โวคนนับแสนรอ‘ประยุทธ์’ สยบข่าวอิทธิพลซบรทสช.

"แรมโบ้อีสาน" โวคนโคราชเตรียมมาฟัง "บิ๊กตู่" ปราศรัยเป็นแสนจนทะลัก เชลียร์เป็นนายกฯ ดีที่สุดไร้คู่เทียบ   ด้าน "บ้านใหญ่ชลบุรี" ยกครัวไปเพื่อไทย สยบข่าว "อิทธิพล" ซบ รทสช. ขณะที่ "วิษณุ" เผยคุยเรื่องยุบสภาหลัง ก.พ. รอแบ่งเขตนิ่งก่อน ราชกิจจาฯ ประกาศระเบียบการเลือกตั้งแล้ว

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงกรอบการยุบสภา เรื่องดังกล่าวเอาไว้คุยหลังอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ส่วนเวลาที่เหมาะสมที่จะคุย หลังวันที่ 28 ก.พ. ต้องรอให้การแบ่งเขตเลือกตั้งนิ่ง เรียบร้อยเสียก่อน โดยขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้แจ้งเรื่องอะไรมาที่รัฐบาล ซึ่งตนทราบมาว่าขณะนี้ กกต.ได้ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความนิยามของคำว่าราษฎร   ถามอีกว่า รัฐบาลจะมีความเห็นอะไรส่งไปยัง กกต.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี เว้นแต่เขาถามมา แต่เรามีเรื่องจะถาม กกต. แต่ยังไม่ถามช่วงนี้ ขอรอให้ทุกอย่างนิ่งเสียก่อน คือหลังวันที่ 28 ก.พ.

สำหรับกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยเรื่องนี้นานหรือไม่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ โดยหลักไม่ควรจะนาน เพราะศาลรู้แล้วว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งยื่นตามช่องทางของรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันศาลอาจไม่รับพิจารณาเรื่องดังกล่าวก็เป็นไปได้เช่นกัน  ซึ่งขึ้นอยู่ที่ศาล

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ กกต.ขอเวลาเตรียมตัวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งถึงวันที่ 28 ก.พ. แต่เมื่อยื่นศาลวินิจฉัย จะส่งผลให้ระยะเวลาเตรียมตัวเลือกตั้งของ กกต. ขยับออกไปหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ปกติเขาแบ่งตามหลักเกณฑ์ของเขาได้   ถ้าศาลออกมาแบบไหนค่อยออกมาปรับใหม่อีกครั้งก็ได้ เพราะไม่ได้กระทบหมดทุกเขตในประเทศไทย เพราะบางเขตก็ไม่มีคนต่างด้าว เท่าที่ฟังมามีอยู่ไม่กี่จังหวัด ดังนั้น 28 ก.พ.จึงแบ่งเขตออกมาได้ก่อน เช่น ประเทศไทยมีอยู่ 400 เขต ก็อาจจะนิ่งอยู่ 300 เขต ยอมรับว่าหากจะมีการกระทบ แต่ก็น้อยมาก และไม่เป็นสาระสำคัญ

“แต่ที่จะเป็นสาระสำคัญก็คือเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับราษฎร เช่นอำเภอนี้ไม่ควรอยู่ตรงนั้น อย่างเช่นบางพื้นที่ที่เขาประท้วงกันอยู่ในขณะนี้ เพราะบางพื้นที่ที่มีฐานเสียงอยู่แล้ว แต่แบ่งเขตออกไป ซึ่งการแบ่งเขตถือเป็นอำนาจเด็ดขาดของ กกต.  แต่ต้องรับฟังเขาก่อน โดยเมื่อฟังแล้วจะยืนยันอย่างไรก็เป็นเรื่องของคุณ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องราษฎร” นายวิษณุ กล่าว

วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 มีเนื้อหาทั้งสิ้น 248 หน้า จำนวน 261 ข้อ สาระสำคัญคือ การกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อาทิ รายละเอียดผู้อำนวยการและคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง, หน่วยเลือกตั้ง, ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง, การแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง, หีบและบัตรเลือกตั้ง, การประกาศวันรับสมัครรับเลือกตั้งและสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง, การประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ โดย กกต.ต้องประกาศไม่ช้ากว่า 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง, ผู้แทนพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครและการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง, การเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งมีบัญชีแนบท้าย ทั้งเรื่องค่าตอบแทน, รูปแบบบัตรเลือกตั้ง, หีบเลือกตั้ง และใบสมัคร เป็นต้น

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรองรับการปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ที่ลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 25 ก.พ.ว่า กลัวว่าที่หน้าศาลากลางจังหวัดประชาชนจะไม่มีที่อยู่ โดยได้ประสานงานตำรวจและจราจรเพื่อเตรียมความพร้อม ตนมั่นใจอย่างต่ำมาฟังครึ่งแสน และมั่นใจว่าอาจจะมาเป็นแสน ทะลักแน่นเมืองโคราชวันที่ 25 ก.พ. หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา บ้านเกิดลุงตู่ เลือกนายกฯ ลุงตู่ ลูกอีสาน หลานย่าโม

“ผมให้ย้อนกลับไปดูคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี มาเป็นคู่แข่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมองไม่เห็นคนที่เหมาะสม และไม่มีคนที่จะมาเทียบได้ เรายังมั่นใจ นายกฯ ลุงตู่ดีที่สุดในการที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป คนอื่นที่จะมาเป็นคู่เทียบ ผมยังมองไม่เห็นใครจะเปรียบเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์ได้เลย ดูจากท่านทุ่มเททำงาน ดูจากความตั้งใจทำงาน หรือทำให้บ้านเมืองสงบสุข หรือเรื่องของความโปร่งใส ไม่มีการกล่าวหาเรื่องการทุจริต โกง  คอร์รัปชันต่างๆ ฉะนั้นผมเชื่อมั่นว่านายกฯ ลุงตู่ขายได้อย่างแน่นอน และเสียงของพี่น้องประชาชนคือเสียงสวรรค์  ที่จะช่วยให้ลุงตู่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยเฉพาะที่นั่ง ส.ส.ในภาคอีสาน 132 พรรค ก็หวังจะได้ให้ได้มากที่สุด” นายเสกสกลกล่าว

นายสนธยา คุณปลื้ม สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะหัวหน้าทีมกลุ่มชลบุรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ถึงกรณีมีกระแสข่าวนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม จะไม่ย้ายตามไปอยู่พรรคเพื่อไทย แต่จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ  ว่า ไม่จริง ข่าวที่ออกมาเป็นแหล่งข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่บอกว่าครอบครัวแยกคนละทางนั้น อยากบอกว่าครอบครัวเรา ตั้งแต่สมัยคุณพ่อจนถึงปัจจุบัน คุยกันตลอด มีการประชุมและหารือกันทุกเรื่อง ทั้งเรื่องในบ้าน เรื่องการเมือง เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน พี่น้องได้พูดคุยกัน วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองมาโดยตลอด สุดท้ายมีความเห็นร่วมกัน จะไม่อยู่ที่เดิม และย้ายไปพรรคเพื่อไทย วงในสุดคือวงของพี่น้อง

นายสนธยากล่าวว่า ยังได้มีการพูดคุยกันถึงการลาออกจากรัฐมนตรี โดยช่วงก่อนปีใหม่ได้มาสรุปกันอีกครั้งว่าเราจะไปพรรคเพื่อไทย และนายอิทธิพลได้ระบุหลังปีใหม่จะลาออก เพื่อให้ตนได้เปิดตัวอย่างเต็มที่ ยืนยันทิศทางการเมืองเราคุยกัน และนายอิทธิพลก็ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 16 ม.ค. และตนก็ได้ไปเปิดตัวที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ยืนยันว่านายอิทธิพลมาด้วยพันเปอร์เซ็นต์ จากนั้นวันที่ 28 ม.ค. เราได้หารือกันอีกครั้ง มีข้อสรุปว่าตนนำทีมเพื่อไทยในชลบุรี และให้นายอิทธิพลปฏิบัติหน้าที่ รมว.วัฒนธรรมต่อไปจนกว่าครบวาระ หรือมีการเปลี่ยนแปลง และในฐานะที่ตนเป็นพี่คนโต ได้บอกน้องว่าเรื่องนี้ตนจะเป็นผู้พูดเอง และหากใครมีอะไรจะเสริม เช่น รมต.อิทธิพล ที่เป็นตัวละครที่ถูกจับมาเล่น จะพูดคุยกัน ดังนั้นน้ำหนักที่ตนพูดมีมากกว่า

นายสนธยากล่าวว่า นายอิทธิพลได้บอกว่าทั้งนายกฯ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. มาชวนไปอยู่ แต่นายอิทธิพลไม่ไปไหน เพราะครอบครัวเราคุยกันว่าจะไม่มีการอยู่คนละพรรค เราพูดตลอด บางครั้งเรื่องภายในเรามองว่าไม่จำเป็นต้องออกมาพูด แต่วันนี้การเมืองโดยเฉพาะที่ชลบุรีเป็นการเมืองที่ถูกสร้างเขียนเป็นนิทานเพื่อให้ไม่ดี โดยนักการเมืองไม่ดี ผมไม่อยากใช้คำว่าเลวนะ เพราะเป็นคำที่ไม่ควรใช้ ขอใช้คำว่าการเมืองไม่ดีมากกว่า เพราะเราก็มีจุดยืนของเรา ตามที่เป็นข่าวขึ้นภาพนายอิทธิพลและข้อความว่า พ่อสอนว่า… ไม่ให้เนรคุณคน ผมทรยศลุงตู่ไม่ได้ เราก็ถามกัน ก็บอกว่าไม่จริง ไม่ได้พูด ก็เราคุยกันแล้ว การเมืองช่วงนี้ไม่ค่อยดี เป็นการเมืองที่ไม่ดี บางคนอาจจะคิด ทำอะไรก็ได้เพื่อผลทางการเมืองก็ทำไป เราไม่ได้เดินทางนี้

ที่ที่ทำการพรรค รทสช. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคให้กับว่าที่ผู้สมัครของ ส.ส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 น.ส.ฐันญาภา โพธิสาร, เขต 2 นายณัฐพล ขวัญแจ่ม, เขต 3 ดร.ภัทรดร พุทธนุรัตนะ, เขต 4 นายสุทธิพงษ์ จุลกะ,  เขต 5 นายทองสุข บำรุงนอก และเขต 6 นายสมโภชน์ นวลสาลี โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานร่วม ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวที่รัฐสภา ปฏิเสธข่าวที่มีการโพสต์ลงเฟซบุ๊กในเพจของ Anusorn Sirichart @anu_sirichart ระบุว่า "เรื่องร้อนๆ จาก ก.เกษตรฯ ทำเนียบฯ เมื่อ "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รมว.เกษตรฯ ต่อสายตรงถึง "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" เลขานายกฯ ที่มีคำสั่งระงับจ่ายงบกลางปี 66จำนวน 590,470 ล้านบาทให้แต่ละกระทรวง พร้อมลั่นวาจา "เล่นกันแบบนี้ใช่มั้ย..ไม่ต้องการมิตรอีกแล้วใช่มั้ย" ใกล้เลือกตั้งเก็บทุกบาท..กวาดทุกเม็ด" โดย นายวัชระยืนยันว่า เป็นข่าวเท็จอย่างสิ้นเชิง ตามข้อเท็จจริงคือ นายเฉลิมชัยไม่เคยโทร. ไม่เคยคิดจะโทรศัพท์ไป และไม่จำเป็นต้องโทร.ไปหานายพีระพันธุ์ เพราะตามอำนาจการอนุมัติเงินงบประมาณ เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สามารถอนุมัติได้ไม่เกินวันละ 100 ล้านบาท จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้แถลงให้ประชาชนทราบว่าได้มีการอนุมัติไปให้หน่วยงานส่วนใดบ้าง

ทางด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ได้ประชุมสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั่วภาคใต้ โดยระบุว่า เตรียมปราศรัยที่จะเน้นย้ำนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย 3กรอบใหญ่ กรอบแรกคือกรอบสร้างเศรษฐกิจ ภาคใต้เราเป็นชัยภูมิที่ตั้งเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค เป็นประเทศเดียวที่สามารถเชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิกได้ ขณะเดียวกันเราก็เป็นประเทศเดียวเหมือนกันถ้ารถไฟจากประเทศจีนจะลงไปสู่แหลมมลายู ก็ต้องผ่านประเทศไทยทางเดียวเท่านั้น เมื่อโลกไร้พรมแดนจะไม่จำกัดการค้าของเราอยู่ที่กว่า 70 ล้านคน  ประชากรไทยเราจะจับมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำทางรถไฟเชื่อมจากจีนตอนใต้ไปสู่แหลมมลายู และเราสนใจที่จะทำโครงการเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย ด้วยโครงการขุดคลองไทยให้สำเร็จลงให้ได้ในสมัยรัฐบาลของพรรคไทยสร้างไทย รวมทั้งนโยบายโครงการสร้างเมืองศูนย์กลางอาหารฮาลาลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ฟื้นตัวและดีขึ้นตามลำดับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง