ประชาชน96% เชื่อมีขบวนการ จ้องล้มสถาบัน

ผงะ! ซูเปอร์โพลเผยพบคนส่วนใหญ่ 96.4% เชื่อมีขบวนการจ้องโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์จริง เชื่อมโยงนักการเมือง-นักวิชาการ-ต่างชาติ ชี้คนไทยส่วนใหญ่รู้เท่าทันไม่เอาด้วย พท.ดันภาค ปชช.ชงแก้มาตรา 256

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจเรื่อง รู้ทันความเคลื่อนไหวทำลายชาติ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,086 ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่หรือ 96.5% ระบุว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นรากฐานสำคัญของประเทศที่ต้องอยู่คู่กับประชาชน 96.4% เชื่อว่าขบวนการสั่นคลอนโค่นล้มสถาบันฯ มีอยู่จริงและเชื่อมโยงนักวิชาการ นักการเมือง นักข่าว กลุ่มทุนและองค์กรต่างชาติ และอื่นๆ และ 95% เชื่อว่ามีความพยายามของต่างชาติเชื่อมโยงกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันฯ พยายามเข้ามาแทรกแซงเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หวังคนในชาติขัดแย้งอ่อนแอ ชี้นำยึดครองผลประโยชน์ชาติ

ขณะที่ส่วนใหญ่หรือ 97.3% ระบุว่า ต้องการการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบด้วยบรรทัดฐานเดียวกัน ภายใต้กฎหมายที่กำหนด โดยมีเพียง 2.7% ไม่ต้องการ ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือ 97.2% ต้องการให้การแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยโดยกลไกรัฐสภา ในขณะที่ 2.8% ไม่ต้องการ

“ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือ 96.5% ไม่เห็นด้วยกับขบวนการสร้างเงื่อนไข บิดเบือน ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกของคนในชาติ นำมวลชนลงถนน และใช้ความรุนแรงบานปลาย ในขณะมีเพียง 3.5% ที่เห็นด้วย และส่วนใหญ่หรือ 96.8% ระบุบ้านเมืองและประชาชนกำลังอยู่ในช่วงต้นของการเปิดประเทศ เริ่มกลับมาใช้ชีวิต ค้าขายปกติ ทุกคนกำลังช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและแก้ปัญหาปากท้องในทุกมิติ 96.6% ระบุว่า กังวลกับกลุ่มขบวนการสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะทำลายความพยายามฟื้นฟูบ้านเมืองร่วมกัน นำไปสู่ความวุ่นวายและวิกฤตซ้ำซาก”

ผลสำรวจยังพบว่า ส่วนใหญ่หรือ 96.3% ไม่เห็นด้วยกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พยายามบิดเบือน จาบจ้วง ก้าวล่วง พาคนลงถนน คุกคามและไม่เคารพผู้อื่น ทำบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ทำลายความหวังของประชาชนที่จะร่วมกันฟื้นฟูประเทศ โดยมีเพียง 3.7% เท่านั้นที่เห็นด้วย

ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพลกล่าวว่า โพลชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยรับรู้ได้ถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่มีนักวิชาการ นักการเมือง นักข่าว และกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมบางส่วนร่วมมือกับขบวนการต่างชาติ พยายามแทรกแซงเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย โดยปั่นให้คนไทยแตกแยก ขัดแย้ง อ่อนแอ นำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคมที่รุนแรงบานปลายจนไม่สามารถควบคุม ดังตัวอย่างในฮ่องกงและหลายประเทศในตะวันออกกลาง ผลโพลนี้จึงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทยส่วนใหญ่รู้เท่าทันความเคลื่อนไหวทำลายชาติ จึงไม่เอาด้วยกับขบวนการและไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของขบวนการต่างๆ ดังกล่าว

วันเดียวกัน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงผลการลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนว่า เป็นไปตามคาดหมายที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะตกไป ต้องใช้เสียง ส.ว.ถึง 84 เสียงในชั้นรับหลักการวาระที่ 1 แต่ก็ไม่อยากให้ประชาชนกว่า 1.3 แสนคนที่เคยเข้าชื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญล้มเลิกความคิด ให้เสนอเข้ามาอีกครั้ง โดยเสนอแก้ไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถผ่านได้ เพราะสภาเคยมีความเห็นโหวตรับหลักการในการแก้ไขมาตรา 256 มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่มี ส.ว.ส่วนหนึ่งยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความทำให้ตกไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อุ๊งอิ๊ง’ แจ้นตรวจนํ้าท่วม ชาวบ้านลำบากแต่ยิ้มได้

นายกฯ อิ๊งค์ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมภาคเหนือ เสียงสั่นเครือเห็นใจชาวบ้านยังคงลำบากไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ชาวบ้านยังยิ้มแย้ม ดีใจและโบกมือให้

โวเลือกตั้งซ่อม ‘เพื่อไทย’ มาแน่ กระแส ‘อิ๊งค์’ พุ่ง

"สมศักดิ์" โวลั่น! เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกเขต 1 กระแสเพื่อไทยสูง เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ หลัง "อุ๊งอิ๊ง" เป็นนายกฯ ตอนนี้มันเปลี่ยนแล้ว กระแสพรรคประชาชนหดหาย

คนเยอะกว่าเก้าอี้! ‘ภูมิธรรม’ ยอมรับบางรายเสนอชื่อไปแล้วเกรงมีปัญหาจริยธรรม

"ภูมิธรรม" เผยตั้งรัฐบาลยังไม่สะเด็ดน้ำ ไทยอยู่ในกระบวนการที่กำลังดูกันอยู่ เพราะคนเยอะกว่าตำแหน่ง ยอมรับตรวจเข้มกลัวมีปัญหาในเชิงจริยธรรม ว่าที่ รมต.ทยอยส่งประวัติ