เซ่นคลิปนำนักท่องเที่ยว เด้ง3ตำรวจเข้าศปก.จร.

เด้งแล้ว 3 ตำรวจให้บริการนำนักท่องเที่ยวสาวจีนจากสุวรรณภูมิไปยังที่พัก “บิ๊กเด่น” สั่งฟันหนักทั้งอาญา-วินัย  “ธนกร-อนุชา” ปัดพัลวันหลังสะพัดเป็นผู้สั่งการ “นิด้าโพล” ตอกย้ำ 39% ไม่เชื่อมั่นหมาต๋า

เมื่อวันอาทิตย์ ยังคงมีความต่อเนื่องจากคลิปนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนอวดภาพตำรวจไทยถือป้ายรับหน้าประตูเครื่อง พาไปรับกระเป๋า ขึ้นรถตำรวจพร้อมจัดรถนำขบวนไปส่งยังโรงแรมที่พัก   โดยมีการจ่ายค่าบริการให้

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งให้เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นโดยด่วน

พล.ต.อ.วิสนุกล่าวต่อว่า ได้รับรายงานว่าบุคคลที่ปรากฏในคลิปนั้นเป็นตำรวจจริงทั้ง 3 นาย อยู่ในสังกัดตำรวจท่องเที่ยว 1 นาย และสังกัดกองบังคับการตำรวจจราจรอีก 2 นาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2566 ซึ่งขณะนี้ผู้บังคับการกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วเมื่อ 21 ม.ค. ส่วนตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรทั้ง 2 นาย ทาง บช.น.ได้มีการออกคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมออกคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจจราจรกองบังคับการตำรวจจราจร (ศปก.จร.) และสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผกก., รอง ผกก. และ สว. ที่ควบคุมกำกับตำรวจ 2 นายนี้ด้วย โดยสำนักงานจเรตำรวจฯ จะติดตามผลการดำเนินการจากทั้ง 2 กองบัญชาการ เพื่อนำเรียนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาต่อไป

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องการใช้รถว่า ได้รับอนุญาตหรือมีคำสั่งจากใครหรือไม่ และมีอำนาจหน้าที่แค่ไหนอย่างไร ซึ่งต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล โดยคาดว่าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงใช้ระยะเวลาไม่นาน ส่วนประเด็นการนำรถส่วนตัวมาใช้ จะมีความผิดทางอาญาด้วยหรือไม่นั้น หากนำรถส่วนตัวไปดัดแปลงก็เข้าข่ายผิดอาญาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางต้นสังกัดได้ออกคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.จร.ทั้ง 3 นายแล้ว

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ   รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีมีการระบุว่าได้รับการประสานงานจากคนขับรถของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ท่านหนึ่งให้ช่วยอำนวยความสะดวกว่า ยืนยันว่าไม่ใช่ตนเองแน่นอน เพราะยึดแนวทางการทำงานเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เด็ดขาดกับการทุจริต มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และได้สอบถามคนขับรถของตนเอง รวมถึงหน้าห้องทุกคนแล้ว ซึ่งได้รับคำตอบยืนยันว่าไม่มีใครไปดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่หากยังมีข้อสงสัย ก็พร้อมชี้แจง และยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

“ผมยืนยันว่าไม่ใช่ผมแน่นอน และไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปสั่งการให้ทำอะไรแบบนั้นด้วย ไม่มีทางที่ผมจะไปทำอะไรที่จะทำให้รัฐบาลต้องด่างพร้อยแน่นอน และจากการสอบถามนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็ยืนยันว่าไม่มีใครในทีมไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว” นายธนกรกล่าว

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รอง ผบช.ทท. ในฐานะโฆษกตำรวจท่องเที่ยว กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนให้ข่าวเรื่องได้รับการประสานจากคนขับรถของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ไปขับรถนำขบวนและอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถที่ใช้เป็นรถส่วนตัว ไม่ใช่รถของทางราชการ ไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา แต่มีความผิดทางวินัย เพราะเป็นความประพฤติไม่เหมาะสม เนื่องจากตำรวจท่องเที่ยวต้องดูแลและอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวทุกคนในภาพรวม ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นพิเศษ และในวันดังกล่าวไม่มีคำสั่งจากหน่วยงานให้ไปอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด

“เชื่อว่าเป็นการรับงานพิเศษในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หากการสอบสวนพบว่ามีคนขับรถของรัฐมนตรีเกี่ยวข้องด้วยตามที่เป็นข่าว ก็ต้องเชิญตัวมาให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว”

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง ความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจในสายตาของประชาชน จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วย โดยเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการนำเสนอข่าวหรือการแถลงข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า 39.01% ระบุว่าไม่ค่อยเชื่อมั่น, 26.72% ระบุว่าเชื่อมั่นน้อย, 25.34% ค่อนข้างเชื่อมั่น และ 8.93% เชื่อมั่นมาก

เมื่อถามถึงการใช้บริการบนสถานีตำรวจของประชาชนในรอบ 1 ปี พบว่า 80.23% ระบุว่าไม่เคยใช้บริการ ขณะที่ 19.77% เคยใช้บริการ ซึ่งตัวอย่างที่ระบุว่าเคยใช้บริการ 34.75% ระบุว่าค่อนข้างพอใจ, 22.78% ระบุว่าพอใจมาก,  22.01% ไม่ค่อยพอใจ และ 20.46% พอใจน้อย ส่วนเมื่อถามถึงสายงานของตำรวจที่ประชาชนชื่นชอบ พบว่า 29.08% ระบุว่าด้านการสืบสวนอาชญากรรม, 27.02% ด้านการจัดการจราจร, 22.06% ด้านการป้องกันและปราบปราม, 12.83% ระบุว่าไม่ชื่นชอบการปฏิบัติงานของตำรวจในสายงานใดเลย และ 9.01% ระบุว่าด้านการสอบสวน

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงลักษณะตำรวจที่ดีในมุมมองของประชาชน พบว่า 37.18% ระบุว่ามีคุณธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โปร่งใส ตรวจสอบได้, 25.73% ระบุว่าทำงานรวดเร็ว เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ,  17.86% ระบุว่าการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใสในการให้บริการ,  11.53% ระบุว่าบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง, 3.74% ระบุว่าสามารถควบคุมอารมณ์และแก้ไขสถานการณ์ได้ดี, 2.05% ระบุว่ามีความรู้ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงาน และ 1.91% ระบุว่ามีบุคลิกภาพมีความเป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง