ครม.ไฟเขียวต่อมาตรการอุ้มค่าไฟกลุ่มเปราะบางอีก 4 เดือน อนุมัติ 3,946 ล้าน เดินหน้า "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5" และโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ก.พ.-ก.ย.66 คาดเงินสะพัดกว่าหมื่นล้าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มกราคม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงอยู่ กรอบวงเงิน 7,500 ล้านบาท สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือน ม.ค.-เม.ย.2566
โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย, ผู้ใช้ไฟฟ้า ระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าเอฟที เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 19.66 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,500 ล้านบาท หรือประมาณ 1868.06 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ครม.เมื่อวันที่ 19 มี.ค.65 และ 19 เม.ย.65 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการด้านราคาค่าไฟฟ้า โดยการให้ส่วนลดค่าเอฟทีแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ส.ค.65 โดยวงเงิน 1,724.90 ล้านบาท และมติ ครม. (13 ก.ย.2565) เห็นชอบช่วยเหลือค่าเอฟทีแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือนระยะเวลา 4 เดือน (ก.ย.-ธ.ค.65) วงเงิน 9,128.4120 ล้านบาทด้วย ทำให้รัฐบาลได้ช่วยค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางไปแล้ว 18,353.362 ล้านบาท
นายอนุชาเปิดเผยว่า ครม.ยังอนุมัติวงเงินรวมทั้งสิ้น 3,946,434,800 บาท เพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 วงเงินรวม 2,016,000,000 บาท และโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย วงเงิน 1,930,434,800 บาท ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมทั้งภาคแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกว่า 11 ล้านคน ทั้งนี้ คาดว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 12,539 ล้านบาท
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 วงเงินรวม 2,016 ล้านบาท แนวทางดำเนินการ ดังนี้ การลงทะเบียนใช้สิทธิเข้าโรงแรมที่พักจำนวนห้องพัก 560,000 สิทธิ์/ห้อง รัฐสนับสนุนร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน สูงสุด 5 ห้อง คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว (e-voucher) 600 บาท/วัน พื้นที่ดำเนินการในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ส่วนระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ย.2566
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com พร้อมติดตั้งเป๋าตัง โดยต้องจองห้องพักล่วงหน้าก่อนเดินทาง 7 วัน ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิจำนวน 5 สิทธิ สำหรับประชาชนที่เคยใช้สิทธิแล้ว สามารถกดให้ความยินยอม consent ในระบบได้เลย โดย 5 สิทธิดังกล่าว ไม่นับรวมสิทธิที่ใช้แล้วในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคล เช่นเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4
ทั้งนี้ โครงการยังมีแนวทางป้องกันการทุจริต : ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดให้มีระบบแสดงจำนวนห้องพักของแต่ละโรงแรม/ที่พัก หากมีการจองเกินจำนวนห้องที่แจ้งไว้ ระบบจะสามารถจำกัดการจองได้ โดยมอบให้ ททท. สำนักงานสาขาในประเทศ เป็นผู้ดำเนินการ และเพื่อป้องกันการขึ้นราคาห้องพักเกินจริง จึงให้มีการระบุในแบบฟอร์มยินยอมให้ชัดเจน หากโรงแรมที่พักเจตนาขึ้นราคาห้องพักเกินจริง สามารถเอาผิดเรียกเงินคืนและระงับการจ่ายได้ รวมทั้งต้องได้รับโทษถึงการตัดสิทธิในการเข้าร่วมทุกโครงการของรัฐบาล รวมทั้งจะมีระบบสแกนใบหน้าของผู้ใช้สิทธิในการเช็กอินเข้าพักและการใช้ e-voucher เพื่อป้องกันการใช้บัตรประชาชนผู้อื่นสวมสิทธิ
2.โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น วงเงินรวม 1,930.4348 ล้านบาท แนวทางการดำเนินกิจกรรมประกอบด้วย (1) การกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยจากต่างประเทศ โดยเน้นการนำเสนอ Soft Power ผ่าน Digital Market และกิจกรรมทางการตลาด (2) กระตุ้นท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ (ไทยเที่ยวไทย) ให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวบ่อยครั้งขึ้น (3) การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เผยแพร่และสร้างกระแสการเดินทางภายในประเทศ ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand, Amazing New Chapters (4) การยกระดับคุณภาพสินค้าเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ระยะเวลาดำเนินการในช่วงเดือน ก.พ.-ก.ย.2566 เพื่อช่วยผลักดันและสนับสนุนการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2.38 ล้านล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การดำเนินโครงการอยู่ในช่วงระหว่างเดือน ก.พ.-ก.ย.2566 ซึ่งเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดต่อเนื่องจากนักขัตฤกษ์ในเดือน พ.ค., มิ.ย. และ ส.ค. ช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับประเทศ ทำให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อเนื่อง รวมทั้งยังเป็นการช่วงชิงโอกาสในการแข่งขันกับประเทศต่างๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคาะ‘กริพเพน’ แทนขับไล่F16 ออปชันจัดเต็ม
ทอ.เคาะเลือก "JAS 39 Gripen E/F" บินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ หลัง “สวีเดน” จัดเต็มทั้งให้ลิขสิทธิ์ลิงก์-จรวดนำวิถีตัวเก่ง-offset policy ถึงแม้สหรัฐเสนอ Link 16 ฟรีให้ไทย
ภูมิธรรมคุมศูนย์น้ำท่วม พ่อนายกฯการันตีเอาอยู่
"แพทองธาร" ห่วงน้ำท่วม ปชช.เดือดร้อนหนัก เร่งจัดงบเยียวยาเต็มที่
รับรอง‘ปชช.’เท้งผู้นำค้าน
ด้อมส้มเฮ! กกต.รับรองพรรคประชาชนแล้ว ปธ.วิปฝ่ายค้านยัน "ผู้นำฝ่ายค้าน" เป็น "เท้ง" รอแต่งตั้งหลังรัฐบาลแถลงนโยบาย
ส่งออกโตสุดรอบ28เดือน อ้วนเคลมผลงานรัฐบาล
“ภูมิธรรม” ตีปี๊บข่าวดี! ส่งออกเดือน ก.ค. มูลค่า 25,720.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.2%
กกต.ฟัน‘ชาญ’สั่งเลือกตั้งใหม่
มติ กกต. 7 ต่อ 0 แจกใบเหลือง "ชาญ พวงเพ็ชร์" จัดเลี้ยงจูงใจฯ
พท.ปิดฉากบ้านป่า! เขี่ยทิ้ง‘พปชร.’ดึง‘ปชป.’เสียบตกรางวัล‘ธรรมนัส’3เก้าอี้
อัปเปหิพลังประชารัฐแล้ว ปิดสวิตช์ "วงษ์สุวรรณ" ตามบัญชานายใหญ่ “กก.บห.” อ้าง สส.ไม่สบายใจในการทำงานร่วมกัน