ไล่3นิ้วป่วนไปหาหมอ ‘บิ๊กตู่’เหน็บต้องมีปัญหา วิษณุเตือนอย่าสะดุดขา

“บิ๊กตู่” ลุยเมืองโอ่ง เอาฤกษ์เอาชัยไหว้หลวงพ่อสมปรารถนา ทักหมา คุยควาย เหน็บใครคิดทำร้ายระวังให้ดี ไล่ "สามนิ้ว" ป่วนกลางงาน แนะให้หมอดูสุขภาพอีก 2 นิ้วหายไปไหน ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง ขณะที่ “รทสช.”  สุดแสบเปิดแคมเปญใหญ่ไอติม เหยียบประชานิยมเก่าจมดิน “วิษณุ” เตือนฝ่ายรัฐบาล ลงพื้นที่ถี่อย่าสะดุดขาตัวเองพลาด “เพื่อไทย” ตีปี๊บเวทีใหญ่เปิดตัวผู้สมัคร 400 เขต  "ภูมิธรรม" ยกพรรคหลักสู้ระบอบบิ๊กตู่ "จตุพร” อ่านเกม  310 เสียง ขู่ พท.หากจับมือ พปชร.ถูกไล่ทันที ชี้เข้าสู่คิลลิงโซนยุบพรรคแล้ว

เมื่อวันจันทร์ เวลา 09.00 น. วันที่ 13 มีนาคม  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากสนามบินเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2  รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามกีฬาประจำตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดราชบุรี

จากนั้นนายกฯ เดินทางไปจุดแรกเวลา 10.00 น. ที่วัดหุบกระทิง ตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ทันทีที่มาถึงนายกฯ ได้ทักทายกับนักเรียนโรงเรียนวัดหุบกระทิง ที่มารอเจอนายกฯ ที่บริเวณรั้วโรงเรียน โดยนายกฯ กล่าวกับเด็กๆ ว่า ให้รักสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ สำหรับลุงยึดและรักทั้ง 3 สถาบัน และรักประชาชน ขอให้เด็กทุกคนเป็นคนดี รู้รักสามัคคี

ต่อจากนั้นนายกฯ เข้ากราบสักการะหลวงพ่อสมปรารถนา พระประธานในอุโบสถ และนมัสการพระมหาสงกรานต์ (สนฺติกโร) เจ้าอาวาสวัดหุบกระทิง ช่วงหนึ่งก่อนเข้าอุโบสถนายกฯ ได้ทักสุนัขที่เจ้าของอุ้มมาว่าน่ารักนะลูก พร้อมลูบหัว ก่อนเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ ภายใต้สโลแกน "คุณลุงทำนา คุณป้าทำสวน" ซึ่งเป็นวิถีความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างวัดกับชุมชน  และเยี่ยมชมร้านกาแฟบุญ

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าไปทักทายควายที่มีคนนำมาถวายวัด รวมทั้งได้สอบถามเจ้าอาวาสถึงการเลี้ยงดู  แต่เนื่องจากมีคนจำนวนมากทำให้ "เจ้าโควิด" (ชื่อควายเผือก อายุ 4 ปี ที่เกิดช่วงโควิดระบาดพอดี) เกิดอาการระแวงและทำท่าฮึดฮัด พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวปลอบว่า  “อย่าไปทำอะไรเขานะ พวกนักข่าวไม่มีใครทำร้ายนายกรัฐมนตรีหรอก แต่ใครที่คิดจะทำร้ายนายกฯ ก็ขอให้ระวังก็แล้วกัน คิดดีทำดี”

ขณะบรรยากาศรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เป็นไปอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่คัดกรองบุคคลเข้าออกต้องติดสติกเกอร์และค้นสัมภาระอย่างละเอียด ทั้งนี้วัดหุบกระทิงเดิมเป็นป่าช้า ต่อมามีการพัฒนานำสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐาน  ทั้งหลวงพ่อทอง หลวงพ่อเสือ และที่พระอุโบสถยังเป็นทองคำ ภายในวัดยังมีศาลพญานาคมุจลินท์ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่มีความเชื่อว่าขอสิ่งใดจะสมความปรารถนาทุกประการ อีกทั้งภายในวัดยังประดิษฐานองค์ท้าวเวสสุวรรณ  และเครื่องบูชาซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชน

จากนั้นเวลา 10.30 น. ที่ศาลเจ้าแม่เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางมาสักการะ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ ก่อนที่เวลา  11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปยังศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ต.บ้านโป่ง เพื่อตรวจติดตามแนวทางในการพัฒนาอำเภอบ้านโป่ง

ไล่ 3 นิ้วป่วนไปหาหมอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางมาถึงประมาณ 10 นาที ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กับประชาชนผู้เห็นต่างซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ 1 คน และหญิงวัยกลางคนอีก 1 คน จะมายืนดักขบวนนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงออกและตะโกนตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ 2 นายพยายามเข้าสกัด และได้กระชากหญิงสูงอายุเพื่อนำตัวออกไป โดยพยายามกันตัวเข้าไปยังซอกรถตู้และกางร่มบังเพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ และบางช่วงได้มีการเอามือปิดปากหญิงดังกล่าวไม่ให้ตะโกนใส่ขบวนรถนายกรัฐมนตรี

ขณะที่หญิงอีกรายซึ่งอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ และกลุ่มผู้สนับสนุนได้ชู 3 นิ้วแสดงความเห็นต่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามห้ามไม่ให้เคลื่อนไหว​

ขณะที่ในเวลา 11.30 น. ที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ต.บ้านโป่ง พล.อ.ประยุทธ์พบปะประชาชน 1,500 คน พร้อมกล่าวช่วงหนึ่งว่า "ไม่รู้จะพูดอะไร พูดมากเดี๋ยวก็โดนด่าอีก ในนี้รับรองไม่มีใครด่าผมแน่นอน ข้างนอกไม่แน่หรอก เมื่อกี้ยังมีข้างนอก ไม่รู้เป็นอะไรมือมี 3 นิ้ว มันหายไปไหน 2 นิ้ว ไม่รู้เหมือนกัน  นี่ต้องไปดูสุขภาพ ฝากหมอดูด้วยว่าอีก 2 นิ้วเป็นอะไร  แต่ผมไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก แต่ขอให้ดูด้วยแล้วกันว่าต้องมีปัญหาอาการอะไรสักอย่าง ผมโกรธเขาไม่ได้หรอก เขาคือคนไทย แต่เขาคิดอะไรผมไม่รู้"

ในช่วงท้าย หลังจากพูดถึงเรื่องการทำงานของรัฐบาลในหลายๆ เรื่อง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ใครด่ากูไม่ได้ ก็ด่าตัวเองนั่นแหละ มันไม่มีความสุขนักหรอกที่ยืนตรงนี้ แต่ต้องทำ มันเป็นหน้าที่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้นายกฯ ได้ยกมือขยับสามนิ้ว พร้อมกล่าวด้วยว่า “ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันเหลืออย่างนี้ ฝากผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่าให้เป็นอย่างนี้ ตอนนี้มีใครไม่สบายไหม แต่น่าจะแข็งแรงกันดี ที่นั่งกันอยู่ตรงนี้” จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินพบปะประชาชนพร้อมกับกล่าวว่า “เวลาโมโหใคร ไม่ชอบใคร ให้นึกถึงหน้านายกฯ ไว้”

จากนั้นเวลา 13.00 น. ที่วัดใหญ่นครชุมน์ ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี นายกฯ กล่าวด้วยว่า วันนี้ขอพรพระและขอศาลไว้เยอะ ให้ทุกอย่างสำเร็จ ให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ที่สำคัญมีความรักให้กันไม่มีวันสิ้นสุด อย่าเกลียดกันเท่านั้นเอง รักกัน นายกฯ ไม่ชอบคนที่ทำให้คนเกลียดกัน มันเป็นบาปจำไว้

ทั้งนี้ ในเวลา 13.40 น. ที่วัดใหญ่นครชุมน์ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกลุ่มต่อต้านมาชู 3 นิ้ว และขับไล่ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีว่า ก็อย่าไปสนใจ  มันจะเห็นต่างสักกี่คน ก่อนย้อนถามว่าเป็นร้อยเป็นพันคนหรือไม่ มาสามคน ตนไม่สนใจอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพูดจบ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นไปนั่งบนรถก่อนที่จะลดกระจกลงมาพูดกับผู้สื่อข่าวอีกว่า " คำถามแบบนี้อย่าถามกันอีกนะ คนมาเป็นหมื่นคน กับคนอีกแค่สามคน"

รทสช.เปิดแคมเปญไอติม

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการเปิดแคมเปญใหม่ชื่อชุด “ไอติม” ภายใต้แนวคิด “มา 100 ได้  100” โดยเป็นแคมเปญใหญ่ของพรรค ที่เปิดตัวต่อสาธารณชนผ่านเพจของพรรคในเวลา 13.00 น.วันนี้

สำหรับเนื้อหาแคมเปญคลิป “ไอติม” มีความยาว 30  วินาที เปรียบเทียบโครงการสวัสดิการให้เงินช่วยเหลือประชาชนในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับโครงการประชานิยมในอดีต โดยสื่อให้เห็นว่าโครงการประชานิยมในอดีต กว่าจะถึงมือประชาชนต้องถูก “คนกลาง” เบียดบัง หักส่วนแบ่ง เก็บหัวคิว เหมือนที่เกิดกับหลายๆ โครงการที่ผ่านมา คล้ายไอติมหนึ่งแท่งกว่าจะถึงมือประชาชน ต้องผ่านคนกลางระหว่างทางกัดกินจนเกือบหมด กว่าจะถึงมือประชาชนก็เหลือเนื้องานติดไม้เล็กน้อย  บางโครงการก็เหลือเพียงไม้ไอติม ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในคลิปยังชี้ให้เห็นว่าแต่โครงการสวัสดิการที่ พล.อ.ประยุทธ์ “ทำแล้ว ทำอยู่” ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งเงินช่วยเหลือไปถึงมือกลุ่มเป้าหมายใหญ่คือประชาชนครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ และตรงเวลา เช่น โครงการเราชนะ, โครงการคนละครึ่ง, โครงการ ม.33 และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น ที่ได้นำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาการทุจริตตามนโยบาย “ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่โกงไม่กิน”

ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวแคมเปญคลิปวิดีโอดังกล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” รวมทั้งให้สมาชิกพรรคแชร์ผ่านเพจส่วนตัวในเวลา 13.00 น.พร้อมกัน  โดยนอกจากคลิป “ไอติม” แล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติยังจะทยอยปล่อยคลิปวิดีโอในคอนเซปต์ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ" ตามมาอีกหลายชุดอีกด้วย

ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการกำหนดแนวนโยบาย พรรค รทสช. กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าหมายพรรคเพื่อไทยต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ กวาด ส.ส. 310 ที่นั่ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวว่า จับอาการแกนนำพรรคเพื่อไทยวันนี้เหมือนลุกลี้ลุกลน ขาดความมั่นใจ จึงใช้กุศโลบาย ใช้วิธีชี้นำปั่นกระแสให้ดูสูงเข้าไว้ วันก่อนอ้างโพลลับพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. 270 ที่นั่ง ถัดมาไม่กี่วันบอกจะเอา 310 ที่นั่ง  นี่ถ้าถึงวันเลือกตั้งคงทะลุ 500 ที่นั่ง ไม่เหลือให้พรรคการเมืองอื่นเลยสักที่นั่งเดียว

"การเที่ยวอวดโอ่ชี้นำและปั่นกระแสที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำอยู่นั้น ระวังกลายเป็นดาบสองคม โดยเฉพาะต่อตัวหมอชลน่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะเป้าหมายกับความรับผิดชอบทางการเมืองต้องควบคู่ไปด้วยกัน หากได้ไม่ถึง 310 ที่นั่งจะรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไร คงจำกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังรู้ผลการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา

นายเสกสกลกล่าวว่า ช่วยกล้าท้าเดิมพันหน่อยว่าถ้าไม่ถึงจะรับผิดชอบเช่นไร ลาออกจากหัวหน้าพรรคและทุกตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ต้องมีหลักการเหมือนนายอภิสิทธิ์ที่กล้าแสดงสปิริตรับผิดชอบ แต่อย่าพูดแบบหัวหน้าคอก นายทักษิณ ชินวัตร ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว  พูดแบบนี้ไม่เอาๆ พูดแล้วไม่รักษาคำพูด ขาดความน่าเชื่อถือ พูดอย่างนี้ก็ไร้น้ำยาไปเปล่าๆ ไม่มีใครให้ราคาอีกต่อไป

วิษณุเตือนอย่าสะดุดขาล้ม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร  ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ออกมาระบุถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการลงพื้นที่แบบแฝงการหาเสียงว่า เวลาทำงานอาจจะแยกยากว่าเป็นการทำเพื่อหาเสียงหรือไม่ใช่หาเสียง แต่ถ้ามันโจ่งแจ้งเกินไปก็อาจถูกจับผิดได้ง่าย ดังนั้นทุกคนในรัฐบาลก็ต้องระมัดระวังตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมชัยระบุว่านายกฯ ใช้ทรัพยากรของรัฐบาลทั้งเฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ ฯลฯ นั้น  นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่รู้ แต่ถ้าเป็นการใช้เครื่องไม้เครื่องมือเพื่อการบริหารประเทศก็ไม่เป็นไร 

เมื่อถามว่า การใช้เวลาของนายกฯ ที่คาบเกี่ยวกับเวลาราชการจะสุ่มเสี่ยงหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้จะพูดคลุมเครือไม่ได้ ต้องดูเป็นวันๆ เป็นเวลาๆ และแต่ละเหตุการณ์ไป เวลาคนจะร้องเรียนต้องร้องเรียนเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เพราะฉะนั้นนายกฯ หรือคนในรัฐบาลอย่าไปพลาดก็แล้วกัน 

ที่ จ.นครศรีธรรมราช บรรยากาศหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอารี ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะแม่ทัพใหญ่ดูแลการเลือกตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช  ได้นำนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 8 นครศรีธรรมราช นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ภาคใต้ เดินทางไปไหว้เทวดานาคราช ที่บริเวณศาลาเทวดานาคราช อ.ลานสกา  จากนั้นเดินทางไปยังยอดเขาธง อ.ช้างกลาง เพื่อกราบนมัสการขอพรพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พระอุเชนทร์ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรคนำโดย นพ.ชลน่าน, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ร่วมเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ภาคเหนือ อีสาน กลาง และกรุงเทพฯ รวม 11 ราย โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในวันที่  17 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ยิมเนเซียม 4 ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต พรรคจะจัดงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ภายในงานจะมีกิจกรรมสำคัญ คือการเปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขตพร้อมกันเพื่อสื่อสารกับประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด พร้อมประกาศรายชื่อไปยังเขตแต่ละจังหวัดเพื่อให้ประชาชนให้ความเห็นชอบต่อไป

นายภูมิธรรมกล่าวว่า คาดว่าทุกฝ่ายต้องการการเปลี่ยนแปลงแล้ว เพราะพรรค พท.เป็นพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคหลักที่มีความสามารถ และจะต่อสู้กับระบอบประยุทธ์และเผด็จการได้ ซึ่งเราพิสูจน์ผ่านผลงานมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา 

ขู่ พท.จับมือ พปชร.โดนไล่แน่

วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน  ตอน "เดี๋ยวก็รู้?" โดยระบุใจความว่า ไม่เชื่อ พท.จะได้เสียงถึง 310 เสียง แต่จำใจเชื่อก่อน เพื่อเป็นคำตอบดิ้นหนีไม่จับมือ พปชร. พร้อมยืนยันถ้าหลังเลือกตั้งจับมือกันวันไหน ไล่วันนั้นทันที

"เสียงของเพื่อไทยที่พรวดขึ้นนั้น ที่มาความน่าจะเป็นไม่มีหลักของความจริงเลย แต่เป็นการปลุกเพื่ออธิบายว่า แลนด์สไลด์เพื่อไม่จับมือกับ พปชร. ดังนั้น จึงมีเหตุผลเดียวเท่านั้นของตัวเลข 310 เสียงคือ การพยายามสลัดการตอบคำถามจับมือกับ พล.อ.ประวิตรเท่านั้น แต่ยังกังขาอยู่ว่า กว่าจะหลุดคำตอบออกมาได้ใช้เวลานานมาก  แสดงถึงยังมีใจจับมือกันอยู่" นายจตุพรระบุ

นายจตุพรระบุว่า เพื่อไทยอย่าเลียนแบบแผนสังเวยความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ที่กำจัดนายอภิสิทธิ์ ที่หาเสียงไม่จับมือ พล.อ.ประยุทธ์ โดยแผนนี้ก็เช่นเดียวกัน  เมื่อ นพ.ชลน่านประกาศไม่จับมือกับ พล.อ.ประวิตร และถ้าหลังเลือกตั้งไปจับมือกัน ย่อมถูกโยนความผิดไปที่หัวหน้าพรรคคนเดียวที่พูดและประกาศหาเสียงเอาเอง จึงเป็นการสังเวย นพ.ชลน่านเพื่อตั้งรัฐบาลแล้วดัน พล.อ.ประวิตรขึ้นเป็นนายกฯ

"ดังนั้นประวิตรจะเชื่อหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมจะดูความเชื่อที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถ้ามีคดี (ฝ่ายเพื่อไทย) พรวดพราดที่จ่อกันมาทั้งหลายไปปรากฏที่ ป.ป.ช. ก็แสดงว่า พปชร.ไม่จับมือจริง” นายจตุพรระบุ

นายจตุพรกล่าวถึงประเด็นการยุบพรรคด้วยว่า ทุกครั้งที่มีการยุบพรรค มักจะสร้างประชาชนขึ้นมาว่าถูกรังแก และตนยังยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุบพรรค เพียงแต่รู้เรื่องเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ บางคนวิเคราะห์ให้ส่งสมัครในนามพรรคใหม่ไปเลย แต่ก่อนที่จะทำอะไรแล้ว เพื่อไทยมักลืมจนต้องเดินไปสู่คิลลิงโซนอีกแล้ว

นายจตุพรกล่าวว่า โดยบทเรียนที่ผ่านมานั้น การยุบไทยรักไทยเกิดก่อนการมีเลือกตั้ง ส่วนยุบพลังประชาชนขณะเป็นรัฐบาล แล้วยุบไทยรักษาชาติระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นการอ่านการเมืองต้องไม่เข้าข้างตัวเอง เพื่อไม่ให้หลงผิดเป็นถูก แล้วสู้แบบผิดๆ เพื่อนำไปสู่การตายน้ำตื้นตามที่เป็นมาทุกครั้ง

"ผมได้ยินมาก็วิเคราะห์ให้ฟัง ตรวจเช็กกันดู การเดินสู่คิลลิงโซนในกรณีหาเสียงเอง ความจริงเขาจะดักจับทักษิณ แต่เรื่องนี้มันกลับมีภาพและเสียงชัดเจน ทุกอย่างไม่ต้องหาหลักฐานเพิ่มเลย เอาแค่เรื่องเดียวก็ชัดเจน เข้าข้อกฎหมาย คิดเป็นอื่นไม่ได้ ที่พูดมาไม่ต้องเชื่อก็ได้ ขอให้ไปแลนด์สไลด์ต่อไป” นายจตุพรระบุ.