ในหลวงพระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะผู้พิพากษา ความยุติธรรมเป็นพื้นฐานของความสงบสุข หากปรารถนาจะให้ประเทศมีความสงบสุข ก็ต้องอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ผู้พิพากษามีหน้าที่โดยตรงในการธำรงรักษาความยุติธรรมในแผ่นดิน จึงต้องยึดมั่นในคำปฏิญาณของตนอย่างเคร่งครัด
เมื่อเวลา 15.24 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามลำดับดังนี้
นางสาวปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม, นายสิทธิพงศ์ ตัญญพงศ์ปรัชญ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งเลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายภีม ธงสันติ เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด นำอัยการประจำกอง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
การนี้ พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติหน้าที่ ความว่า ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้ฟังผู้พิพากษาที่เข้ารับหน้าที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนด้วยความเข้มแข็ง ว่าจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อความยุติธรรม ของประชาชน และความสงบสุขของประเทศ คนเราเมื่อมาอยู่ร่วมกันเป็นสังคม เป็นประเทศ ต้องมีความขัดแย้งเกิดขึ้นบ้างเป็นปกติ ความสงบสุขของประเทศจึงไม่ได้เกิดจากการที่ไม่มีความขัดแย้ง แต่อยู่ที่ว่าเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นคราวใดก็สามารถคลี่คลายลงได้ด้วยความยุติธรรม จึงกล่าวได้ว่าความยุติธรรมเป็นพื้นฐานของความสงบสุข หากปรารถนาจะให้ประเทศมีความสงบสุข ก็ต้องอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน
ท่านทั้งหลายที่เป็นผู้พิพากษา มีหน้าที่โดยตรงในการธำรงรักษาความยุติธรรมในแผ่นดิน จึงต้องยึดมั่นในคำปฏิญาณของตนอย่างเคร่งครัด และตั้งใจพิจารณาเรื่องราวข้อขัดแย้งต่างๆ ด้วยวิจารณญาณที่ถูกต้อง ในการนี้ความรู้ในตัวบทกฎหมายก็เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ทุกคนจำเป็นต้องสำนึกตระหนักด้วยว่าการใช้กฎหมายเพื่อผดุงรักษาความยุติธรรมให้ได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมตามเหตุตามผล ตามความเป็นจริง โดยไม่สวนทางกับศีลธรรม จริยธรรมของมนุษยธรรม ถ้าทำได้ดังนี้ ท่านก็สามารถรักษาคำปฏิญาณที่จะธำรงความยุติธรรมอันเป็นรากฐานสำคัญแห่งความสงบสุขของประเทศได้สำเร็จ
ในโอกาสนี้ นายสมศักดิ์ เวทย์วิไล รองอัยการสูงสุด, นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ และนายรมย์ศักย์ ธรรมชัยเดชา เลขานุการอัยการสูงสุด ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
การนี้ พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติหน้าที่ ความว่า ท่านทั้งหลายเมื่อมาถวายสัตย์ปฏิญาณตน ย่อมมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จผลสูงสุด สมดังคำปฏิญาณ การจะทำให้ได้ดังที่ตั้งใจนั้น จำเป็นต้องอาศัยทั้งความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และวิจารณญาณที่ถูกต้อง ประกอบพร้อมกัน
ความรู้ จะทำให้แต่ละคนมีความแม่นยำในหลักวิชาและตัวบทกฎหมาย ความสามารถ จะช่วยให้นำความรู้ไปปรับใช้ใด้อย่างเหมาะสมถูกต้อง ตามสถานการณ์และความเป็นจริง ประสบการณ์ จะช่วยให้มีทักษะความเชี่ยวชาญที่สร้างสมขึ้น และสามารถนำมาใช้ให้บังเกิดผล
วิจารณญาณ จะช่วยให้สามารถพิจารณาตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเป็นธรรม จึงขอให้อัยการทุกคน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และวิจารณญาณ อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน จะได้สามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน และธำรงรักษาความยุติธรรมในบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง ดังที่ให้คำสัตย์ปฏิญาณไว้
ในโอกาสนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำตุลาการศาลทหาร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
การนี้ พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติหน้าที่ ความว่า หน้าที่ของตุลาการทหารคือการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ด้วยการธำรงความยุติธรรมในแผ่นดิน
ท่านทั้งหลายย่อมมีหน้าที่ทั้งในฐานะทหาร คือรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ และในฐานะตุลาการ คือรักษาความยุติธรรมในบ้านเมือง จึงอาจกล่าวโดยรวมได้ว่าหน้าที่ของท่าน ได้แก่การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ด้วยการธำรงความยุติธรรมในแผ่นดิน
เรื่องความมั่นคงปลอดภัยกับความยุติธรรมนี้ ทุกท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างมาก เนื่องด้วยความยุติธรรมเป็นปัจจัยข้อใหญ่ ที่ทำให้ชาติบ้านเมืองมีความมั่นคงปลอดภัย เป็นที่พึ่งที่อาศัยที่ทุกคนจะอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกสงบ จึงขอให้ทุกท่านสำนึกตระหนักในความสำคัญของหน้าที่ตนอยู่เสมอ แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ทั้งปวงโดยเต็มกำลังความรู้ความสามารถ อันจะเป็นการรักษาคำสัตย์ที่ท่านได้ปฏิญาณไว้ได้อย่างเที่ยงแท้บริบูรณ์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กต่อแจงบ้านลอนดอน รมว.ดีอีดีดรับพ่อนายกฯ
ป.ป.ช.เปิดขุมทรัพย์ “บิ๊กต่อ” หลังพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้าน
ภท.เฮรอดคดียุบพรรค! อิ๊งค์ขอเริ่มทำงาน2ม.ค.
“ภท.” เฮ รอดยุบพรรค กกต.ยุติสอบ “วันนอร์” ไม่หวั่นถูกเลื่อยขาเก้าอี้
ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3
“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด
ชวนบี้แก้ปมท้องถิ่นชิงลาออก
“แสวง” ลงพื้นที่ปราจีนบุรี ส่องรับสมัครนายก อบจ.วันสุดท้าย
จี้สอบ6ข้อป่วยทิพย หวั่น‘สมศักดิ์’แทรกแซง/‘แม้ว’ถก‘อันวาร์’เรื่องอาเซียน!
"บิ๊กป้อม" เลี่ยงเผชิญหน้า "ทักษิณ" ยกเลิกร่วมงานอวยพรครบรอบ 75 ปี
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย