ตรึงก๊าซหุงต้มอีก3เดือน ค่าไฟงวดใหม่4.75บาท

กบง.มีมติตรึงราคา LPG-NGV ต่ออีก 3 เดือนถึง มิ.ย.66 บรรเทาผลกระทบ ปชช. กกพ.จ่อเปิดประชาพิจารณ์ชง 3 ระดับ ปรับค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. ก่อนเสนอบอร์ดเคาะ 22 มี.ค.

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งตนเป็นประธาน ได้พิจารณาสถานการณ์ราคาขายปลีกก๊าซ (NGV) ตั้งแต่ปลายปี 2564 ต่อเนื่องปี 2565 ที่อยู่ในระดับสูง ภาครัฐจึงได้มีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยที่ประชุม กบง.จึงมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ ปตท. กำหนดราคาขายปลีกก๊าซ NGV ดังนี้ (1) รถยนต์ทั่วไป ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 17.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2566 (2) รถแท็กซี่ในโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ของ ปตท. ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ไว้ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2566

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ได้มีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยในที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนฯ ให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานกำกับดูแลสถานีบริการก๊าซ LPG ไม่ให้มีการลักลอบเติมก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ลงในถังก๊าซหุงต้ม

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวด้วยว่า กบง.ยังมีมติเห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสม ดังนี้ ดีเซล บี 7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร, ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 เพื่อไม่ให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น และลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาขายปลีก โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้้ำมันดีเซล (ฉบับที่..) พ.ศ.2566 ให้สอดคล้องกับการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานประสานฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) นำเสนอการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล ทั้งนี้ กบง.อาจมีการทบทวนสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในกลุ่มดีเซลหมุนเร็วตามความเห็น กนป.

วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่มีนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธาน กกพ. เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้รับทราบภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ พ.ค.-ส.ค.66 ซึ่งให้สำนักงาน กกพ.นำค่าเอฟทีประมาณการ และแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกรับไปคำนวณ แบ่งเป็น 3 กรณี จากนั้นให้ชี้แจงรายละเอียดกับสื่อมวลชนในวันที่ 10 มี.ค.นี้ เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ระหว่างวันที่ 10-20 มี.ค.66 ก่อนที่จะเสนอบอร์ด กกพ.พิจารณาอนุมัติค่าไฟงวดใหม่ต่อไปในวันที่ 22 มี.ค.

โดยค่าไฟงวดใหม่ที่จะเปิดประชาพิจารณ์ 3 กรณี กรณีราคาต่ำสุด จะมีราคาสูงกว่าหน่วยละ 4.72 บาท ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟในงวดปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย.) แต่จะไม่ถึงหน่วยละ 4.80 บาท ส่วนกรณีอัตราสูงสุด เป็นการคืนหนี้ให้ กฟผ.กว่า 1 แสนล้านบาทเต็มจำนวน คาดว่าอยู่ที่มากกว่าหน่วยละ 6 บาท

 “ตอนนี้ทาง กกพ.ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดตัวเลขที่ชัดเจนได้ เพราะต้องนำผลการประชุมครั้งนี้ไปคำนวณอีกครั้ง โดยค่าไฟงวดใหม่ จะแบ่งเป็น 3 กรณี แบบงวดที่ผ่านมา เพื่อเปิดประชาพิจารณ์  แต่ละกรณีจะแบ่งการจ่ายคืนหนี้ให้ กฟผ. ที่ต้องแบกภาระต้นทุนแทนประชาชนไปก่อนหน้านี้ประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท เช่น ทยอยจ่ายหน่วยละ 30-40 สตางค์ หรือจ่ายทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าราคาสูงสุดเกินกว่าหน่วยละ 6 บาท” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ผลสุดท้ายจะต้องฟังประชาพิจารณ์ทั้งหมด และกลับมาเสนอให้บอร์ด กกพ.พิจารณาอีกครั้งประมาณวันที่ 22 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกันในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในวันที่ 9 มี.ค.นี้ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีการสอบถามในเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะมีการชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป".