‘ป้อม’เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.กทม.

“บิ๊กป้อม” คุมทัพเลือกตั้ง จ่อเปิดตัว 11 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พปชร.ฝั่งธนฯ 27 พ.ย.นี้ "เสกสกล" แจง “บิ๊กตู่" เดินสะดุดเพราะสมองคิดแต่เรื่องการทำงาน ไม่ได้เจ็บป่วย ลั่นยังฟิต แข็งแรง เป็นนายกฯ ได้อีกหลายปี “ดอน” แจงสภา สหรัฐจัดประชุมสุดยอดประเทศ ปชต.เป็นเวทีการเมืองล้วนๆ ไม่ได้รับเชิญไม่ต้องเสียใจ ยันเยือนพม่าสังคมโลกขอร้องให้เป็นตัวกลางเชื่อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ไม่ได้ไปแบบลับๆ ล่อๆ

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังจากที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งหน้ามีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยมี ส.ส.เขต 400 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน​นั้น​ บรรดาแกนนำพรรค พปชร. โดยคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ได้เริ่มมีการพิจารณาและคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว

ล่าสุด ในวันเสาร์ที่ 27 พ.ย.นี้ ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ เชิงสะพานกรุงธน เขตบางพลัด กทม. เวลา 16.00 น. จะมีการสัมมนาสมาชิกพรรค พปชร. กทม. โดยจะมี ส.ส.กทม.จำนวน 12 คนเข้าร่วม พร้อมผู้สมัคร ส.ส., ส.ก. เพื่อหารือแนวทางการทำงานภาค กทม.ร่วมกัน โดยในเวลา 17.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพปชร. จะมามอบนโยบายการทำงานของภาค กทม.แก่ผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมผู้บริหารพรรค อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าในส่วนของ ส.ส.กทม.นั้น พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค พปชร. จะเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง และมีนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. เป็นผู้ประสานงานดูแล ส.ส.ในภาค กทม.อีกทางหนึ่ง ซึ่งในวันดังกล่าว พล.อ.ประวิตรจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตฝั่งธนฯ ทั้ง 11 เขตด้วย ขณะเดียวกัน​จะมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในเขตอื่นๆ ที่ค่อนข้างชัดเจนมาร่วมงานด้วย

สำหรับ ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ปัจจุบันมี 12 คน ได้แก่ 1.น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ 2.น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พลังประชารัฐ 3.นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา 4.น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ 5.น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ 6.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ 7.นายสิระ เจนจาคะ 8.น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ 9.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 10.นายศิริพงษ์ รัสมี 11.นายประสิทธิ์ มะหะหมัด และ 12.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่มีสื่อโซเชียลนำภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินสะดุดในระหว่างการทำงานหลายครั้ง โดยยืนยันว่านายกฯ ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร และที่ช่วงนี้ต้องเดินสะดุดบ้างก็เป็นเพราะทำงานเยอะ สมองคิดแต่เรื่องการทำงาน บางครั้งจึงขาดความระมัดระวังไปบ้าง นายกฯ ยังฝากขอบคุณพี่น้องประชาชนถึงความห่วงใยในครั้งนี้ด้วยความจริงใจ ซึ่งจากนี้ไปนายกฯ จะใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น

“ยืนยันว่านายกฯ ยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร นายกฯ ทุ่มเททำงานมาก และคิดแต่เรื่องงาน สมองและใจจึงไปก่อน จนบางทีก็ไม่ได้ระมัดระวังบ้าง โดยไม่อยากให้นำไปเป็นประเด็นอื่น ยืนยันอีกครั้งว่าท่านนายกฯ ร่างกายจิตใจยังฟิตแข็งแรงดี สามารถเป็นนายกรัฐมนตรี อยู่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศประชาชนได้อีกหลายปีสบายๆ กลัวแต่พรรคฝ่ายค้านจะต้องเป็นฝ่ายค้านอีกนานแสนนานจนอกแตกตาย หรือไม่ก็ต้องมีคนที่คอยบงการอยู่แดนไกลหรือลิ่วล้อสมุนทั้งหลาย ที่ชอบแช่งนายกฯ อาจจะต้องกระอักเลือดมีอันเป็นไปก่อนหรือเปล่า" นายเสกสกล กล่าว

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เกี่ยวกับเมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ ไปเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในความผิดปกติและไม่เหมาะสม เพราะภายหลังที่เมียนมาทำรัฐประหาร สังคมโลกต่างแสดงท่าทีรังเกียจ คว่ำบาตร และเรียกร้องให้กลับมาเป็นประชาธิปไตย นอกจากนี้ ไทยยังไปเยือนแบบลับๆ ล่อๆ ไม่มีแถลงข่าว ไม่มีวาระแจ้งต่อสังคมไทย เข้าใจโดยเจตนาว่าเขาใช้ไทยเป็นเครื่องมือรับรองสถานะของเขา นำเครดิตของเราสร้างความชอบธรรมให้กับประเทศของเขา

“ขอตั้งข้อสังเกตว่า ในเดือนธันวาคมนี้ สหรัฐอเมริกาจะจัดประชุมสุดยอดประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย 110 ประเทศ แต่ไม่ได้เชิญเรามาจากเหตุการณ์ไปเยือนเมียนมาหรือไม่ จึงอยากถามว่ามีเหตุผลอะไรต้องไปเยือน เจรจาเรื่องอะไร และอยากถามถึงท่าทีของไทยที่เมียนมาทำรัฐประหารด้วย” นายสุทินกล่าว

ด้านนายดอนชี้แจงว่า การไปเยือนครั้งนี้เป็นไปตามกติกาสังคมสากล เรื่องมนุษยธรรม และในฐานะที่เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้าน พูดคุยเรื่องทวิภาคี ยืนยันทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ชาติทั้งสิ้น เมียนมาเป็นประเทศสำคัญในด้านยุทธศาสตร์ มีชายแดนติดต่อจีน อินเดีย ไทย และประเทศอื่นๆ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในชายแดนจำนวนมากเป็นที่รับรู้หลายประเทศทำให้มีคำร้องขอต่อไทยให้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเมียนมาในแง่มนุษยธรรม การเรียกร้องของนานาประเทศมาจากสภาวะที่เป็นจริง

“ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนเมียนมา ไทยได้ร่วมกับอาเซียนในการจัดส่งของเข้าไปให้กับกาชาดสากลที่ปฏิบัติงานอยู่ และเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เราได้สิ่งของบริจาคโดยตรงจากภาคเอกชนของเรารวม 17 ตัน แต่เอาไปได้แค่ 11 ตัน แต่ทั้งหมดย้ำว่าเพื่อกาชาดในเมียนมา สิ่งต่างๆ ที่ไทยดำเนินการล้วนแล้วแต่ได้รับการต้อนรับจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ผมไม่ได้ไปเยือนแบบลับๆ ล่อๆ แต่ไปตามสถานการณ์และความจำเป็น เราไม่เห็นถึงความจำเป็นต้องป่าวประกาศโฆษณา เพราะไม่ใช่มนุษย์พันธุ์หิวแสง"

รมว.การต่างประเทศกล่าวอีกว่า ส่วนการเชิญประชุมสุดยอดฯ นั้น เป็นการเมืองล้วนๆ ไว้สำหรับเล่นงานกันและกัน และกรณีนี้ไม่ใช่ว่าเพื่อนอาเซียนที่เป็นประชาธิปไตยมีการเลือกตั้งจะได้รับเชิญเช่นกัน เรื่องนี้บางทีก็เป็นเหมือนดาบสองคม บางครั้งไม่เชิญก็ถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน แม้จะไม่มีคำเชิญก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตื่นตระหนกกระทืบเท้าด้วยความเสียใจ ขณะเดียวกันแม้เราจะได้รับเชิญก็ไม่ต้องลิงโลด แต่ต้องพิจารณาว่าจะไปร่วมหรือไม่ไปร่วมเสียก่อน.