 3 ขณะเดียวกันมีประชาชนมารอต้อนรับพร้อมชูป้ายข้อความให้กำลังใจ อาทิ "กลุ่มเชียงใหม่รักลุงตู่, ลุงตู่รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ, ผลงานลุงตู่เฮาฮู้ เฮาหัน ใครบ่หันไปตัดแว่นใส่เต๊อะ"

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการประกาศยุบสภาใช่ 20 มี.ค.หรือไม่ว่า ก็เดี๋ยวรอๆ รอนิดนึงนะ ไม่มีอะไร เมื่อถามว่า นายกฯ จะประกาศยุบสภาเองเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ใช่สิ  ออกราชกิจจานุเบกษา นายกฯ พูดเองที่ไหนเล่า

รทสช.ไม่หวั่นแลนด์สไลด์

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค รทสช. เป็นประธานประชุมคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ชุดสุดท้าย 17 คน พร้อมเตรียมแถลงเปิดตัวผู้สมัครว่าที่ ส.ส.อีสานทั้งหมดในวันที่  24 มี.ค.นี้

นายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้ทำการสัมมนาผู้สมัครในภาคอีสานครบแล้วทั้ง 133 คน จากนี้ทุกคนก็จะลงพื้นที่นำนโยบายของพรรคไปชี้แจงให้กับประชาชน ทั้งนโยบายที่ได้เปิดรายละเอียดมาบ้างแล้ว และที่จะทยอยเปิดออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าพรรคมีความพร้อมเต็มที่สำหรับการสู้ศึกการเลือกตั้งครั้งนี้

"จากการที่ได้สัมผัสและเสวนากับว่าที่ผู้สมัครทุกคน ไม่มีใครกลัวกับคำว่า แลนด์สไลด์ ทุกคนคิดว่านโยบายของพรรคเป็นนโยบายที่โดนใจชาวบ้านมากที่สุด และวันนี้กระแสตอบรับในตัวนายกฯประยุทธ์มาแรงมาก คนที่พูดอยู่บนเวทีข้างบนก็พูดได้เพราะไม่ได้ลงไปสัมผัสกับชาวบ้านจริงๆ แต่หากได้ลงไปใกล้ชิดก็จะรับรู้ได้ว่าวันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชนบทฐานรากแล้วจริงๆ" นายวิทยากล่าว

ที่ร้านกินเส้น สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงถึงอนาคตทางการเมือง พร้อมกับโชว์ใบลาออกจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม และใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตนตัดสินใจใน 3 ประเด็นคือ ฟ้า ดิน และอากาศ เรื่องของฟ้ากับดินได้อธิบายไปแล้ว เหลือเรื่องอากาศ ซึ่งอากาศคือแนวนโยบายและทีมงาน ถ้าเรามีทีมงานที่ดี แต่การทำนโยบายต่างๆ ไม่ชัดเจน มีความขัดแย้ง แนวนโยบายเหล่านั้นจะไม่สามารถส่งผลสำเร็จให้เกิดกับประเทศและประชาชน

 "เราดูเรื่องแลนด์สไลด์ ซึ่งพรรคการเมืองที่จะเดินหน้าได้ในเรื่องแลนด์สไลด์คงต้องเป็นพรรคเพื่อไทย เราจึงตัดสินใจว่าถ้าเราไปรวมกันตรงนี้ ถ้าเดินงานการเมืองให้แลนด์สไลด์ได้จะทำให้แนวนโยบายของรัฐบาลใหม่ประสบความสำเร็จ เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จึงได้ตัดสินใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมแนวทางในการขับเคลื่อนในแนวนโยบายต่อไปในวันข้างหน้า" นายสมศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ได้กรอกใบสมัครสมาชิกพรรค พท.อย่างช้าจะถึงพรรคในวันที่ 20 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ตนได้ไปกราบลา พล.อ.ประวิตร ได้มีการพูดคุยกัน ท่านไม่มีปัญหา และให้ศีลให้พรตามอัตภาพ ส่วนเรื่องความแตกแยก ความไม่พึงพอใจอะไรต่างๆ นั้น ยืนยันว่าไม่มี 

ในส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินทางเข้ามากระทรวงอุตสาหกรรม เพื่ออำลาข้าราชการ พร้อมไหว้พระภูมิเจ้าที่ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม สักการะพระนารายณ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดเวลาของกิจกรรมบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบพวงมาลัยและดอกกุหลาบ เพื่อแสดงออกถึงความรักความห่วงใยของข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มาร่วมส่ง รมว.อุตสาหกรรมในครั้งนี้ด้วย

ที่ยิมเนเซียม 4 ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงาน “คิดใหญ่  ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต รวมถึงแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมล็อตใหม่ที่ใช้ในการเลือกตั้ง โดยมีแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคเข้าร่วม นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค,  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค,  นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กทม., ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายสุทิน คลังแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ, นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำบ้านใหญ่ชลบุรี โดยบรรยากาศมีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาร่วมเชียร์ว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ตัวเองจนล้นยิมเนเซียม

พท.คึก!โชว์ผู้สมัคร 400 เขต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้จัดเก้าอี้บนเวทีให้ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต โดยโฆษกบนเวทีได้ขานชื่อว่าที่ผู้สมัครทีละจังหวัดเพื่อให้เดินขึ้นเวที เมื่อถึงจังหวัดใดผู้สนับสนุนของพื้นที่นั้นๆ ต่างตะโกนเชียร์จนเสียงดังลั่นยิมเนเซียม รวมทั้งเปิดตัวเอ็มวีเพลง “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ซึ่งเป็นเพลงใหม่ที่จะใช้ในการหาเสียง

นพ.ชลน่านปราศรัยตอนหนึ่งว่า เราประกาศเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน วันนี้กระแสพรรคดีมาก ถ้าผู้สมัครประมาทหวังอาศัยกระแสพรรคอย่างเดียว ไม่เข้าถึงประชาชน ไม่จัดเวทีปราศรัยย่อย ไม่ทำงานอย่างเข้มแข็ง ถึงวันเลือกตั้งอาจเจอความพ่ายแพ้ได้ จุดแข็งของเราคือนโยบาย เราต้องเน้นปราศรัย อย่าปาเงิน เพราะถ้าใช้วิธีนั้นจะพ่ายแพ้ เพราะไปเล่นเกมของเขา

ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงนโยบายใหม่ว่า นโยบายต่อจากนี้จะแสดงให้เห็นว่าเราคิดใหญ่เพราะทำเป็น ขอให้ผู้สมัครใช้ความจริงใจของท่านพร้อมทำเพื่อประชาชนด้วยหัวใจที่แท้จริง ถ้าเราไม่เอาความจริงใจเข้าแลกประชาชนจะรับรู้สิ่งนี้ไม่ได้ แล้วเราจะไม่ชนะการเลือกตั้ง ขอให้ผู้สมัครของเราชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ชนะใจของประชาชน ขอให้ประเทศไทยมีพรรคเพื่อไทยที่จริงใจรักประชาชนอย่างแท้จริงมาดูแลพี่น้องประชาชนทุกๆ คน เราจะมาร่วมกันแก้ปัญหาที่สะสมมา 8 ปีให้เบาบางและหายไปในที่สุด

ส่วนนายเศรษฐากล่าวว่า นโยบายของพรรคเราจะทำให้เงินถูกอัดเข้าระบบหมุนหลายรอบ เอาธุรกิจที่ไม่เสียภาษีซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 1 ล้านๆ บาทเข้าระบบ จะทำให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ 3 แสนล้านบาท จะไม่มีมาเฟียในธุรกิจเหล่านี้อีกไม่มีตำรวจนอกแถวเรียกรับส่วยอีกต่อไป จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามา รวมทั้งสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล คนไทยอายุ16 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัลเข้ากระเป๋า

"พท.จะคืนสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน ทุกคนมีประสบการณ์ความไม่เท่าเทียมในสังคม ทั้งกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม เส้นสาย ที่เห็นคนไม่เท่ากัน คนรวยใหญ่คับฟ้า และมีอภิสิทธิ์ใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ศักดิ์ศรีคนธรรมดาถูกด้อยค่า เป็นเรื่องที่ผมคับแค้นใจเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลเพื่อไทยตั้งใจเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นระบบสมัครใจ ให้อาชีพทหารต้องแข่งขันกับภาคเอกชน" นายเศรษฐาระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดนโยบายใหม่เสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวต่างชาติได้สอบถาม น.ส.แพทองธารว่า การมาร่วมงานกับพรรค พท.กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำภาพความเป็นพรรคของครอบครัวชินวัตร ซึ่งทำให้ น.ส.แพทองธารส่งไมโครโฟนให้นายเศรษฐาเป็นผู้ตอบคำถามแทน

โดยนายเศรษฐาได้ผายมือไปยังที่นั่งของคณะผู้บริหารพรรค และผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนกล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว บุคคลากรของพรรคเพื่อไทยล้วนแล้วเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยม มีความรู้ความสามารถ

ที่กองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณี ทบ.ออกคู่มือการปฏิบัติตัวของกำลังพลในการเลือกตั้งว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปตามวงรอบตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกตั้งก็ต้องเลือกตั้ง ทหารก็ถือเป็นส่วนราชการองค์กรหนึ่ง ซึ่งมีระเบียบกฎเกณฑ์อยู่แล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามคู่มือ และคู่มือนี้ไม่ได้ขียนขึ้นเอง ได้หารือกับ กกต.แล้ว เมื่อกองทัพบกสั่งไปก็ต้องปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ผิด และขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ในบทบาทหนึ่งของกำลังพลของกองทัพบกก็คือประชาชนคนหนึ่ง และเราก็พยายามผลักดันให้ไปใช้สิทธิ์ของประชาชนคนหนึ่งในการออกไปเลือกตั้งให้มากที่สุด

ถามว่า ให้กำลังพลฟรีโหวตตัดสินใจใครก็ได้ใช่หรือใม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ใครจะไปบังคับได้ เขาอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง 

พอถามถึงการมองท่าที พล.อ.ประยุทธ์ช่วงนี้อย่างไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ไปพูดไม่ได้ ถามต่อว่าก่อนหน้านี้เคยบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นสุภาพบุรุษท่านควรจะไปต่อหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่สามารถไปพูดถึงผู้บังคับบัญชาได้ เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่ความเป็นสุภาพบุรุษ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า  มีทุกคน ให้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง An officer and a gentleman เราดูมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร  ซึ่งการเป็นนายร้อยฯ ก็ต้องเป็น gentleman และคนที่ออกมาแล้วต้องดำรงความมีวินัย เมื่อเป็น gentleman ได้ ก็จะเจริญเติบโตและกลายมาเป็นผู้นำกองทัพ

เมื่อถามว่า ทำไมผู้จบ รร.จปร. จึงได้เป็นนายกฯ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ประเทศสหรัฐฯ นายพลไอเซนฮาวร์ยังเป็นประธานาธิบดีได้ เขาก็จบโรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ หรืออย่างเช่นประธานาธิบดีบุช ก็เป็นทหารเรือ นักบินของกองทัพเรือก็มาเป็น. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง