‘ทนายบิลลี่’รวย42ล้าน ทรัพย์สินผบ.ทสส.31ล.

ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สินอดีต ส.ส.ก้าวไกล 41.8 ล้านบาท “วันชัย ปริญญาศิริ” พ้น ส.ส.สงขลา พปชร. มี 15.8 ล้านบาท ด้าน “พล.อ.สมศักดิ์” นั่งเก้าอี้ ส.ว.ป้ายแดง มีทรัพย์สิน 24 ล้าน ขณะที่ ผบ.ทสส. ดำรงตำแหน่งสูงครบ 3 ปี ทรัพย์สิน 31 ล้าน คู่สมรสรับมรดกที่ดินปี 65 มูลค่า 3.6 ล้าน

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่น่าสนใจ   นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ “ทนายบิลลี่” กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.กทม. เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2565

นายจิรวัฒน์แจ้งสถานะว่า โสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 41,897,460 บาท ได้แก่ เงินสด 1.5 แสนบาท, เงินฝาก 2,760,794 บาท, เงินลงทุน 1 แห่ง ในบริษัท ทองสุขศึกษา จำกัด 4.2 แสนบาท, เงินให้กู้ยืม 30,000 บาท, ที่ดิน 133,333 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 33,333,333 บาท, ยานพาหนะ 6 คัน (Benz 2 คัน, Mitsubishi Triton, Mazda 2, Ford Everest, Toyota Hilux) 3,550,000 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 1,520,000 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 7,125,000 บาท

มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 26,108,184 บาท เป็นเงินเดือน+เบี้ยประชุม 1,362,720 บาท เงินเพิ่ม/ค่าจ้าง 15,000 บาท รับมรดก (จากการขายที่ดิน) 2 โฉนดคือ โฉนดที่ 1349 อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 32 ไร่ มูลค่า 12,169,757 บาท และโฉนดที่ 1345 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 7 ไร่ มูลค่า 12,560,707 บาท มีรายจ่ายรวม 4.8 แสนบาท

ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ นายจิรวัฒน์ แจ้งถือครองรูปถ่ายรัชกาลที่ 5 จำนวน 1 รายการ ได้มาปี 2560 มูลค่า 5 แสนบาท,  พระพุทธรูปรัชกาลที่ 5 (2497) 1 รายการ ได้มาปี 2560 มูลค่า 2 แสนบาท, พระสมเด็จ+เลี่ยมทอง+สร้อย 1 รายการ ได้มาปี 2560 มูลค่า 6.5 แสนบาท, นาฬิกา Omega 1 รายการ ได้มาปี 2565 มูลค่า 1.4 แสนบาท, เข็มขัด Louis Vuitton 1 เส้น 2 หมื่นบาท, ปากกา Dupont 1 ด้าม มูลค่า 1 หมื่นบาท

ในส่วนหนี้สิน นายจิรวัฒน์แจ้งว่าเป็นหนี้เงินกู้กับนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ทำสัญญาเมื่อ 1 เม.ย.2562 จำนวนเงินต้น 35 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดหนี้คงเหลือ 7,125,000 บาท

สำหรับนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา  เป็นบุตรชายคนเล็กของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ปัจจุบันคือผู้บริหารกลุ่ม “คิงเพาเวอร์” และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี

ก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2560 นายจิรวัฒน์ เป็นทนายความ สำนักงานบิลลี่ทนายความ ปี 2561-2562 เป็นพิธีกรรายการกฎหมายหน้า 1 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เมื่อปี 2562 หลังจากนั้นเมื่อปลายปี 2565 ได้ลาออก ส.ส. และสมาชิกพรรคก้าวไกล ไปสังกัดพรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน นายวันชัย ปริญญาศิริ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2565

 นายวันชัยแจ้งมีทรัพย์สิน 12,301,569 บาท ได้แก่ เงินฝาก 11,329 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,555,240 บาท ทรัพย์สินอื่น 10,735,000 บาท มีหนี้สิน 39,075 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 4.8 แสนบาท แต่แจงรายละเอียดแค่ค่าตอบแทน 40,000 บาท มีรายจ่ายรวม 473,141 บาท

ส่วนนางสยมพร ปริญญาศิริ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 3,517,012 บาท ได้แก่ เงินสด 4 แสนบาท เงินฝาก 166,081 บาท เงินลงทุน 268,440 บาท ที่ดิน 8.5 แสนบาท ยานพาหนะ 9 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 932,491 บาท มีหนี้สิน 1,084,805 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 563,355 บาท เป็นเงินบำนาญ 383,355 บาท ค่าจ้าง 1.8 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 545,461 บาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 15,826,582 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,123,880 บาท

ปัจจุบัน นายวันชัยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสหกรณ์ชาวสวนยางบ้านทรายขาว ต.ทุ่งหวัง อ.เมืองฯ จ.สงขลา ส่วนนางสยมพร เป็นข้าราชการบำนาญ ครูอัตราจ้าง โรงเรียนอนุบาลสงขลา

และยังเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน พล.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ว. เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2565 แจ้งมีทรัพย์สิน 5,105,661 บาท ได้แก่ เงินฝาก 4,308,619 บาท ยานพาหนะ 2 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 597,042 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 1,004,187 บาท เป็นเงินบำนาญ 982,644 บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 21,543 บาท รายจ่ายรวม 8 แสนบาท

ส่วนนางจุรีภรณ์ นิลบรรเจิดสกุล คู่สมรส มีทรัพย์สิน 19,092,336 บาท ได้แก่ เงินฝาก 10,149,186 บาท เงินลงทุน 500,500 บาท ที่ดิน 6,072,650 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 ล้านบาท ยานพาหนะ 1,370,000 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 351,745 บาท เป็นเงินบำนาญ 301,000 บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 50,745 บาท รายจ่ายรวม 301,000 บาท

รวมมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 24,197,997 บาท ไม่มีหนี้สิน

ก่อนหน้านี้ ระหว่างปี 2561-2562 พล.อ.สมศักดิ์ เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุค คสช. ปี 2562-2563 เป็นที่ปรึกษาสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ปี 2564-2565 เป็น ส.ว.ผู้ทรงคุณวุฒิจากกระทรวงกลาโหม นอกจากนี้ยังเคยเป็นราชองครักษ์พิเศษ ราชองครักษ์เวร รองเลขาธิการ คสช. อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นต้น

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดย พล.อ.เฉลิมพลพร้อมด้วยนางบุษกร ศรีสวัสดิ์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 31,622,003 บาท ไม่มีหนี้สิน แบ่งเป็นทรัพย์สินของ พล.อ.เฉลิมพล 14,400,847 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 4 บัญชี รวม 2,179,306 บาท เงินลงทุน 2,452,685บาท ที่ดิน 53,750 บาท ในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี สิทธิและสัมปทาน 9,324,605 บาท โดยเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตรวม 12 รายการ ทรัพย์สินอื่น 390,500 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 17,221,155 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 4 บัญชี รวม 2,969,100 บาท ที่ดิน 9,333,055 บาท 7 รายการ ซึ่งระบุว่าได้รับมรดกมาทั้งหมด โดยเป็นที่ดินในพื้นที่ดอนเมือง กรุงเทพฯ, อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และที่ได้รับมาล่าสุดเมื่อเดือน ส.ค.2565 เป็นที่ดิน 2 ไร่เศษ ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มูลค่า 3,360,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาท โดยเป็นบ้าน 2 ชั้นในพื้นที่ดอนเมือง กรุงเทพฯ ยานพาหนะ รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน มูลค่า 1,500,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,419,000 บาท

ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของ พล.อ.เฉลิมพล และคู่สมรส อาทิ อาวุธปืนขนาด .45 อาวุธปืนขนาด .357 และอาวุธปืนขนาด 9 มม. รวม 6 กระบอก ของพล.อ.เฉลิมพล นอกนั้นเป็นทรัพย์สินของคู่สมรส สร้อยคอทองคำประดับเพชร สร้อยคอทองคำขาวจี้เพชร นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน แหวนทองประดับเพชร สร้อยคอทับทิมสยาม ชุดสร้อยคอทองคำพร้อมต่างหู เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม พล.อ.เฉลิมพลยังแจ้งอีกว่ามีรายได้ต่อปีจากเงินเดือนข้าราชการทหารรวม 1,580,553 บาท รายจ่ายต่อปี 970,000 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากรมธรรม์ประกันชีวิต เงินบริจาค ท่องเที่ยว และซื้อกองทุน ส่วนคู่สมรสไม่ได้แจ้งรายได้ โดยมีรายจ่ายต่อปี 142,000 บาท

ทั้งนี้ สำหรับ พล.อ.เฉลิมพล ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ระหว่างปี 2560-2561 ดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการทหารบก ระหว่างปี 2561-2562 ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในปี 2562 ก่อนจะดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ระหว่างปี 2562-63 และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน.