ซักฟอก15-16ก.พ. เรียงคิวถล่มรบ.24ชม. บิ๊กตู่แสลงหูพูดถึงโทนี่

"บิ๊กตู่" ยัวะ ลั่น "อย่าไปพูดถึงคนคนนั้นผมไม่ชอบ" หลังถูกสื่อถาม "ทักษิณ" เย้ย รบ.ดึงเกมยุบสภา ปัด ครม.เทงบทิ้งทวนยันทำตาม กม. "จตุพร" ฟาด "ทักษิณ" หัวหน้าหมา เหตุถูกเย้ยหยามเสียงเห่า บอก "ผมเห่าท่านก็เห่าด้วย"  ปลื้มกระแสตอบรับ "ประวิตร" ออก จม.เปิดใจฉบับสอง ระบุเล่นการเมืองไม่ต้องพูดเก่ง ต้องคิดเก่ง ชูประสานทุกฝ่าย-ประนีประนอมทุกพรรค "วิป 3 ฝ่าย" เคาะวันซักฟอก 15-16 ก.พ.นี้ "ฝ่ายค้าน" ได้ 24 ชม. "รัฐบาล" ได้ 8 ชม. วันแรกลากยาวถึงตี 2 ครึ่ง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 25 ม.ค. เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 1/2566 โดยเมื่อมาถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.รวมทั้งรอง ผบ.ตร. ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แนะนำให้กลับไปเลี้ยงหลานหรือไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์เพียงแต่หันมามอง แต่ไม่ตอบคำถามและมีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะขึ้นไปยังห้องประชุมทันที

กระทั่งเวลา 11.00 น. ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ก.ตร.และประเด็นคดีข่าวต่างๆ กว่า 9 นาที แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง โดยแสดงท่าทีหงุดหงิดเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ มีความตั้งใจที่จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์เมินหน้าหนีพร้อมกล่าวว่า ถามคำถามอื่น

พอถามว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้งมีความกังวลในเรื่องการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งหรืออะไรทั้งสิ้น ตนเพียงแต่กังวลในเรื่องการทำงาน  ทุกอย่างต้องโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ   เป็นไปตามกฎหมาย

ถามว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ได้มีการผ่านงบประมาณจำนวนมาก ถือว่าใกล้จะมีการยุบสภาแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า งบอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวบอกเป็นงบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แสดงว่าใกล้ที่จะพร้อมเลือกตั้งและยุบสภาแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คงจะรู้กันว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ กติกามีอย่างไร จะหมดอายุรัฐบาลเมื่อไหร่ ก็เป็นการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งละมั้ง

ถามย้ำว่า ไม่ใช่เป็นการทิ้งทวนช่วงท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีโมโหว่า “มาทิ้งทวนอะไร มาทิ้งทวนอะไรล่ะ พวกคุณเคยทำหน้าที่ตรงนี้บ้างไหม คุณเคยรู้เรื่องระบบงบประมาณบ้างไหม รู้ไหมว่าเขาทำกันอย่างไร ระบบงบประมาณ ไปศึกษามาก่อนที่จะถามผม”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่นายทักษิณออกมาวิเคราะห์ว่าที่รัฐบาลยังไม่ยุบสภา เนื่องจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ยังไม่พร้อม โดยเฉพาะการตั้งสาขาพรรค พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า "อย่าไปพูดถึงคนคนนั้น ผมไม่ชอบ" แล้วเดินออกจากโพเดียมทันที

เมื่อถามย้ำว่า เป็นการดึงเกมยุบสภา เพื่อให้รวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบพร้อมขึ้นรถออกไปทันที

'บิ๊กตู่'มีคิวลงพื้นที่อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับแจ้งว่าในวันที่ 30 ม.ค.นี้ มีกำหนดการตรวจราชการที่ จ.นครสวรรค์และ จ.พิจิตร โดยเวลา 09.00 น. นายกฯ เดินทางไปที่สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด ต.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำสี่แควโมเดล พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บึงบอระเพ็ดและปลาสะเด็ดปากน้ำโพ จากนั้นพบปะประชาชนผู้ได้รับผลประโยชน์จากการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บึงบอระเพ็ด และไปตรวจเยี่ยมแปลงนาเกษตรอินทรีย์ที่แปลงนาเกษตรอินทรีย์ ต.บ้านมะเกลือ อ.เมืองนครสวรรค์ พบปะประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งมีกิจกรรมขับรถดำนาในแปลงนาข้าวปลอดภัย (ข้าวรักษ์โลก)

ช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังจังหวัดพิจิตร  ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลบึงนาราง พร้อมรับฟังปัญหาการบริหารจัดการน้ำทางการเกษตร ต.แหลมรัง อ.บึงราราง ตรวจเยี่ยมตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เพื่อรับฟังปัญหาเขื่อนกันดินทรุดบริเวณตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก และสักการะองค์เจ้าพ่อแก้วที่ศาลเจ้าพ่อแก้ว ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เชื่อมั่น...ประชาชน" มีกุลธิดา ช้วนกุล ดำเนินรายการ โดยเปิดเผยความรู้สึกที่สุดทนจากคบกันมา 30 ปี จึงใจสลายขาดสะบั้น ระบุฟางเส้นสุดท้ายถูกเย้ยหยาม หมิ่นศักดิ์ศรี ถูกกล่าวหาไปรับงานใครมาสกัดแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทย ย้อนแสบทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าหมา ถ้าตนเห่า ท่านก็เห่าด้วย

นายจตุพรกล่าวว่า ตนกับทักษิณรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2527 เมื่อครั้งทักษิณเป็นหัวหน้าพลังธรรมวันแรก จากนั้นร่วมเดินสายการเมืองร่วมกันมา 30 ปี หากตนคิดเอาแต่ตัวเองและเอาประโยชน์ส่วนตนแล้วจะอยู่ร่วมกันไม่ได้เลย แม้ทักษิณพูด สาธารณะจะให้เป็น รมต. แต่ไม่ได้ ตนก็ยังอยู่ และไม่คิดถึงกรณีนี้

นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ทักษิณพูดว่าช่วง 16 ปีท่านก็ถูกเห่า  นับตนเป็นตัว และตั้งฉายาให้ตัวเองว่า ถูกเห่า ท่านบอกว่าไม่ต้องมาฟังตนให้ใช้น้ำยาล้างหูไป ก็พยายามหลีกเลี่ยง แล้วใช้ถ้อยคำว่าถูกเห่ามา 16 ปี 2-3 ตัว และบางตอนก็ 4-5 ตัว มีการนับเป็นตัว เขาบอกภาษาไทยไม่แข็งแรง แล้วหัวเราะกันสนุกสนาน

"ผมกับนายกฯ ทักษิณปราศรัยเวทีเดียวกันมาในช่วงอยู่ประเทศไทย และผ่านวิดีโอลิงก์ต่างกรรมต่างวาระกันมายาวนานที่สุด ถ้าการพูดของผมเป็นการเห่า บนเวทีนี้ท่านก็ร่วมเห่ากับผมด้วย ถ้าผมหมา ท่านก็หมา ท่านอาจเป็นจ่าฝูง ถ้านับบรรดาศักดิ์ของหมู่หมาด้วยกัน" นายจตุพรกล่าว

เขาย้ำว่า ถ้าหลักคิดของทักษิณมองผู้ร่วมต่อสู้ด้วยกันเป็นหมา เป็นตัว แล้วหลีกเลี่ยงการตอบความจริง ดังนั้นท่านต้องนึกช้าๆ ว่าสิ่งที่ท่านดำเนินการทั้งหมดไปนั้น ถ้าตรงไปตรงมากับประชาชน และไม่พูดถึงตนในทางเป็นเท็จและเกิดความเสียหายในช่วงนี้ แล้วตนจะมาพูดเรื่องนี้ในช่วงนี้ทำไม

"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าผมคิดถึงผลประโยชน์ แล้วจะอยู่กับท่านได้อย่างไร เพราะท่านทรยศหักหลังผมตลอดเวลา โกหกซ้ำซาก โกหกแล้วโกหกใหม่ ซ้ำกันไปซ้ำกัน อย่างไรก็ตาม ผมต้องไปก่อนการยึดอำนาจ เพราะหักกันเรื่องนิรโทษฯสุดซอย อีกทั้งเรื่องส่วนตัวก็โกหก และทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลง ไม่ว่าเรื่องลงนามรับรองศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และเรื่องแก้ รธน. และการทุจริตคอร์รัปชัน ผมกล้ำกลืนต้องการรักษาความรู้สึกของพี่น้องเสื้อแดง เพราะเขาตาย เขาเจ็บ หลังการสลายชุมนุม (ปี 2553) ผมตระเวนทุกพื้นที่ท่ามกลางความตาย แต่ทักษิณเสนอให้หนี แต่ผมไม่หนี ซึ่งขณะนั้นเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยตกต่ำที่สุด เราก็พากันพลิกฟื้น และชีวิตตลอดเส้นทางนั้น ถ้าผมจะเอาตัวรอดก็ต้องเอาตัวรอดแล้ว แต่ทำไมผมจึงลุกขึ้นสู้ต่อ" เขากล่าว

'จตุพร'ย้อน'แม้ว'หน.หมา

นายจตุพรกล่าวว่า ถ้า 8 ปีนี้ตนเอาเพียงแค่ที่ท่าน (ทักษิณ) หักหลัง ไปแสวงหาผลประโยชน์กับรัฐบาล คสช. ก็ไม่ต้องติดคุก ก็ไม่ต้องลำบาก ก็ไม่ต้องมีคดีมากมาย เพราะเรายืนหลักในความถูกต้องตลอดเวลา อีกทั้งฝ่ายเดียวกันไปทำผิดพลาด ตนก็กล้ำกลืน ถ้าคิดประโยชน์ส่วนตัวแล้วจะอยู่แบบนี้หรือ

"อีกอย่างการต่อสู้ของเราเป็นมาต่อเนื่อง นั่งจัดรายการต่างๆ เพื่อต้องการหยุดอำนาจ 3 ป. ออกไปชุมนุมในนามคณะหลอมรวมประชาชนก็เพื่อหยุดอำนาจ 3 ป. เพื่อหาทางออกให้ประเทศไทย แล้วมีเรื่องอะไรไปสกัดแลนด์สไลด์ของทักษิณ ท่านรู้หมดว่าใครคุยอะไรกับใครที่อยู่เมืองไทย คนไปคุยกับท่านที่เมืองนอก ผมก็รู้หมดเหมือนกัน ในเมืองไทยด่ากันเกือบตาย ในช่วงสู้รบอะไรก็ใช้ไม่ได้ ไอ้นี่พวกนี้ ไอ้นั่นพวกนั้น เลือกตั้งเสร็จไอ้พวกนี้และคนพวกนั้นไปหาท่าน แวดล้อมไปหมด มันตำตาผมทั้งหมด ผมอยากจะบอกนายกฯ ทักษิณ ที่ท่านบอกถูกเห่า ผมจะบอกท่านว่า ถ้าผมหมา ท่านก็คือหัวหน้าหมา แล้วเราพูดภาษาหมากันมานานแล้ว" นายจตุพรระบุ

เขากล่าวว่า ดีลพิเศษความเป็นจริงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย หลายคนพยายามตั้งคำถามว่า อยู่ดีๆ มาพูดเรื่องนี้ไปรับงานใครมา ทั้งที่สุดทนมาตั้งแต่ถูกหลอกใช้ให้ไปหาเสียงช่วยพรรคเพื่อชาติเมื่อปี 2562 ส่วน นปช.อีกกลุ่มก็แยกไปช่วยพรรคไทยรักษาชาติ แล้วมาล่าสุดการหาเสียงช่วย นายก อบจ.เชียงใหม่ ก็ขาดสะบั้น ใจสลายเลย เราอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวดอยู่แล้ว ถ้าไม่มาดูแคลนตนก่อน

"วันนี้ไม่ได้รับงานใครมา ถ้าทักษิณไม่พูดถึงผมก่อนในลักษณะที่ดูแคลน เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อออกมาพูด แต่ไม่ตอบโต้ กลับใช้วิธีกระแนะกระแหน อธิบายยัดเยียดว่ารับงานใครมา แล้วผมจะติดคุกเหรอ? เข้าๆ ออกๆ คุก มีคดีความมากมายกว่าแกนนำทุกคน" นายจตุพรระบุ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่นายจตุพรพูดระบายออกมาทั้งหมดคือความจริง  ความจริงคือสิ่งไม่ตาย จึงไม่มีสมุนหรือลิ่วล้อออกมาโต้ตอบชี้แจงสิ่งที่นายจตุพรพูดออกมา มีแต่นายทักษิณคนเดียวที่ออกมาแขวะเหมือนหมาเห่า แบบด้อยค่า  ตนคนหนึ่งที่กล้ายืนหยัดพูดความจริงเหมือนนายจตุพร พร้อมจะเปิดโปงทุกเรื่องที่ใครเคยทำร้ายจิตใจ เหยียบย่ำหัวใจคนเสื้อแดง ปล่อยให้ต้องตกระกำลำบาก เพราะสมองวันๆ ของนายทักษิณ คิดแต่จะหลอกคนเสื้อแดงขึ้นมามีอำนาจ

"อยากบอกว่าคนเสื้อแดงไม่ได้โง่ ไม่ได้กินแกลบกินหญ้า ที่จะยอมให้คนคนนี้มาหลอกลวงให้ก้าวข้ามเหยียบย่ำขึ้นสู่อำนาจอีกต่อไป" นายเสกสกลกล่าว

จ.ชุมพร นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  อดีตเลขานุการนายชุมพล จุลใส อดีตส.ส.ชุมพร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จะลงพื้นที่ จ.ชุมพร วันที่ 28 ม.ค.นี้ว่า เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมาฟังการปราศรัยหลักหมื่นคน ซึ่งได้ลงพื้นที่พูดคุยกับคนชุมพรหลากหลายกลุ่ม ชาวบ้านเขาก็ยังผูกพันกับพรรคเก่าแก่ แต่วันนี้เขาขอเลือกนายกฯ ลุงตู่ เพราะเขาเชื่อมั่นใจตัวนายกฯ ลุงตู่จะนำพาประเทศไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามหลายด้านได้

"คนชุมพรชอบคนตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม ทุกคำพูดออกมาจากหัวใจ และทำได้จริง ที่สำคัญคนชุมพรมั่นใจว่านายกฯ รักและป้องสถาบันมาโดยตลอด ตรงนี้จึงได้ใจคนชุมพร" อดีตเลขาฯ นายชุมพลระบุ

ป้อมร่าย จม.เปิดใจฉบับ 2

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" ซึ่งเป็นเพจทางการของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจจดหมายเปิดใจ ที่ผมสื่อสารผ่านแฟนเพจ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เมื่อ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ทราบว่า วันแรกมียอดสืบค้นหาทางกูเกิลถึง 8 แสนครั้ง และเพิ่มขึ้นจนทะลุ 1.5 ล้านครั้ง ในวันที่สองถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกสำหรับผมและพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากสังคม ตรงตามเจตนารมณ์ที่ผมต้องการจะสื่อสารสองทางผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้เต็มที่

"ผมอาจจะเป็นมือใหม่บนโลกโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง  ตลอด 8 ปี การเมืองมีคุณค่ามากสำหรับผม ซึ่งจะทยอยเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป  ว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง ขอได้โปรดติดตาม แต่สำหรับวันนี้ ผมอยากจะบอกว่า ผมได้เรียนรู้ว่านักการเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่จะต้องคิดเก่ง และที่สำคัญคือต้องหาคนเก่งมาร่วมงานด้วย เพราะคนเรานั้นไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง นอกจากนั้น นักการเมืองต้องสามารถประสานกับทุกฝ่าย ประนีประนอมกับทุกพรรค เพื่อลดความขัดแย้ง โดยยึดถือผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหัวใจสำคัญ จึงจะสามารถผลักดันประเทศชาติให้เดินหน้าไปได้" พล.อ.ประวิตรระบุ

ช่วงท้าย พล.อ.ประวิตรระบุว่า จากนี้พรรคพลังประชารัฐจะเปิดเวทีเสวนาหาข้อสรุปแนวนโยบายต่างๆ พร้อมทั้งไลฟ์สดทางแฟนเพจ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนว่า ทุกปัญหามีทางออก ทุกประเด็นมีคำอธิบาย ขอให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่านรอติดตาม และร่วมแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ผมและคณะทำงานทุกคนยินดีรับฟังครับ

ที่รัฐสภา เวลา 11.20 น. ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.), นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท., นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ และนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ยื่นคำร้องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ ส.ส.สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า นายศักดิ์สยามกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งว่าด้วยวิธีการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทั้งนี้ การทำคำร้องดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องหลายประการ ในการทำหน้าที่รัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ส่วนหนึ่งเรามีการยื่นเรื่องกับ ป.ป.ช.ไปแล้ว เช่น เรื่องที่ดินเขากระโดง โดยคำร้องครั้งนี้เรามีเอกสารหลักฐานประกอบทั้งหมด 14 เรื่อง

 “พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การยื่นครั้งนี้จะมีผล เพราะความชัดเจน ชัดแจ้ง ของพยานหลักฐานต่างๆ มีพร้อม” นพ.ชลน่านกล่าว

เคาะซักฟอก 15-16 ก.พ.

ต่อมานายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงตอบโต้กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นคำร้องถอดถอนนายศักดิ์สยามว่า นายศักดิ์สยามได้มีการชี้แจงมาตลอดก่อนการเลือกตั้งได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น และมีการดำเนินการตามกฎหมาย ยืนยันว่านายศักดิ์สยามได้พ้นจากผู้ถือหุ้นตั้งแต่เวลานั้นแล้ว รวมทั้งไม่ได้มีการทำการใดๆ ให้ได้รับผลประโยชน์ทางตรงหรือทางอ้อม

 “ท่านดำเนินการโดยใช้อคติ หรือวิธีการตีความเข้าข้างตัวเอง เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพรรคภูมิใจไทยและเลขาธิการพรรค เป็นเจตนาที่หวังผลทางการเมือง เราอาจจะต้องมีความจำเป็นที่จะยื่นดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การกระทำใดของท่าน หากดูแล้วเห็นว่าเป็นการหมิ่นประมาท ใส่ความ เราอาจจะต้องดำเนินคดี หรือหากผู้นำพรรคการเมือง หรือคณะกรรมการบริหารพรรค และได้มีการดำเนินการเช่นนี้ ก็อาจจะต้องมีการพิจารณาเพื่อดำเนินการที่จะยุบพรรคต่อไป" นายศุภชัยกล่าว

วันเดียวกัน ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป 3 ฝ่าย) ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม โดยมีตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน, พรรครัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนวิปครม., นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน, นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน, นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะวิปฝ่ายค้าน, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวิป 3 ฝ่ายใช้เวลาในการประชุมนานถึงประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

นายสุทินให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือในที่ประชุมว่า สรุปให้มีการกำหนดวันประชุมในวันที่ 15 และ 16 ก.พ. โดยฝ่ายค้านได้เวลา 24 ชั่วโมง และรัฐบาลได้เวลา 8 ชั่วโมง โดยในวันที่ 15 ก.พ. จะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น. จนถึง 02.30 น. ของอีกวันหนึ่ง ซึ่งฝ่ายค้านจะใช้เวลาในการอภิปรายไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ในกรอบเวลาไม่เกิน 23.00 น. จากนั้นจะให้ ครม.ตอบคำถามชี้แจง ส่วนวันที่ 16 ก.พ. จะเริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. และให้แล้วเสร็จภายในเวลา 24.00 น.

"หลังจากกำหนดวันอภิปรายได้แล้ว พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไปจัดสรรเวลาการอภิปรายอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงประเด็นและเนื้อหาการอภิปราย ภายใต้ยุทธการ "ถอดหน้ากากคนดี" สำหรับบรรยากาศการหารือในวันนี้ ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลมีท่าทีจริงจังในการที่จะมาชี้แจงตอบข้อซักถามต่อสภาผู้แทนราษฎรของพรรคฝ่ายค้าน แม้จะมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการยุบสภาในวันที่ 14 ก.พ.ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีการหยิบยกมาพูดคุยในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายแต่อย่างไร" นายสุทินกล่าว

ที่โรงแรมโอโซ่ นอร์ธ พัทยา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการอบรมตามโครงการเสริมสร้างการปฏิบัติงานเกี่ยวกับพรรคการเมืองให้แก่พนักงานสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ประจำปี 2566

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวตอนหนึ่งว่า อายุสภาจะครบวันที่ 23 มี.ค. ตามแผนเลือกตั้งวันที่ 7 พ.ค. แต่ก่อนที่อายุสภาจะครบ เราต้องมีเขตเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี โดยก่อนมีเขตเราต้องมีกฎหมายและระเบียบ ซึ่งขณะนี้ระเบียบ สำนักงาน กกต.ร่างไว้หมดแล้ว แม้ทุกอย่างจะพร้อม แต่ต้องรอกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ โดยเราจะมีเวลา 25 วันหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้เพื่อแบ่งเขต โดยจังหวัดจะมีเวลาดำเนินการแบ่งเขต 5-7 วัน นับจากอายุสภาสิ้นสุดลง รับฟังความเห็นประชาชน พรรคการเมือง 10 วัน ขั้นตอนการพิจารณาของ กกต.อีก 7 วัน รวม 25 วัน

"หากยุบสภาช่วงนี้ก็หวาดเสียวเหมือนกัน เพราะจะไม่มีเขตและสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้เลย นอกจากนั้นในส่วนของพรรคการเมืองเองก็ต้องทำไพรมารีโหวต 6-7 ขั้นตอน ประมาณ 20 วัน จึงจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ โดยตามข้อมูลขณะนี้มีพรรคที่มีสาขาหรือตัวแทนครบทุกจังหวัดซึ่งจะสามารถส่งผู้สมัครได้ครบทุกเขต เพียง 3 พรรค ทั้งนี้ หากพูดตามทฤษฎี เราต้องมีเวลา 25+20 วัน ก่อนสภาหมดวาระ ถึงจะทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อย โดย 45 วันดังกล่าว จะต้องนับจากวันที่มีกฎหมายมีผลใช้บังคับในราชกิจจานุเบกษา แต่ตอนนี้กฎหมายยังไม่ออก ก็ไม่รู้จะนับวันไหน" เลขาฯ กกต.ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อิ๊งค์โวพ่อสร้างลูกซ่อม

เปิดผลโพล "นักการเมืองแห่งปี  67" ปชช.ชื่นชอบ "แพทองธาร" กว่า 15% "เท้ง"  ตกไปลำดับ 9 ได้แค่ 5% คนเสื้อแดงคึกคัก