แห่ให้การอธิบดีงาบสินบน จนท.โอดต้อง‘กู้หนี้ยืมสิน’

เจ้าหน้าที่ 14 รายแห่ให้ปากคำ บก.ปปป. มัดอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ตบทรัพย์ “ผบก.ปปป.” เตรียมออกหมายเรียกอีก 14 ราย คาด ปปง.ส่งเส้นทางการเงินถึงมือ ป.ป.ช.กลางเดือนนี้ จนท.รับถูกรีดจริง ถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ม.ค.2566 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่ง โดยที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ป.ป.ป.) เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูล

โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่อยู่ในระดับหัวหน้าหน่วย ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 19 คน ที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี นำข้อมูลมาให้เจ้าหน้าที่ ปปป. โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 13 คน ที่นำเงิน 98,000 บาทส่งให้นายรัชฎา และกลุ่มที่ 2 จำนวน 6 คน เป็นพยานที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกรับเงินของนายรัชฎา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. มีพยานเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว 2 คน คือนายชัยวัฒน์และพยานที่เคยไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเมื่อวันที่ 5 ม.ค. มีพยานเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่ม 1 คน ส่วนวันที่ 6 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี มาให้ข้อมูล 14 คน เป็นกลุ่มพยาน 3 คน และเจ้าหน้าที่อีก 11 คน โดยอีก 2 คนติดภารกิจและป่วย จะมาพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 10 ม.ค.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวภายหลังว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่มาให้ปากคำในฐานะพยานเป็นกลุ่มของนายชัยวัฒน์ ที่นำเงิน 98,000 บาท ไปส่งให้นายรัชฎาและกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเรียกรับเงิน ซึ่งทุกคนให้การเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าถูกบังคับโดยส่วนใหญ่ไม่ยินยอมและไม่สมัครใจ แต่สาเหตุที่ยินยอมเพราะเกรงกลัวอำนาจ  จึงยอมทำตามข้อเรียกร้องของนายรัชฎา ส่วนรายชื่อที่ปรากฏบนซองเงินของกลางภายในห้องทำงานจำนวน 21 ซอง ตรวจสอบได้แล้ว 14 คน เป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานนั้นๆ ที่กล่าวอ้างว่าถูกเรียกเก็บเงิน ล่าสุดได้ออกหมายเรียกแล้ว 6 คน ให้มาวันที่ 11 ม.ค.นี้ และจะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 คน ให้มาในวันที่ 12 ม.ค. เวลา 10.00 น. ซึ่งมีบางส่วนยินยอมเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ส่วนใครจะมาหรือไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็เป็นสิทธิ แต่ในอนาคตพยานก็จะถูก ป.ป.ช.เรียกสอบปากคำในภายหลังเพิ่มเติมอยู่ดี

“การสอบเส้นทางการเงินอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงปลายทางของเงินที่ถูกเรียกเก็บ แต่ยืนยันว่าหากเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ส่วนกระแสข่าวว่าหลังจากที่นายรัชฎาได้รับการประกันตัวแล้วจะเข้ายุ่งเหยิงข่มขู่กับพยานหลักฐานนั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว และว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบทางการเงินของนายรัชฎานั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.พร้อมกับตัวนายรัชฎาให้ ป.ป.ช.พิจารณาได้ภายในกลางเดือน ม.ค.นี้

ด้านหนึ่งในพยานกล่าวหลังให้ปากคำกับ บก.ปปป.ว่า อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต แต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าคดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและหน่วยงาน ดังนั้นจึงอยากให้สังคมเข้าใจการทำงานของบุคลากรกรมอุทยานฯ เพราะที่ผ่านมาหลายคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากงบประมานการดูแลสัตว์ป่าถูกตัดออกไปมากถึง 70% ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่และดูแลลูกน้อง

นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งรัดการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นๆ อย่างจริงจัง พร้อมทั้งตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการทุกระดับที่มีพฤติกรรมในการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อการให้และรับสินบนทั้งผู้ให้และผู้รับ เพื่อจะทำให้ภาพลักษณ์และค่าคะแนนความโปร่งใสของประเทศสูงขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง