อิทธิพลจ่อซบ‘รทสช.’

กกต.ยื่นศาลวินิจฉัยตีความนิยาม "ราษฎร" แล้ว ขณะที่ "รทสช.-พลังประชารัฐ" กระโดดเป็นกบเลือกนาย 2 ป.กันต่อเนื่อง "อิทธิพล คุณปลื้ม"   ขอจอดร่วมหัวจมท้าย "บิ๊กตู่" ขณะที่สร้างอนาคตไทยหอบผ้าคืนสู่เหย้าชายคาลุงป้อม พร้อมเข้ากระชับพื้นที่ทีมเศรษฐกิจ     ยันไร้ปัญหาทับเขตเลือกตั้งกัน ด้าน "ปชป." เข็นต่อ "จุรินทร์" ชิงนายกฯ     "อนุทิน" ไม่สนบางพรรคดีลลับจัดรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง เตือนระวังไปก่อนเพื่อน    เพื่อไทยทัวร์อีสานมุกแป้กหนัก ขุดรอยทักษิณเหยียบอาจสามารถโมเดลหาเสียง

เมื่อวันพุธ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ​ได้เดินทางไปยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี ตามมาตรา 210 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 ประกอบมาตรา 7 (2)   มาตรา 41 (4) และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 และข้อ 15 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562  

ที่รัฐสภา นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า วันที่ 14 ก.พ. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้มีการรายงานความคืบหน้าการจัดวางตัวบุคคลเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรค ซึ่งมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 ส่วนในพื้นที่เขตไหนที่ยังไม่ลงตัว มีผู้สนใจมากกว่า 1 คน หากไม่สามารถตกลงกันได้ ให้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกตัวผู้สมัคร ซึ่งเป็นหลักการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองได้วางไว้เพื่อป้องกันเด็กเส้น

 “ส่วนนโยบายของพรรค ได้เร่งจัดทำ  คาดว่าพรรคจะแถลงข่าวเปิดนโยบายอย่างเป็นทางการได้ โดยไม่เกินวันที่ 20 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นแผนประชาสัมพันธ์ระยะที่ 2 ต่อเนื่องจากระยะแรกที่ได้มีการนำเสนอภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีจุดขายใจซื่อมือสะอาด เชิดชูสถาบัน เรียกความเชื่อมั่นไปแล้ว” นายธนกรระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมด้วยผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้การต้อนรับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ถือฤกษ์วันวาเลนไทน์เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่ามกลางสมาชิกพรรคกลุ่มภาคใต้ อาทิ นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร และนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมแสดงความยินดี ซึ่งนับว่าเป็นอดีต ส.ส.คนล่าสุดที่เข้ามา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่าขณะนี้นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดสินใจช่วยงานและรับปากกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคการเมือง รทสช.แล้วเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยหากสมัครเป็นสมาชิก รสทช. มีแนวโน้มจะไม่ลงสมัคร ส.ส.เขต แต่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคแทน ทั้งนี้ มีรายงานว่านายอิทธิพลได้ลาออกจากพรรค พปชร. ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา

ชูลุงตู่ลูกอีสานหลานย่าโม

ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ประธานที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทีมแรมโบ้อีสาน พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันตรวจสถานที่ลานจอดรถสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ที่ พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดจะเดินทางมากราบไหว้สักการะท้าวสุรนารี ในโอกาสเดินทางมาปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 25 ก.พ.2566 นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 132 เขต 20 จังหวัดภาคอีสาน

 “โดยพรรคจะใช้สโลแกนในการปราศรัยครั้งนี้คือ เลือกนายกฯ ลุงตู่ ลูกอีสาน หลานย่าโม และจะชี้ให้เห็นผลงานของนายกฯ ที่สร้างให้กับชาวอีสานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และบัตรสวัสดิการต่างๆ ที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งจะชูความเป็นผู้นำประเทศใจซื่อมือสะอาด ไม่เคยโกงกินแม้แต่บาทเดียว” นายเสกสกลระบุ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร., นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร., นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.การคลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรค ร่วมแถลง “สร้างอนาคตไทยคืนสู่เหย้าพรรคพลังประชารัฐ” พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร. จำนวน 8 คน ประกอบด้วย 1.นายประจวบเหมาะ ภักดีชน จ.นครศรีธรรมราช 2.พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี จ.ชุมพร 3.นายกานต์ เพชรบูรณ์ จ.พังงา 4.นางปวีณา นิลแย้ม จ.ลพบุรี 5.นางศรัณยา สุวรรณพรหม จ.หนองบัวลำภู 6.นายมนตรี เพิ่มชัย จ.อุดรธานี 7.นายประวัติ กองเมืองปัก จ.มหาสารคราม 8.นายทวีศักดิ์ ประทุมลี จ.มุกดาหาร

นายอุตตมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ พวกเราหลายคนในทีนี้อยู่ใน 2 พรรค คือพรรคสร้างอนาคตไทยและพปชร. แต่วันนี้อยู่ในพรรคเดียวคือ พปชร. พวกเราทั้งหมดมาเพื่อทำงานร่วมกันภายใต้เจตนารมณ์เดียวกัน คืออยากจะเห็นคนไทย บ้านเมือง เดินหน้าต่อไปได้ เหตุการณ์ที่เป็นอยู่ถือว่าต้องใช้ทั้งกำลังสมอง พลังกาย พลังใจ ร่วมกันหลายฝ่ายจึงจะฝ่าฟันไปได้

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เป็นอีกวันที่พวกเรานำบุคลากรคุณภาพของพรรค และนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ตัดสินใจร่วมกันทำงานการเมืองกับ พปชร. และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่จะเดินทางมาเปิดตัว เป็นสัญลักษณ์ของการเดินเข้ามาของบุคลากร ไม่เพียงแต่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค แต่เราเน้นทีมเศรษฐกิจ ทีมนโยบายด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีปัญหาเรื่องทับเขตของตัวผู้สมัคร ส.ส.หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ส่วนหนึ่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เป็นชุดที่เปิดตัวกับพรรคไปแล้ว ในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทยที่มาร่วมกับเรา ถ้าดีกว่าที่เรามีและเรายังขาดอยู่ ก็ต้องเอาคนของพรรคสร้างอนาคตไทยที่มา

"วันนี้เข้ามาเพิ่มอีกหลายสิบคน เรามองดูแล้วว่าเป็นไปได้ที่จะเป็นตัวแทนของ พปชร.ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนคนที่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ซึ่งมีบางส่วน เราจะกันเอาไว้สำหรับการขึ้นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของ พปชร. ซึ่งได้บอกพวกเขาว่ายังมีตำแหน่งทางการเมืองอีกมากมาย" นายวิรัชระบุ 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลใกล้ครบวาระแล้วมีอะไรที่ยังคั่งค้างหรือไม่ว่า ภท.ส่งการบ้านครบ เรื่องของนโยบายกัญชา เราปลดล็อกเรียบร้อย ร่างกฎหมายผ่านวาระหนึ่งแล้ว คนที่ไม่ให้ผ่านวาระ 2-3 ไม่ใช่ ภท. แต่อยู่ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน อยู่นอกเหนือการควบคุม ทั้งนี้ หากได้กลับเข้ามาหลังเลือกตั้งจะต้องผลักดันกฎหมายดังกล่าวให้ผ่าน

เมินดีลตั้งรบ.ก่อนเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสว่าพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มจับมือกันก่อนเลือกตั้งแล้วเพื่อผูกมิตรกันไว้จัดตั้งรัฐบาล โดยจะไม่รอหลังเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า เคยเห็นคนที่ทำอย่างนี้ ไม่เคยสำเร็จสักราย ในช่วงที่ตนเป็นหัวหน้า ภท.มาสิบกว่าปี เห็นมาแล้ว ผูกก่อน จับก่อน ไปก่อน พร้อมย้ำว่าคนผูกก่อน ไปก่อนทุกทีเลย

เมื่อถามย้ำว่า ประกาศชัดเจนได้เลยหรือไม่ว่า รทสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเบอร์ 1 ในใจที่จะร่วมรัฐบาลด้วย นายอนุทินกล่าวว่า ไม่พูดถึงคนอื่น ตอนนี้ที่ตั้งใจทำที่สุดคือต้องเร่งรณรงค์หาเสียง เสนอนโยบายให้ประชาชนพิจารณา และให้ความไว้วางใจกับ ภท.ให้เข้ามาทำงานให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่มีสัญญาณยุบสภา แต่ต่อให้จะยุบหรือไม่ ก็ไม่เกิน 5 สัปดาห์

"คนที่เลือกจะให้เราเป็นอะไรก็คือประชาชน ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งคืออะไรก็คือคำสั่งของประชาชน เราอ่านคำสั่งประชาชนไม่ผิดหรอก และซิกซ์เซนส์ของผมก็ไม่เคยผิดเลย" นายอนุทินกล่าว และว่า ส่วนซิกซ์เซนส์จะได้เป็นนายกฯหรือไม่นั้น ตนไม่บอก ขอเก็บไว้คนเดียว

ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาที่ รทสช. พยายามดึงตัวคนของพรรคชาติไทยพัฒนาในพื้นที่สุพรรณบุรีไปว่า ต้องขอบคุณนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้พูดคุยกันเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขอบคุณที่ให้เกียรติมาชี้แจงว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ซึ่งเห็นสถานการณ์แบบนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่ละพรรคต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดกับพรรคตัวเอง ดังนั้นเมื่อมีปัญหาอะไรก็ต้องคุยกัน การทำงานในฐานะพรรคร่วม พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เคยเอาประเด็นการเมืองใดเข้ามาเกี่ยวในการทำงานให้ประเทศในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

วันเดียวกัน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่า คณะ กก.บห.มีการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 14 ก.พ. โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นบุคคลที่พรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคประชาธิปัตย์เชื่อและมั่นใจในศักยภาพและความสามารถที่ไม่แพ้ใคร ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจให้

 ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่ปราศรัยใน 5 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ รวมทั้งหมด 9 เวทีปราศรัย  ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 จะเปิดเวทีปราศรัยแรก ที่โรงเรียนอำนาจเจริญ อ.เมืองฯ จ.อำนาจเจริญ ในเวลา 10.00 น. ไปต่อที่ โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 14.00 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่บึงพลาญชัย อ.เมืองฯ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 17.00 น.

"ที่ จ.ร้อยเอ็ด เคยมีความทรงจำร่วมกันกับพรรคไทยรักไทย เนื่องจาก ดร.ทักษิณเคยได้จัดโมเดลแก้จนที่ อ.อาจสามารถ เรียกว่า อาจสามารถโมเดล วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส น่าเสียดายที่หลังลงพื้นที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง นำไปสู่การรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการทำงาน แก้ปัญหาความยากจน ยังเป็นเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะนำเสนอบนเวทีนี้ด้วย" นายณัฐวุฒิระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง