8 องค์กรสิทธิมนุษยชนฯ ร่วมเสวนาขานรับข้อเสนอ "ตะวัน-แบม" พร้อมเดินขบวนยื่นหนังสือศาลฎีกาเรียกร้องเปลี่ยนแปลงทบทวนคำสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาทางการเมืองทั้งหมด ตัวแทนนักศึกษา 11 องค์กรยื่น จม.เปิดผนึกอธิบดีศาลอาญาปล่อยนักโทษทางการเมือง "ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล" ถอดกำไล EM หน้าศาล พ้อกระบวนการยุติธรรม ที่ได้ถอดเพราะคนเปรียบเทียบพิ้งกี้
ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน เวลา 11.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 8 องค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย นำโดยมูลนิธิผสานวัฒนธรรม, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.), สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา, คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD), สถาบันสังคมประชาธิปไตย และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเวทีเสวนา "คำขานรับข้อเสนอตะวัน-แบม แนวทางการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย"
หลังจากนั้น ตัวแทน 8 องค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย และผู้ร่วมกิจกรรม นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ ครป. เดินขบวนไปที่ศาลฎีกาสนามหลวง เพื่อยื่นจดหมายปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว การกำหนดหลักประกันและเงื่อนไข การถอนประกันตัว นักกิจกรรมทางการเมือง
โดย น.ส.ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข ตัวแทน 8 องค์กร อ่านแถลงการณ์จดหมายเปิดผนึกสรุปว่า การกล่าวหา ดําเนินคดี ตลอดจนการกําหนดหลักประกันและเงื่อนไขต่างๆ ให้ผู้ต้องหาและจําเลยเหล่านี้ต้องปฏิบัติเพื่อให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวนั้น ขัดกับหลักการสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างชัดแจ้ง จึงขอให้ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานของฝ่ายตุลาการ ดําเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ฝ่ายตุลาการสามารถมีบทบาทเป็นเสาหลักในการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน อํานวยความยุติธรรมซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สําคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และนํามาซึ่งสันติสุขและการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมได้อย่างแท้จริง และขอเรียกร้องให้ศาลเปลี่ยนแปลงทบทวนคำสั่งเงื่อนไขการปล่อยตัวผู้ต้องหาการเมือง โดยไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมข้อเรียกร้องเร่งด่วนคือ ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทางการเมืองทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ที่ศาลอาญา รัชดาฯ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ นิสิตจุฬาฯ ม.ศิลปากร และ ม.เกษตรฯ เครือข่ายองค์กรผู้แทนนิสิตนักศึกษา 11 องค์กร ประมาณกว่า 10 คน เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เพื่อเรียกร้องให้ประกัน น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ โดยมีนายกานต์กมล จันทร์ทองแท้ หัวหน้าส่วนช่วยอำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นตัวแทนรับดังกล่าว
ภายหลังยื่นจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวแล้ว นายสิรภพ อัตโตหิ นิสิตชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การยื่นข้อเรียกร้องของเราจะพูดถึงเรื่องการอำนวยความยุติธรรมให้เป็นไปตามหลักความเป็นกลาง หลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้สิทธิประกันตัวให้กับผู้ต้องขังคดีการเมือง เช่น ผู้ต้องขังคดีความผิดตามมาตรา 112 และมาตรา 116 ซึ่งข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุผล แต่ก็เป็นก้าวแรกของการได้พูดคุย และจะได้ติดตามผลของการยื่นจดหมายฉบับนี้
ด้าน น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล แกนนำกลุ่มราษฎร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดี ม.112 และศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงื่อนไขให้ติดกำไลติดตามตัว หรือ EM ที่ข้อเท้า เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อถอดกำไล EM ข้อเท้า หลังยื่นคำร้องและศาลมีคำสั่งให้ถอดอุปกรณ์ติดตามตัวได้
น.ส.ชลธิชากล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยยื่นคำร้องขอถอดกำไล EM ข้อเท้ามาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลอะไรที่ไม่ได้รับการอนุญาต ประกอบกับมีการเปรียบเทียบการได้ถอดกำไล EM ของ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิ้งกี้ นักแสดงชื่อดัง จำเลยคดีฉ้อโกงแชร์ FOREX-3D เพราะตนได้รับผลกระทบจากการสวมกำไลติดตามตัวที่ข้อเท้าเหมือนกัน
"ถือเป็นการจุดชนวนให้สังคมลุกขึ้นมาเรียกร้องแก้ไขความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรม จนสังคมเกิดความตื่นตัวและนำไปสู่การอนุญาตให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองสามารถพ้นจากพันธนาการตรงนี้ได้" น.ส.ชลธิชากล่าว
วันเดียวกัน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงอาการป่วยของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ (ฉบับที่ 2) ระบุว่า น.ส.ทานตะวันยังคงไม่รับประทานอาหาร แต่จิบน้ำ รู้สึกตัวดี อ่อนเพลียมากขึ้น ปากแห้ง ยืนได้ระยะเวลาสั้นลง ปัสสาวะออกน้อยจากการขาดน้ำ นอนไม่หลับ มีเลือดออกตามไรฟัน ยังมีอาการแสบร้อนกลางอกและมีลมในช่องท้อง สามารถโต้ตอบได้ อารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติ การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดที่เจาะจากปลายนิ้วเริ่มต่ำกว่า 70 mg/dL
ส่วน น.ส.อรวรรณ ยังคงไม่รับประทานอาหาร แต่จิบน้ำ รู้สึกตัวดี อ่อนเพลียมากขึ้น ปากแห้ง ยังมีอาการแสบร้อนกลางอก และมีลมในช่องท้อง เวียนศีรษะ สามารถโต้ตอบได้ อารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติ การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดที่เจาะจากปลายนิ้วอยู่ในเกณฑ์ปกติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดึง‘เจ้าสัว’ช่วยเกษตรกร ซื้อพืชเศรษฐกิจ18ชนิด
"ภูมิธรรม" รับลูก “เศรษฐา” ดึงเจ้าสัว ปตท.-ซีพี-ไทยเบฟ-ห้าง-ปั๊มน้ำมัน
เรืองไกรยื่นปปช. สอบ8จนท.รัฐ หลบเลี่ยงภาษี
มีหนาว! "เรืองไกร" ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบ จนท.รัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
ชง‘คางดำ’วาระแห่งชาติ
"ธรรมนัส" โยนรัฐบาลยก "ปลาหมอคางดำ" อาละวาดเป็นวาระแห่งชาติ
‘สีน้ำเงิน’กินรวบสว. ล็อก‘มงคล’นั่งประธาน ยึดเรียบปธ.กมธ.ยกแผง
จับตา 23 ก.ค.เคาะประมุขสภาสูง บ้านใหญ่บุรีรัมย์กินเรียบ ยืนตามโผเดิม "มงคล" นั่งประธานวุฒิ "บิ๊กเกรียง-บุญส่ง"
‘ณัฐชา’จวก‘ชัย’ จ่อปลุกผีอวนรุน จับ‘หมอคางดำ’
“ณัฐชา” ซัดโฆษกรัฐบาลแบกปลาหมอคางดำ โยนบาปให้เกษตรกร
18สินค้าห้ามใช้ดิจิทัล ‘มือถือ-อุปกรณ์ไฟฟ้า’
จบข่าว! ภูมิธรรมเปิด 18 รายการห้ามใช้เงินหมื่น “มือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้า”