ชงครม.จัดเก็บ ค่าธรรมเนียม นทท.ต่างชาติ

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอ ครม.  7 ก.พ.นี้ เคาะอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ทางอากาศ 300 บาท/คน ทางบก-น้ำ 150 บาท/คน พ่วงเสนอขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตีสี่

เมื่อวันจันทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้มอบหมายให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ครั้งที่ 1/2566 โดยที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญและมีมติเห็นชอบเตรียมผลักดันนำเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาในวันอังคารที่ 7 ก.พ. ดังนี้  โดยที่ประชุม  ท.ท.ช.เห็นชอบหลักการข้อเสนอการขยายระยะเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น.

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว สำหรับภาคเศรษฐกิจกลางคืนในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศ มุ่งเน้นการฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว  และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของไทย โดยจะดำเนินการในพื้นที่นำร่อง  ได้แก่ ถนนบางลา ตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่แรก และจะมีการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ก่อนจะขยายผลไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอื่นๆ ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พ.ศ. ... โดยเห็นชอบให้กำหนดอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางอากาศในอัตรา 300 บาท/คน และช่องทางบกและช่องทางน้ำในอัตรา 150 บาท/คน พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับ (ร่าง) ประกาศฯ  ต่อไป

โดยที่ประชุมได้เห็นชอบการเสนอให้การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ โดยมุ่งหวังให้เกิดการบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและยั่งยืนในทุกมิติ  สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ แนวคิดการฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับการบูรณาการด้านการท่องเที่ยวอย่างเป็นองค์รวม โดยแบ่งการดำเนินงานสำคัญเป็น 3 ระยะ ได้แก่ พร้อมรับ-พัฒนา-พลิกโฉม โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวขับเคลื่อน เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวคุณภาพสูง มุ่งสู่การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน (Regenerative Tourism) ภายในปี 2570

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้วางไทม์ไลน์ชัดเจนว่า ตั้งแต่วันที่ 1  มิ.ย.66  จะเริ่มต้นเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (หรือที่รู้จักกันในชื่อ ค่าเหยียบแผ่นดิน)  คนละ 300 บาท เป็นอัตราเดียวกันไม่ว่าทางบก ทางน้ำ  หรือทางอากาศ โดยจะเก็บเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

ทั้งนี้ จะยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศให้ชาวต่างชาติที่เข้าไทยโดยใช้บอร์เดอร์พาส หรือหนังสือผ่านแดน, ข้าราชการท้องถิ่นที่อยู่ชายแดน รวมถึงคนที่ถือพาสปอร์ตแต่มีหนังสืออนุญาตทำงานในไทยก็จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมนี้ด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นั่งเรือเฟอร์รีมาแล้วแวะเที่ยวประเทศไทยแบบเช้ามาเย็นกลับ กำลังพิจารณาว่าจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศเช่นกัน โดยหวังให้เกิดความประทับใจและกลับมาเที่ยวประเทศไทยแบบพักค้างคืนในโอกาสต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว

วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์