ฝ่ายค้านขู่ฟ่อเจอแน่ ซักฟอกหลังตรุษจีน!

เคลียร์ร่างกฎหมายของสภาหมดวาระ "ชวน"  เผยนัดคุยวิป 3 ฝ่าย 4 ม.ค.นี้ เตือนประชาชนจับตาดูอยู่  ใครที่คิดว่าชนะแน่ๆ และชนะท่วมท้น สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนก็ได้ จึงต้องระมัดระวังจนนาทีสุดท้าย ชม "บิ๊กป๊อก" มาตอบกระทู้ตลอด ฝ่ายค้านขย่มรัฐบาลลับปากซักฟอกหลังตรุษจีน ด่า "บิ๊กตู่" บ้าอำนาจ

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2566 นายชวน หลีกภัย  ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทำงานของสภาในช่วงที่ผ่านมาว่า ไม่สามารถให้คะแนนการทำงานของสภาได้ เพราะต้องรอดูทิศทางและความพร้อมของแต่ละพรรคการเมืองอีกครั้ง ขณะนี้มีความชัดเจนเฉพาะว่าใครอยู่ที่ไหนเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนมองว่าอาจจะสั่งองค์ประชุมง่ายขึ้น โดยหัวหน้าพรรคหรือผู้บริหารพรรคใหม่สามารถขอสมาชิกที่จะไปสังกัดพรรคนั้นแต่ยังไม่ลาออกจาก ส.ส.ขอให้ทำงานให้ประชาชนในเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก

ทั้งนี้ ขอชม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มาตอบกระทู้แยกเฉพาะเองเสมอ  แต่ผู้ตั้งกระทู้ยังเป็นชุดเดิมและไม่ได้กระจายตัว สรุปโดยภาพรวมสมาชิกสามารถดูแลทุกข์สุขชาวบ้านอยู่ในเกณฑ์ดี

ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า การควบคุมเสียง ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมนั้น หัวหน้ารัฐบาลไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ได้มีหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้แทนฯ เช่นกัน จึงประสานผ่านทางรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งตัดสินบางเรื่องไม่ได้ ดังนั้นตนจึงเห็นใจวิปรัฐบาลและผู้ควบคุมเสียง ทั้งนี้พยายามช่วยประสานขอความร่วมมือ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็เหนื่อย และเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะกดองค์ประชุม เราจึงไปตำหนิไม่ได้ ทำได้แค่ขอความร่วมมือ โดยหลังปีใหม่ตนจะขอความร่วมมือทุกฝ่าย ใช้เวลาที่เหลืออยู่ของสภาทำหน้าที่ให้ลุล่วงไปให้ได้

“การทำงานปี 66 อยู่ที่ความร่วมมือของสมาชิก ผมตั้งใจว่าหลังปีใหม่ หรือวันที่ 4 มกราคม จะเชิญวิป 3  ฝ่าย คือวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา มาหารือเพื่อเร่งรัดกฎหมายที่เลื่อนขึ้นมาพิจารณา 3 ฉบับ ช่วงก่อนสภาหมดวาระมีความหมายเพราะประชาชนจับตาดูอยู่ ใครที่คิดว่าชนะแน่ๆ และชนะท่วมท้นสถานการณ์อาจจะเปลี่ยนก็ได้ จึงต้องระมัดระวังจนนาทีสุดท้าย” นายชวนกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างกฎหมาย 3 ฉบับที่จะหารือนั้น ได้แก่ 1.ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2.ร่าง  พ.ร.บ.มาตรฐานวิชาชีพสื่อ และ 3.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ที่ฝ่ายค้านเสนอ

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมเนื้อหาในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา  152 ว่า คาดว่าจะได้อภิปรายหลังตรุษจีน ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคก็เตรียมตัวเตรียมเนื้อหาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด คาดว่าจะมีการประชุมกันอีกครั้งว่าจะอภิปรายเนื้อหาส่วนใดบ้าง ขณะที่พรรค พท.​ ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วในภาพรวมกว้างๆ แล้วค่อยแยกประเด็นออกมา แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนในรายละเอียด  เพราะยังมีเวลาอีก 3-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามการอภิปรายครั้งนี้จะชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องและความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาล พร้อมเสนอในเรื่องที่ดี เรื่องใดที่ควรจะทำ และเรื่องที่รัฐบาลไม่ได้ทำ

ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เผยว่า ขณะนี้พรรค ก.ก.และพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ได้รวบรวมข้อมูล ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อคัดออก เนื่องจากพี่น้องประชาชน ข้าราชการระดับสูง ได้มีการส่งข้อมูลทุจริตของการบริหารราชการที่ล้มเหลวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตนคิดว่าข้อมูลของแต่ละพรรคมีเยอะมาก  จึงต้องคัดประเด็นออกเพื่อให้เหลือแค่ประเด็นที่ใช้สำหรับเปิดโปงให้พี่น้องประชาชนเห็นในข้อมูลใหม่ๆ และตนคิดว่าในการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นมิติใหม่ ในการอภิปรายมาตรา 152 ที่พี่น้องประชาชนควรติดตาม เนื่องจากเป็นการสรุปประเด็นและขมวดความล้มเหลวในช่วงระยะเวลา  8 ปีในการใส่หน้ากากคนดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้รับฉายามา ซึ่งหากเราถอดหน้ากากคนดีออกแล้ว เราจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของนายกรัฐมนตรีที่บ้าอำนาจคนนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง