จีนเทาลามฟ้องกันวุ่น ‘อุปกิต’ไล่บี้สื่อ‘ชูวิทย์’ร้องเอาผิด‘หยู ซินฉี’/โรมงัดหลักฐานสู้

อาฟเตอร์ช็อก ทุนจีนเทาเขย่าสภา! ฟ้องกันระนาว “โรม” จัดหนักก๊อกสอง หอบหลักฐานทรัพย์สินเท็จปมขายโรงแรมยื่น ป.ป.ช. ขณะที่ “ส.ว.ทรงเอ” ไล่บี้สื่อดัง "หมาแก่-แมวสาว” ฟ้องปิดปาก 50 ล้าน เด็กเพื่อไทยเขย่าตึก รทสช.อีกยก หยัน "บิ๊กตู่” ขว้างงูไม่พ้นคอ “ชูวิทย์” ร้องเอาผิดหยู ซินฉี มาตรา 112 จ่อบุกทำเนียบแฉต่อเงินท่อน้ำเลี้ยงเลือกตั้ง โยนเผือกร้อนใส่ มท.ปราบสมาคมเถื่อนชาวต่างชาติ ขณะที่ล้างเว็บพนันออนไลน์ยังพายเรือในอ่าง

ที่รัฐสภา วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดหลักฐานเพิ่มเติมหลังการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ได้เปิดโปงกรณีไทยเทา-จีนเทา ซึ่งพาดพิง นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ทำให้ถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทเรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท โดยระบุว่า  อุปกิตเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการของบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นบริษัทเพื่อฟอกเงินผิดกฎหมายของตุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา เมื่อมีการจับกุมตุน มิน ลัต อุปกิตก็รีบออกมาชี้แจงว่าได้ขายหุ้นและลาออกจากตำแหน่งแล้ว

นายรังสิมันต์กล่าวว่า เอกสารที่อุปกิตยื่นประกอบบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือเอกสารสัญญาซื้อขายอาคารและกิจการโรงแรม ลงวันที่ 9 พ.ค.62  ในสัญญาระบุว่า อุปกิตเป็นผู้ขาย ทำสัญญากับชาคริส กาจกำจรเดช  ผู้ซื้อ ตกลงซื้อขายอาคารตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น จำนวน 1 หลัง ห้องพักจำนวน 78  ห้อง และกิจการโรงแรม Allure Resort และสิทธิการใช้ประโยชน์บนที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคารดังกล่าว ในราคา 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ชำระเงินในเดือนสิงหาคม 2562 และตกลงกันว่าจะส่งมอบและรับมอบการครอบครองอาคารดังกล่าวในวันเดียวกันกับวันที่ทำสัญญา

นายรังสิมันต์กล่าวว่า สารสัญญาฉบับนี้คือสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับโรงแรมตามสัญญา BOT ต้องเป็นของบริษัท Allure Group หรือ Myanmar  Allure ถ้าจะมีการขายโรงแรมให้ผู้อื่นก็ควรเป็นการที่ อุปกิตขายหุ้นของตัวเอง แต่สัญญาฉบับนี้กลับมีชื่อบุคคลธรรมดา 2 คน ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่ได้เป็นสัญญาเพื่อซื้อขายหุ้นของบริษัท แต่เป็นการซื้อตึกและกิจการโรงแรม และสิทธิใช้ประโยชน์บนที่ดินโรงแรม หมายความว่าตามสัญญานี้สิทธิในโรงแรม Allure Resort จะต้องตกเป็นของบุคคลธรรมดาที่ชื่อชาคริส เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ นี่คือความไม่ชอบมาพากลของการขายโรงแรมที่อ้างต่อ ป.ป.ช.

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ข้อมูลนี้หมายความว่าหนังสือสัญญาซื้อขายระหว่างอุปกิตกับชาคริส เป็นเอกสารเท็จ  สัญญาซื้อขายไม่ได้เกิดขึ้นจริงใช่หรือไม่ รายได้ที่เข้าบัญชีกัมพูชาของอุปกิตกว่า 8 ล้านดอลลาร์มาจากไหน เป็นเงินจากใคร และได้มาจากเรื่องอะไรกันแน่ การกระทำเช่นนี้เป็นการจงใจยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบหรือไม่  และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้หรือไม่ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาที่แท้จริงของทรัพย์สินคือเงิน 8 ล้านดอลลาร์ ว่ามาจากที่ไหน

 “ซึ่งจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการปราบปรามทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 167 และในมาตรา  114 ประกอบมาตรา 81 ยังกำหนดให้ ป.ป.ช.เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัยด้วย หากวินิจฉัยว่าผิดจริง อุปกิตจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ว. ถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 10 ปี  โดยภายในสัปดาห์นี้จะไปยื่นคำร้อง ป.ป.ช.ต่อไป” นายรังสิมันต์ระบุ

นายรังสิมันต์ระบุว่า ตนขอตั้งคำถามถึงหน่วยงานตำรวจ 3 ข้อ ข้อแรก ผบ.ตร.ในฐานะพนักงานสอบสวนระดับสูงสุด ว่าหลังจากตนเปิดหลักฐานไปหมดแล้ว ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่ออุปกิต เรื่องนี้ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ คำถามที่ 2 ถ้าข้อเท็จจริงชี้ว่า ทรัพย์สินต่างๆ  ของอุปกิตได้มาจากการฟอกเงิน หรือยังไม่มีความชัดเจนว่าอาจได้มาโดยผิดกฎหมาย จะต้องมีการยึดอายัดทรัพย์สินเหล่านั้นตามหลักปฏิบัติหรือไม่ ตำรวจจะกล้ายึดอาคารและที่ดินที่วันนี้เป็นที่ตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติ  (รทสช.) หรือไม่

“และคำถามที่ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุปกิต  แต่ตอนนี้ในฐานะประธาน ก.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ ขอตั้งคำถามว่า ทำไมตำรวจที่รับผิดชอบคดีจับกุมตุน มิน ลัต จึงถูกย้าย เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์รู้ใช่หรือไม่ ว่าตัวเองอาจหนีความรับผิดชอบไม่ได้” นายรังสิมันต์กล่าว

เมื่อถามว่า ส.ว.ควรจะมีการตรวจสอบจริยธรรมกันเองหรือไม่ นายรังสิมันต์ระบุว่า วันนี้หลักฐานมันชัดแล้ว  หากคิดว่า ส.ว.ไม่ควรมีคนแบบนี้ก็ควรไปดำเนินการ แต่ไม่เห็นมีอะไรเลย ส.ว.ทุกคนเงียบหมด แต่เวลาพูดเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์หรือท้าทายประชาชนเก่งเหลือเกิน พอเป็นพวกเดียวกันเกี่ยวข้องกับเรื่องเทาๆ ก็เงียบสนิท

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แต่การตอบโต้แบบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นไม่เกิดประโยชน์ ขว้างงูไม่พ้นคอ จนเหมือนทำให้ไม่เหลือความจริงแม้แต่นิดเดียว พรรครวมไทยสร้างชาติออกแถลงการณ์ว่า พลเอกประยุทธ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเช่าอาคารสถานที่ของ ส.ว.ทรงเอ แต่ไม่ได้ตอบคำถามว่าอาคารสถานที่ดังกล่าวเป็นของ ส.ว.ทรงเอจริงหรือไม่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับพลเอกประยุทธ์อย่างไร

นายธนกร วังบุญคงชนะ ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ  (รทสช.) กล่าวว่า พรรคได้แจ้งแล้วว่าผู้ที่เป็นเจ้าของตึก ไม่ได้ถูกดำเนินคดีอะไร และได้มีการฟ้องร้องเพื่อรักษาสิทธิ์ไปแล้ว และ พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากให้มีคดีขึ้นศาล  ถ้าหากจำเป็นก็จะให้ฝ่ายกฎหมายไปดู ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่มีใครอยากมีคดีความ ถ้าชี้แจงแล้วจบก็จบไป แต่ถ้าไม่จบก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดู

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา รัชดาฯ นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. มายื่นฟ้องนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และนางสาวอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ สองผู้ดำเนินรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากการดำเนินรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ออกอากาศเผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ MCOT ในหลายวาระ มีเนื้อหาพาดพิง สร้างความเสียหาย ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดต่อนายอุปกิต ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของขบวนการค้ายาเสพติดกรณีการจับกุม นายตุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา โดยฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท และศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 22 พ.ค.66 เวลา 09.00 น.

ที่ สน.นางเลิ้ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายหยู ซินฉี ประธานสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเซียน ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกร้องให้ดำเนินคดีมาตรา 112 เนื่องจากมีพฤติการณ์ชัดเจนหาประโยชน์ให้ตัวเอง เข้าข่ายผิด ม.112 ชัดเจน

นายชูวิทย์ระบุด้วยว่า พรุ่งนี้เวลา 13.00 น.จะบุกทำเนียบรัฐบาล เอาข้อมูลทุจริตคอรัปชันทั้งหมดไปมอบให้นายกฯ ตนมีข้อมูลทุจริตของกระทรวงคมนาคมจำนวนหลายหมื่นล้าน คิดว่าใช้เป็นทุนให้พรรคการเมืองบางพรรค ตอนนี้ทุกพรรคการเมืองสะสมทุนเพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้ง

นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ฝากไปยังกระทรวงมหาดไทย เรื่องสมาคมต่างๆ ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยเพราะมีเป็นแสนสมาคม นอกจากนี้ให้ไปตรวจสอบที่ภาค 2 เป็นสมาคมของแก๊ง 14 เค ฮ่องกง-มาเก๊า,  สมาคมหงเหนิน เป็นทุนจีนมาเก๊าสีเทา มีเจ้าของสมาคมคือนายไป๋ เป็นสมาคมเถื่อนอีกสมาคมหนึ่งของชาวต่างชาติ กระทรวงมหาดไทยควรเอาใจใส่ โดยสมาคมเหล่านี้เป็นที่พบปะ แหล่งซ่องสุม เป็นสมาคมอั้งยี่ เช่นเดียวกับสมาคมของนายหยู ซินฉี มีการแอบอ้างจะลงทุน จะประกอบธุรกิจต้องผ่านสมาคม โดยมีการเปิดสำนักงานทนายความบังหน้า  

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองฯ นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม  เดินทางเข้าร้องและนำหลักฐานสามีนักแสดง “ห” ช่องน้อยสีเกี่ยวข้องเว็บไซต์พนันออนไลน์ให้ตรวจสอบ โดยมี  พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าว

พล.ต.ท.วรวัฒน์เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีเพิ่มเติม และจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ส่วนกลุ่มพี่น้อง 4 บ. เบื้องต้นพบว่ายังอยู่ที่ต่างประเทศ แต่หากใครมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องก็จะขอศาลออกหมายจับได้ตามขั้นตอน ถึงแม้ตัวจะอยู่ต่างประเทศก็ขอหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลได้

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.5 ในฐานะโฆษก สอท. เผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 ว่า พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 55 คน และติดตามจับตามหมายได้แล้ว 44 คน จับซึ่งหน้า 3 คน รวม 47 คน  เหลือยังหลบหนีอีก 11 คน ที่อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยบางส่วนยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ

 “ส่วนจะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นอีกหรือไม่นั้น  หลังจากนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน หากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีการขอศาลออกหมายจับพี่น้องของนายเบนซ์ เดม่อน ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว ส่วนจะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และก็ยังไม่มีการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ” พ.ต.อ.กฤษณะระบุ.