แฉเงินสีเทาเลือกตั้ง ‘ไตรรงค์’เตือนบ้านเมืองพัง/อุ๊งอิ๊งโต้แค่วาทกรรมป้ายสี!

"บิ๊กป้อม" เช็กเรตติ้งเดินตลาด อ.ต.ก. ปลื้มเชียร์นั่งนายกฯ คนที่ 30 รทสช.ตีปี๊บ "บิ๊กตู่" ปราศรัยชุมพร  ปชช.ตอบรับมั่นใจไปต่อสมัยสามแน่ จ่อเดินสายทั่วประเทศทยอยเปิดนโยบายใหม่ เสวนาไตรรงค์ร้อนฉ่า! ทิ้งนัยเงินสีเทา-สีดำว่อนอาจเป็นเลือกตั้งครั้งสุดท้าย  “บ้านใหญ่นราธิวาส” ซบประยุทธ์ ไม่ตาม “2 กุมาร” กลับ พปชร. "อุ๊งอิ๊ง" อ้อนคนบ้านโป่งแลนด์สไลด์เพื่อไทย เดือดกล่าวหาชินวัตรโกงทั้งตระกูล แค่วาทะใส่สีการเมือง "ชลน่าน" ขู่ส่อผิด กม.หาเสียงใส่ร้าย "จุรินทร์" ปลุกคนภูเก็ตเลือก ปชป.ยกจังหวัด

เมื่อวันที่ 29 มกราคม เวลา 08.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ได้เดินทางเป็นการส่วนตัวไปยังตลาด อ.ต.ก. เพื่อซื้ออาหารและผลไม้ โดย พล.อ.ประวิตรสวมใส่เสื้อคลุมสีดำลายเสือ กางเกงยีนส์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ระหว่างทางได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่มาซื้อของในตลาด อ.ต.ก. ซึ่งมีประชาชนและเด็กๆ มาขอถ่ายรูปเป็นระยะ นอกจากนี้มีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนนำดอกไม้มามอบให้ พร้อมขอให้ "ลุงป้อมสู้ๆ" และขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เพื่อช่วยประชาชนให้กินดีอยู่ดี ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้แวะซื้ออาหารร้านข้าวแกงหลายเมนู ประกอบด้วย แกงเขียวหวานเนื้อ ปลาดุกกรอบ หน่อไม้ดอง ผัดพริกขิง ปลาดุกกรอบ แกงเทโพ ต้มข่าไก่ อีกทั้งยังแวะร้านเจ้าประจำ ซื้อกะปิโหว่ มะม่วง ตะลิงปลิง โดยใช้เวลาเดินตลาด อ.ต.ก. ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังข่าวเกิดการดีลร่วมงานของ พล.อ.ประวิตรกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค สอท. ซึ่งเตรียมเปิดตัวในวันที่ 30 ม.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ ล่าสุด นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรค สอท. พร้อมบุตรชาย นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี 2 สมัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 1 ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค สอท. โดยยังไม่ตัดสินใจจะย้ายไปพรรคใด แต่จะไปยื่นลาออกต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 30 ม.ค.

ทั้งนี้ นายปองพลและนายปรพล เดิมการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่ต่อมาได้ลาออก เเละ ย้ายมาพรรครวมไทยสร้างชาติ ในช่วงเริ่มต้นตั้งพรรค เเละได้ลาออกอีกครั้งเพื่อย้ายมาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 จนกระทั่งเกิดการดีลร่วมงานพรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้นายปองพลและนายปรพลตัดสินใจลาออก เนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตเลือกตั้งกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ สระบุรี  เขต 1 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย

 ที่โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กทม. มีการจัดเสวนา ‘เสวนาประสาไตรรงค์’ โดยมีวิทยากรร่วมงานเสวนาจำนวน 3 คน ได้แก่ นายสมัย เจริญช่าง อดีต ส.ส.กทม., พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)             

นายสมัยกล่าวเสวนาตอนหนึ่งว่า   พวกเราต้องช่วยกันดูแลรักษาบ้านเมืองนี้ให้อยู่รอดปลอดภัย เราต้องมีตัวแทนเข้าไปบริหารบ้านเมือง และตัวแทนต้องไว้วางใจได้ว่าเขาจะเลือกคนดีมาบริหารบ้านเมือง ส่วน ส.ส.ต้องไปอยู่ในสถาบันนิติบัญญัติ ออกกฎหมายให้ประชาชนทั้งประเทศใช้ คนที่จะเป็นนายกฯ ต้องเคารพกฎหมาย ถ้าใครไม่เคารพกฎหมาย จะมีกระบวนการตุลาการ ถ้าเดินบิดเบี้ยวไม่ตรงตามที่กฎหมายกำหนด ตุลาการจะตัดสิทธิ์ 

เงินสีเทาว่อนเลือกตั้ง

“ผมจำภาพและหดหู่ใจ วันหนึ่งที่อดีตนายกฯ ขึ้นศาล ศาลตัดสินว่าท่านมีความผิด ปรากฏว่าคนในครอบครัวท่านเบะปาก ส่ายหน้า ไม่ยอมรับกฎหมาย แล้ววันนี้เราจะมอบความไว้วางใจให้เขาเป็นผู้นำรัฐบาลอย่างนั้นหรือ ที่ติดป้ายตามเสา คือคนที่เบะปาก คนที่ส่ายหน้า ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล ถ้าหากคนอย่างนี้คนไทยยังเลือกอีก ยังไว้วางใจอีก ผมคิดว่ากฎหมายของบ้านเมืองนี้คงจะต้องสูญสลาย ในที่สุดเมื่อถึงวันนั้น ประชาธิปไตยก็ไม่มีประโยชน์สำหรับอนาคตของคนไทย ผมไม่ได้มาหาเสียงหรือพูดใส่ร้ายคนอื่น แต่เป็นห่วงประเทศที่ผมเกิดและจะตายที่นี่ ผมจะไม่หนีไปประเทศใดทั้งสิ้น เพราะที่นี่คือประเทศที่ดีที่สุด” นายสมัยระบุ

 ด้านนายไตรรงค์กล่าวตอนหนึ่งว่า เงินสีเทาคือเงินผิดกฎหมายจากธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การรับแทงบอลออนไลน์ เปิดบ่อนการพนันเถื่อน ธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน ส่วนสีดำคือธุรกิจยาเสพติด การขายยาเสพติดคือการฆ่าคน ทำลายครอบครัว และการเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้จะใช้เงินพวกนี้มาซื้อเสียง งวดนี้จะมากที่สุด 

 “ขบวนการตู้ห่าวใหญ่โตมาก แล้วส่งเงินไปกี่พรรคที่ได้ผลประโยชน์จากตู้ห่าว ไปดูสิมันสร้างบ้านมาขายหลังหนึ่งกี่ร้อยล้าน รวมทั้งหมด 5-6 พันล้าน ไปดูสิเงินเข้าพรรคไหน มันรู้กัน เป็นการฟอกเงินเท่านั้นเอง แล้วใครเป็นเจ้าของหมู่บ้านนั้น เงินเข้าพรรคไหน พี่น้องที่ติดตามรู้เลยว่าเข้าพรรคไหน แล้วเขาจะใช้เงินพวกนั้นมาซื้อประชาชนทั้งประเทศ” นายไตรรงค์กล่าว และว่า ถ้าเราปล่อยให้มีการซื้อเสียงโดยเงินสีเทา สีดำ บ้านเมืองจะเหลืออะไร แล้วตนถามจะมีประชาธิปไตยไปหาสวรรค์วิมานอะไร มีประชาธิปไตยแบบนี้เท่ากับเปิดให้คนชั่วครองเมืองใช่หรือไม่ คนดีไม่มีทางเลย เพราะคนดีไม่มีเงินอุบาทว์ ไม่มีเงินสีเทา สีดำ 

นายไตรรงค์กล่าวว่า ตนเป็นประธานยกร่างนโยบายของ รทสช. จะนำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แปลงมาเป็นนโยบาย แล้วดูค่าใช้จ่ายเพื่อให้รักษาความมั่นคงทางการเงินของประเทศได้ การก่อหนี้สาธารณะไม่กระทบกระเทือนต่อสถานภาพของประเทศ เสร็จแล้วส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปอ่าน แล้วสงสัยให้ถาม นี่คือการสร้างชาติ แต่การสร้างชาติจะราบรื่นต่อเมื่อเราต้องปราบคอร์รัปชันให้ได้ เป็นนโยบายอันดับหนึ่งคือการปราบทุจริตคอร์รัปชัน จะสังคายนากฎหมายทุกกระทรวง ไม่ให้ใช้ดุลพินิจ ต่อไปนี้ตำรวจจะมาสอบสวนทุกคดีไม่ได้ ต้องสอบสวนร่วมกับฝ่ายปกครอง อัยการ ถ้าบิ๊กตู่ได้เป็นต่อนะ แต่ถ้าคนอื่นมาเป็นนายกฯ คงไม่รื้อ เพราะได้ประโยชน์จากการค้ายาเสพติด จากบ่อนการพนัน

นายไตรรงค์กล่าวตอนท้ายด้วยว่า  “ถ้าซื้อสิทธิ์ขายเสียงแล้วเอาเงินสีเทา สีดำมาซื้อกันงวดนี้นะครับ จะไม่มีใครสกัดได้ เชื่อผมเถอะครับ อาจจะเป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย คอยดูเหอะ จะไม่มีใครยอมให้มีอีกแล้ว เพราะบ้านเมืองมันพังถึงที่สุดแล้ว”

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า การขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์กับพรรครวมไทยสร้างชาติที่ จ.ชุมพรนั้น ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างคับคั่ง เป็นเครื่องพิสูจน์ชัดว่าประชาชนยังต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เพื่อสานต่อนโยบายต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดและผลักดันเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พล.อ.ประยุทธ์จึงเป็นคำตอบที่ประชาชนทั้งประเทศสามารถเชื่อมั่นและไว้วางใจได้ว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อประชาชนและลูกหลานของเราจนถึงจุดหมายปลายทาง รวมทั้งจะนำพาประเทศของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะความซื่อสัตย์ สุจริต เด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน

จัดคิว'บิ๊กตู่'เดินสายต่อ

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปพรรคจะเร่งเตรียมกำหนดการเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้มีโอกาสเดินสายทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด เพื่อรับฟังความเห็นและความเดือดร้อนที่ประชาชนอยากให้เข้าไปช่วยเหลือโดยเร็วด้วยตัวเอง พร้อมทั้งจะค่อยๆ ทยอยเปิดนโยบายใหม่ๆ ออกมา เพื่อขอโอกาสพี่น้องประชาชนเข้ามาสานต่อนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลต่อไป หากทุกคนเปิดใจกว้างโดยไม่มีอคติ จะเห็นว่า วันนี้หลายอย่างนายกฯ ทำมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายเท่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประวิตรปิดดีลกับนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ สร้างความไม่พอใจให้บ้านใหญ่นราธิวาสของนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ที่ก่อนหน้านี้ได้พาทีมงานเปิดตัวกับ สอท.ไปแล้ว ซึ่งจะไม่ได้ตามกลับไปอยู่กับ พปชร. โดยนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้า รทสช. ที่มีความสนิทกับนายกูเซ็งมานาน ได้ชักชวนให้มาอยู่ด้วยกันที่ รทสช. ประกอบกับกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ที่เริ่มกลับมาดีขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้บ้านใหญ่นราธิวาสตัดสินใจยกทีมมาร่วมงานกับ รทสช. ขณะที่เวทีปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกูเซ็งได้เดินทางมาร่วมด้วยตามคำเชิญ

ที่ใต้ทางด่วนชุมชนวัดมะกอกส่วนหน้า เขตพญาไท  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคจับมือได้กับทุกขั้ว สามารถทำงานร่วมกับใครก็ได้ โดยจะสร้างความสามัคคีเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ภายใต้ระบบรัฐสภา

เมื่อถามว่า จะถอยให้พรรคอื่นที่มีอำนาจ ส.ว.ในมือหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หากประชาชนเลือกเรามาเยอะขนาดนี้เรากลัวประชาชนอย่างเดียว ซึ่งได้ป้อนใส่สมองสมาชิกพรรคทุกคนไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นกลัวประชาชน เพราะหากพรรคมี ส.ส.มากที่สุด ตนเองก็ต้องเป็นนายกฯ เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวของพรรค เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากขึ้นเป็นนายกฯ เอง

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.การคลัง และอดีต ส.ส.พิจิตร 4 สมัย ในฐานะผู้สนับสนุนพรรค ภท.
กล่าวถึงกรณีที่วันที่ 30 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางมาตรวจราชการ จ.พิจิตรว่า คงไม่ได้ไปรับคณะนายกฯ เนื่องจากกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภายหลังผ่าตัดต้อตา และคงมีทีมงานและคนของพรรครวมไทยสร้างชาติไปรอต้อนรับอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนเป็นรอง ซึ่งพลังประชารัฐเป็นพรรคเก่าของนายกฯ ที่เป็นแชมป์อยู่ แม้จะไม่ใช่รวมไทยสร้างชาติ มองว่าเขาก็ต้องเป็นต่อ แต่ไม่มีความกังวล เพราะผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว ฉะนั้นการชิงแชมป์เลือกตั้งสมัยหน้า เราและผู้สมัครต้องทำงานหนัก อย่างไรก็ตาม นโยบายต่างๆ มาจากพรรค ซึ่งมีการทำการบ้านมาแล้วว่าจะสามารถขายได้ อย่าลืมว่านโยบายทุกพรรคแตกต่างกัน แต่ประเด็นสำคัญสามารถทำนโยบายให้เป็นจริงได้หรือไม่ ซึ่งภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เห็นได้จากนโยบายกัญชา

ที่อาคารยิมเนเซียม สะพานหิน อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรคและ ส.ส.พื้นที่ภาคใต้ ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ ส่วนจะเลือกตั้งวันไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง

"คนภูเก็ตไม่เคยทิ้งประชาธิปัตย์เลย ประชาธิปัตย์ได้ผู้แทนฯ ยกทีมมาตลอด 11 สมัย ยกเว้นเที่ยวที่แล้ว ภูเก็ตถูกสึนามิ 2 ลูก ลูกที่ 1 ปี 47 แต่ลูกที่ 2 ปี 62 หมดเลย เพราะการเมืองปี 62 เป็นการเมืองที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ไม่ปกติ เป็นการเมืองที่บังคับแบ่งขั้วเลือกข้างระหว่างเอาตู่กับไม่เอาตู่ ระหว่างเอาทักษิณกับไม่เอาทักษิณ มี 2 ทางเลือกเท่านั้น สุดท้ายคนภูเก็ตไม่ได้เลือกผู้แทนฯ แต่เที่ยวที่แล้วเลือกตู่ หลังเลือกตั้งภูเก็ตก็เลยได้เทวดามา 2 องค์ วันนี้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียแล้ว เพราะหายตัวได้ แต่การเมืองวันนี้กับการเมืองเมื่อวานไม่เหมือนกัน แต่การเลือกตั้งเที่ยวหน้า เป็นการเลือกตั้งที่แข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมืองกับพรรคการเมืองเฉพาะกิจ” นายจุรินทร์กล่าว และว่า การเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า มั่นใจว่ามีโอกาสยกทีมจังหวัดภูเก็ตได้

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ ในวันอังคารที่ 31 ม.ค.นี้ ร่วมกับคณะกรรมการประชาสัมพันธ์พรรค เพื่อสรุปรายละเอียดของนโยบายแต่ละด้าน และจัดทำเป็นข้อมูลประกอบให้ผู้สมัครของพรรคได้นำไปนำเสนอต่อประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเอง 

อ้อนบ้านโป่งแลนด์สไลด์

วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อม ส.ส. และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชุมชนสระโกสินารายณ์ จ.ราชบุรี เพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุด ภายใต้แนวคิด “ศึกษาอดีต พัฒนาปัจจุบัน สร้างสรรค์อนาคต เพื่อลูกหลานชาวตำบลท่าผา” ผลงานในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร โดยคณะได้ร่วมสักการะ ถวายพวงมาลัยดาวเรืององค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี และชมนิทศรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ด้วย

จากนั้นทางคณะพรรคเพื่อไทยพบปะประชาชนในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมีประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ พร้อมทั้งมอบดอกไม้ พวงมาลัยให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น

นพ.ชลน่านกล่าวกับประชาชนว่า หากพี่น้องต้องการออกจากความทุกข์ยาก ความลำบาก มาตลอด 8 ปีที่ถูกแย่งอำนาจไป พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์คืนให้กับพี่น้องเป็นเรื่องแรก ขอฝากพรรคเพื่อไทยไว้ในอ้อมใจของพี่น้อง เข้าคูหากาทั้งพรรคทั้งคน ในกติกาบัตรสองใบ ขอฝาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ทั้ง 3 เขต

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้มีเวลาสั้นๆ ได้มีโอกาสมาทักทายพี่น้องชาวราชบุรี พรรคเพื่อไทยมากันอย่างเต็มที่ เมื่อสักครู่คุณพ่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร โทร.มา บอกว่าเคยมาเขตนี้บ่อยๆ เรื่องงบประมาณที่สร้างพิพิธภัณฑ์ก็มาตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ซึ่งกลับมาตรงนี้ได้รับฟังเรื่องเล่าจากคุณพ่อรู้สึกอบอุ่น และต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาต้อนรับอย่างอบอุ่น พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยโดนยุบไป สร้างขึ้นมาใหม่โดนยุบอีก ก็ขึ้นมาใหม่ ตอนนี้เราอยากจะเป็นพรรคที่แข็งแรง พรรคที่ขับเคลื่อนโดยเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง นโยบายของประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชนได้จริงๆ ขอให้พี่น้องและพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ทั้งราชบุรีเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำวันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยจะเปิดปราศรัยใหญ่ #แลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน ที่ลานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางครั้งแรก

น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยเกทับว่าทำประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าหลายรัฐบาล และขอเวลาอีก 2 ปี เพื่อพลิกโฉมประเทศว่า 8 ปีก็พลิกโฉมประเทศได้เหมือนกัน แต่ต้องดูต่อว่า 2 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อยู่ที่ประชาชนเลือก เรามีความตั้งใจเหมือนเดิมคืออยากให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งเป็นนโยบายของเรา

ส่วนที่นายไตรรงค์ปราศรัยว่านายทักษิณโกงทั้งตระกูล และหากยังมีระบบทักษิณ บ้านเมืองเหลือแต่เสานั้น น.ส.แพทอง​ธารกล่าวว่า "สมัยที่คุณพ่อเป็นนายกฯ ได้ทำนโยบายมากมายให้ประเทศ​ ทุกวันนี้ก็ยังใช้กันอยู่ อันนี้คงไม่ได้เหลือแค่เสา ที่เขาพูดเช่นนี้ก็แค่วาทะทางการเมือง ที่ต้องมาตัดทอนกัน เพราะเราก็หาเสียงเต็มที่ โดยการเอาผลงานที่เราเคยทำได้จริงมายื่นให้กับประชาชน มาตอกย้ำ  แต่เขาไม่มีของจริง เขาก็ต้องนำวาทะแบบนั้นมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ มองว่าเป็นเรื่องใส่สีทางการเมือง"

ขู่รสทช.ใส่ร้ายผิดกม.

นพ.ชลน่าน​กล่าวเสริมว่า หากมองมติทางการเมือง เป็นการปราศรัยที่ต้องระวังข้อกฎหมาย จะเป็นการใส่ร้ายทางการเมืองหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์​ ระหว่างระบบทักษิณ ที่เขาพยายามยกเป็นวาทกรรมปลุกขึ้นมา กับระบบประยุทธ์ ใน 8 ปีที่ ประชาชนเห็นต่างประจักษ์ว่าเป็นอย่างไร เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจ ทำลายทุกอย่าง โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ดังนั้นก็ต้องพิสูจน์ว่าระบบไหนเป็นที่ยอมรับของประชาชน การกล่าวหาว่าโกงทั้งตระกูล เป็นการใส่ร้ายอย่างแน่นอน ขอฝากให้ระมัดระวัง เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อายุมากแล้ว สมองก็ควรมากตามอายุไปด้วย

  นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การปราศรัยพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่การเกทับ แต่เป็นการเก๊ทับมากกว่า หมายความว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศ กับสิ่งที่ปรากฏกับประชาชน 8 ปี สวนทางกัน หาก พล.อ.ประยุทธ์สร้างประโยชน์ประชาชนในฐานะนายกฯ จริง จะไม่มีพรรคไหนที่สามารถประกาศตัวเป็นคู่แข่งได้เลย ขณะนี้ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์กลับไปอยู่ลำดับท้ายๆ   

"แบบนี้ออกลูกอันธพาล ยิ่งกว่าจะข่มขู่คุกคาม เป็นการกดหัวประชาชนทั้งประเทศ เป็นการเหยียบย่ำอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ ​และนี่คือเหตุผลครั้งสำคัญที่พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ในครั้งนี้ เพราะถ้าชนะไม่ขาด สิ่งที่คนพวกนี้คิดจะเกิดขึ้น และจะยาวไปถึงแก้วาระนายกฯ 8 ปี และจะยาวไปถึงอีกทุกอย่าง เพื่อให้เขารักษาอำนาจไว้ได้ เราจึงมีที่พึ่งเดียวคือประชาชน และไม่เชื่อว่าพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านได้คะแนนรวมกันได้เกิน 300 ที่นั่งแล้วจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ถ้าคิดจะทำแบบนั้น มาพิสูจน์กัน" นายณัฐวุฒิระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ประชาชนผู้สัญจรไปมาในเขตกรุงเทพมหานคร ต่างโพสต์และแชร์รูปจอแอลอีดีขนาดยักษ์กลางวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งปรากฏภาพสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล พร้อมข้อความ “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงที่เพิ่งเปิดตัวในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลยังติดป้ายหาเสียงชูนโยบายต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ “หวยใบเสร็จ ช่วย SME ซื้อของรายย่อย ลุ้นเงินล้าน”, “รัฐโปร่งใส AI จับโกง คนแฉปลอดภัย ได้เงิน”, “สวัสดิการลดเหลื่อมล้ำ เด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน ผู้สูงวัย 3,000 บาทต่อเดือน” นอกจากนี้มีป้ายนโยบายที่โดดเด่นและถูกแชร์มากเป็นพิเศษ ได้แก่ภาพป้าย “ปิดสวิตช์ 3 ป. เอาทหารออกจากการมือง” ซึ่งถูกติดตั้งอย่างโดดเด่นที่ด้านหน้าประตูใหญ่ทางเข้าของอาคารรัฐสภา และป้าย “เลิกตั๋ว เส้นสาย หยุดส่วย รีดไถ ตำรวจอยู่ข้างประชาชน” ที่ติดไว้ด้านข้างป้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หน้า สน.ทองหล่อ.