ล็อกเป้า‘บิ๊กตู่-โอ๋’ ฝ่ายค้านเปิดฉากซักฟอก/‘ชวน’ดักคอปชช.จับตา

"ชวน" มองแง่ดีอภิปราย ม.152 ไม่มีเหตุผลที่องค์ประชุมจะไม่ครบ   โยน "สุชาติ" เคลียร์หากเปิดไม่ได้ แนะทุกฝ่ายต้องร่วมมือ "ธนกร" ยันนายกฯ ไม่กังวลพร้อมไปชี้แจง เย้ยมีไม่กี่เรื่องไม่จำเป็นต้องล็อบบี้ทำสภาล่ม ฝ่ายค้านส่ง "ชลน่าน" ชำแหละภาพรวมการไม่ทำตามนโยบาย เปิดประเด็นครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ยาเสพติด ทุนสีเทา ล็อกเป้าถล่ม "บิ๊กตู่-เสี่ยโอ๋"     ด้าน "ส.ส.สาวเพื่อไทย" อัด "ประยุทธ์" แก้ปัญหายาเสพติดล้มเหลวทุกมิติ จ้องถล่มมหันตภัยร้ายออนไลน์-ทุนสีเทา

สภาผู้แทนราษฎรเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะ เป็นผู้เสนอญัตติ ระหว่างวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ที่ยังมีความกังวลเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลยังถือว่าเป็นเสียงข้างมากอยู่พอสมควร แต่ต้องยอมรับว่าในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถคุมองค์ประชุมได้ รัฐบาลก็คุมไม่ได้ ดังนั้นองค์ประชุมจึงไม่ค่อยมีความแน่นอน จึงทำให้เกิดมีความรู้สึกว่าการประชุมในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ องค์ประชุมจะพร้อมหรือไม่  ซึ่งไม่มีใครตอบได้ แต่การประชุมดังกล่าวเป็นการตกลงทั้งสองฝ่าย

เมื่อถามว่า หากการประชุมวันที่ 15 ก.พ. ไม่สามารถเปิดได้ ขั้นตอนต่อไปจะต้องดำเนินการอย่างไร นายชวนกล่าวว่า เรายังมองในแง่ดีว่าการประชุมในวันที่ 15 ก.พ. ดูแล้วไม่น่ามีเหตุผลอะไรที่องค์ประชุมจะไม่ครบ เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลกำหนดมาเอง แต่อาจจะมีบางพรรคการเมืองที่เกรงว่าจะอภิปรายนอกประเด็น แต่ตนคิดว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลจะมีโอกาสชี้แจงได้

ถามย้ำว่า หากองค์ประชุมไม่ครบจริงๆ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายชวน กล่าวว่า หากสมมติว่าการประชุมในวันที่ 15 ก.พ.ทำไม่ได้ ก็ให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 หารือกับวิปสองฝ่ายอีกครั้ง เพราะเราไม่มีเวลามากไปกว่านี้แล้ว การประชุมในสัปดาห์สุดท้ายของสมัยประชุม จะพยายามทำให้เรื่องที่ค้างไว้และเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้วได้พิจารณาให้หมด เพราะใน กมธ.เขาทำงานกันมา 1-3 ปี บางคณะใช้เบี้ยประชุมไปเป็นล้านบาท บางคณะใช้เบี้ยประชุม 2-3 ล้านบาท

เมื่อถามว่า หากการประชุมในวันที่ 15 ก.พ. ไม่สามารถเปิดได้ จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง นายชวนย้ำว่า ในช่วงปลายสมัยสภาเราเห็นความไม่พร้อมในการประชุมที่ครบองค์ประชุม ซึ่งรายชื่อเราไม่ได้ปกปิด สามารถมาขอดูได้ และสมาชิกที่อยากแข่งขันก็สามารถมาดูได้ว่ามาประชุมกี่ครั้ง ก็เอาไปใช้ประโยชน์ว่าคนเหล่านั้นเลือกไปแล้วรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งคู่แข่งสามารถนำไปใช้ได้

 “ผมย้ำเตือนเสมอว่าอย่าไปประมาท เตือน ส.ส.ที่มีความมั่นใจว่าอย่าไปมั่นใจ เพราะปัจจุบันประชาชนเขาติดตามการประชุม และระบบการสื่อสารปัจจุบันสามารถเจาะได้ลึก ซึ่งประชาชนก็อาจจะรู้หรือคู่แข่งขันรู้แล้วเอาตัวเลขไปบอกประชาชนว่าไม่มาประชุมบ่อย ก็อาจจะเกิดผลกระทบได้” นายชวนกล่าว

เมื่อถามว่า มีการระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะพยายามเดินเกม จะล่มการประชุมสภา นายชวนกล่าวว่า ไม่ได้ยินเรื่องนี้ และไม่เคยมีใครมาพูดเรื่องนี้ เมื่อเป็นข่าวออกมาตนก็ไปถาม เขาก็บอกว่าไม่ได้ยินเรื่องนี้ การที่ตนได้พบนายกฯ ครั้งหลังสุดในการประชุมการปฏิรูปประเทศ ก็ได้แจ้งให้ทราบว่าการประชุมสภาล่ม แต่เข้าใจว่ารัฐบาลไม่สามารถจัดการองค์ประชุมได้ในขณะนี้แม้จะมีเสียงข้างมากก็ตาม ดังนั้นต้องอาศัยทุกฝ่าย

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้กังวลอะไร นายกฯ ได้พูดคุยกับตนว่าพร้อมไปชี้แจง และไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเยอะ เพราะมีไม่กี่เรื่องที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายนายกฯและ ครม.พร้อมชี้แจงไม่ได้กังวลอะไร

เมื่อถามว่า ที่มีกระแสข่าวว่าแกนนำพรรคพลังประชารัฐบางคนล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลไม่ให้เซ็นชื่อเป็นองค์ประชุมเพื่อให้การอภิปรายล่ม นายธนกรกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นแล้ว วันนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง และจะยุบสภาในเดือนหน้า ซึ่งเจตนาของฝ่ายค้านพยายามทำทุกวิถีทางที่จะดิสเครดิตรัฐบาล แต่หากมองอีกมุม ก็ถือเป็นเวทีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าพบเมื่อช่วงเช้า เป็นประเด็นที่จะต้องนำเรียนนายกฯเกี่ยวข้องกับเรื่องตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับทุนสีเทาหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน ไม่มี ทั้งเรื่องนายพล จ. และสารวัตร ซ. ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้แจ้งนายกฯ และ ครม.ไปแล้ว

เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวฝ่ายค้านเตรียมนำประเด็นดังกล่าวไปอภิปรายฯ นายวิษณุกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องทีมงานของนายกฯ ที่จะต้องเตรียมข้อมูลให้ แต่ขอให้รอโฆษกรัฐบาลเป็นผู้แถลงชี้แจงเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในที่ประชุม ครม. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรัฐมนตรีประสานงานวิปรัฐบาล ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า วันที่ 15-16 ก.พ. สภาผู้แทนราษฎรจะมีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 พร้อมแจ้งกรอบเวลาการอภิปรายของแต่ละฝ่าย ว่าฝ่ายค้านได้กี่ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลได้กี่ชั่วโมง หากฝ่ายไหนลุกขึ้นประท้วง ก็ให้หักเวลาของฝ่ายนั้น

โดยวันที่ 15 ก.พ. ฝ่ายรัฐบาลมีเวลาชี้แจง 3 ชั่วโมงก่อนเที่ยงคืน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวกับที่ประชุมว่า ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลให้ความร่วมมือกับกฎหมายสำคัญต่างๆ ที่ยังออกไม่ได้ ทั้งกฎหมายกัญชา กฎหมายประมง เรื่องดีๆทั้งนั้น ให้ไปหาวิถีทางให้ได้ แม้สมัยประชุมจะเหลือเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังเน้นย้ำด้วยว่าได้รับรายงานมาจากหลายกระทรวงว่าตอนนี้ข้าราชการใส่เกียร์ว่าง สั่งแล้วไม่ยอมทำงาน ถ้าไม่ทำก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีรายงานว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน วันแรกของการอภิปราย เปิดการอภิปรายโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายภาพรวมเกี่ยวกับการไม่ทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา เปิดประเด็นครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ยาเสพติด ทุนสีเทา เป็นต้น จากนั้นเป็นหัวหน้าหรือตัวแทนหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทยอยลงลึกในแต่ละประเด็น

"วันแรกการอภิปราย จะพุ่งเป้านายกฯเป็นหลัก ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นอีกรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จะอภิปรายถึงการบริหารงานในกระทรวงต่อโครงการต่างๆ มากเป็นพิเศษ" รายงานข่าวระบุ

น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พบว่า ในพื้นที่เป็นห่วงปัญหาอาชญากรรมและการแพร่ระบาดของยาเสพติดมากที่สุด ปัจจุบันยาเสพติดหาซื้อง่ายมาก ราคาถูก มีโปรโมชั่นทั้งแจกทั้งแถม เหมือนซื้อขนม ยาบ้ามีขายทุกหมู่บ้าน เพราะรัฐบาลไม่เอาจริงในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ขบวนการค้ายาเสพติดระบาดเข้าไปในสถานศึกษาแล้ว 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวการแก้ปัญหายาเสพติดในทุกมิติ กลับส่งเสริมให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาอย่างถูกกฎหมายด้วย เป็นการซ้ำเติมสังคมให้เสพติดหนักขึ้นไปอีก  นโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลในอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคเพื่อไทย สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พล.อ.ประยุทธ์กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่เคยมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ส่งผลกระทบกับเยาวชนทั้งประเทศ

น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยปละละเลยธุรกิจสีเทา ปล่อยให้เกิดการหลอกลวงให้เยาวชนเป็นเหยื่อ กลุ่มพนันออนไลน์ กลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบ หรือที่รู้จักกันว่าแก๊งหมวกกันน็อก ขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จัดว่าเป็มหันตภัยร้าย ของสังคมไทย ล่าสุดเด็กอายุ 14 ปีตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกลวงทางออนไลน์ หลอกให้สมัครงานผ่านระบบโซเชียลมีเดีย สูญเงินของครอบครัวไปหลักหมื่น หาทางออกไม่ได้ เลือกจบชีวิตตัวเอง

 “จะหยิบยกปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมาอภิปรายให้ประชาชนเห็นถึงความร้ายแรงของปัญหาและความล้มเหลวในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมแนะวิธีในการแก้ปัญหาว่าต้องทำอย่างไร ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้กลุ่มธุรกิจสีเทาเหิมเกริมทำร้ายสังคมไทย  สร้างความเสียหายทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท หากยังคิดจะไปต่อทางการเมือง ชีวิตของประชาชนคงหายนะแน่นอน” น.ส.กิตติ์ธัญญากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป