สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ จวกปลัด มท. ดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จี้ไขก๊อกพ้นนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ "ศรีสุวรรณ" จี้ รมว.มท.สอบฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง สั่งปลดออกจากตำแหน่ง "ทนายสงกานต์" รุดแจ้งความที่ สภ.ป่าตอง เอาผิดข้อหาหมิ่นประมาท ด้อยค่า ม.สยาม จี้นายกฯ ย้ายเป็นของขวัญปีใหม่ ลั่นยอมไม่ได้ด้อยค่ามหา'ลัยที่เคยให้ความรู้ จับตาชาวภูเก็ตจ่อจัดหนัก
เมื่อวันอาทิตย์ ยังคงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อเรียกร้องกรณีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่ด่ากราดข้าราชการกลางห้องประชุมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ที่มีการถ่ายทอดระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหน่วยงานในสังกัดหลายจังหวัด เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายกฤตภาส เชษฐเจริญรัตน์ นายกสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ถึงนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาฯ เรื่องพิจารณาความเหมาะสมของท่าน ในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีเนื้อหาว่า ด้วยสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับร้องเรียนจากนิสิตจุฬาฯ และบุคคลภายนอกจำนวนมากว่า ในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยประจำเดือนธันวาคม 2565 ประธานที่ประชุม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ใช้วาจาหยามหมิ่นสติปัญญาและชื่อเสียงของสถานศึกษาของข้าราชการชั้นผู้น้อยภายใต้บังคับบัญชา และยังแสดงให้เห็นถึงความนิยมชมชอบในระบอบอาวุโสและอำนาจนิยม นับว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ รู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อทัศนคติอันเลือกปฏิบัติและดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ดังกล่าว การกระทำของนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในฐานที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ยังความเสียหายเหลือประมาณมาสู่บุคคลที่ถูกหยามหมิ่นและสถานศึกษาที่ปลูกฝังจิตสำนึกให้รับใช้ประชาชน
ทั้งนี้ เพื่อให้คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ยังคงเป็นแบบอย่างอันดีงาม และเป็นสถานศึกษาที่ผลิตบุคลากรคุณภาพสู่สังคม จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านพิจารณาทบทวนอีกครั้งถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาฯ
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวแม้นายสุทธิพงษ์จะออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ยอมรับว่าพูดจริง แต่ภาคเสธว่าไม่มีเจตนาจะดูถูกสถาบันการศึกษาใดๆ เป็นคนพูดจาสไตล์ลูกทุ่ง อาจมีการดุด่าลูกน้องเพื่อเร่งรัดงาน เรื่องถ้อยคำขอน้อมรับด้วยความเสียใจ และขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่ดูหมิ่นสถาบันการศึกษาใดๆ เลยนั้น เป็นการแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ ทั้งๆ ที่นายสุทธิพงษ์มีวุฒิภาวะเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จบการศึกษาถึงระดับปริญญาเอก ย่อมต้องรู้กาลเทศะในการใช้คำพูด คำพูดดังกล่าวอาจส่อไปในทางขัดต่อข้อ 2 (2) และ (7) ของประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ที่ออกตามความใน ม.6 แห่ง พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม 2562 ประกอบระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ การจัดทำประมวลจริยธรรม ข้อกำหนดจริยธรรม และกระบวนการรักษาจริยธรรมของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2563 ที่กำหนดว่า “ข้าราชการต้องดำรงตนเป็นแบบอย่างด้วยการเป็นข้าราชการที่ดี และรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ พึงปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน...”
อีกทั้งยังขัดต่อแนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการฯ ตามหนังสือสั่งการของเลขาธิการ ก.พ.ที่ นร 1019/ ว 9 ลงวันที่ 5 ก.ค.2564 ในข้อที่ไม่ควรทำ ข้อ 19 ที่ว่า “ไม่ประพฤติหรือกระทำการใดๆอันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และภาพลักษณ์ของตนเองและราชการ” คำพูดดังกล่าวอาจเข้าข่ายการ “ดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน” ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.393 ม.326 และ ม.136 โดยเทียบเคียงได้ตามฎีภา 445/2522, 6629/2556, 5257/2548 ฯลฯ มีโทษทั้งปรับและหรือจำคุก
"การใช้คำพูดดังกล่าวต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในที่สาธารณะ เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการอย่างร้ายแรง และฝ่าฝืนข้อกำหนดจริยธรรมของส่วนราชการ จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐานจริยธรรม หรือ ก.ม.จ. โดย รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาดำเนินการลงโทษตามครรลองที่กฎหมายกำหนด โดยสั่งปลดออกจากตำแหน่งไปเสีย สมาคมฯ จึงทำหนังสือร้องเรียนไปยัง มท.1 ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยด่วนต่อไป หากเพิกเฉย รมว.มหาดไทยก็อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามไปด้วย" นายศรีสุวรรณกล่าว
ขณะที่ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ในฐานะศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์และนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสยาม มาร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สมมาตย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ป่าตอง ที่ สภ.ป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยให้พิจารณาดำเนินคดีอาญากับปลัดกระทรวงมหาดไทย ในความผิดฐาน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือแค่บางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชนและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. ได้กล่าวในที่ประชุมในระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เป็นข้อความที่ลดคุณค่าของมหาวิทยาลัยสยามให้ลดน้อยลง อันเป็นการบิดเบือนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าผู้ใดจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสยามนั้น ไม่มีคุณค่าหรือไม่มีคุณภาพ ทำให้ขาดความเชื่อมั่นหรือการยอมรับจากบุคคล หรือ นิติบุคคล หรือหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน อันเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายต่อส่วนตัวและมหาวิทยาลัยสยาม
ทนายสงกานต์กล่าวว่า การด้อยค่าผู้ใต้บังคับบัญชาถือว่าเจ็บปวด ดังคำที่ว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ขอให้ รมว.มหาดไทยตั้งกรรมการสอบวินัย จะปล่อยให้ผู้บริหารระดับสูงทำกับลูกน้องอย่างนี้ได้อย่างไร น้องๆ ที่มหาวิทยาลัยสยามบางคนร้องไห้เสียใจที่คุณลุงพูดอย่างนี้ จะไปสมัครงานเขาจะรู้สึกอย่างไร นักศึกษามีเป็นพันเป็นหลายหมื่นคนรู้สึกอย่างไร พูดอย่างนี้เป็นเรื่องร้ายแรง แม้กระทั่งควายไปดูถูกได้อย่างไร ควายมีบุญคุณต่อคนลากเกวียนให้คนมีข้าวกิน ท่านดูถูกแบบนี้ รมว.มหาดไทย และนายกฯ จะปล่อยให้คนแบบนี้ดูแลทำหน้าที่ปลัดหรือ
"วันนี้มางานเคาต์ดาวน์ที่ป่าตอง จึงถือโอกาสเข้าแจ้งความที่ สภ.ป่าตอง และได้ซื้อตะกร้อครอบปากสุนัขมาด้วย ตั้งใจจะให้สุนัขที่บ้าน แต่เปลี่ยนใจแล้วมีของขวัญจะมอบให้ใครให้พิจารณาดู ท่านสำรากคำพูดอย่างนี้มันเจ็บปวด ผมไม่ยอม กัดไม่ปล่อยแน่นอน ด้อยค่ามหาวิทยาลัยในสังกัดที่ให้ความรู้ผม ยอมไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ต้องออกมา ต้องมีการตั้งกรรมการสอบวินัย ต้องให้ปลัดมหาดไทยพ้นจากหน้าที่ก่อน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา และพี่น้องชาวภูเก็ตฝากบอกอีกว่า ทางภูเก็ตเตรียมจัดงานยิ่งใหญ่ ท่านใช้คำพูดอะไรกับเขา ท่านอย่าทำแบบนี้อีก อยากให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาให้เป็นข่าวดี เป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่" ทนายสงกานต์กล่าว
ทางด้าน นพ.สงวน คุณาพร ผู้ทรงคุณวุฒิ ชาวภูเก็ต เปิดเผยผ่านกลุ่มไลน์ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตต่อเรื่องดังกล่าวว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวฝากผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ตไปยังผู้ว่าราชการ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ว่าให้ภูเก็ตถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ Specialized Expo คำพูดอันอหังการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการตำหนิการบริหารงานที่จังหวัดไม่ประสบผลสำเร็จในการจัดการเรื่องขยะ เป็นเพียงแค่วาทกรรมของผู้บังคับบัญชาต่อผู้ใต้บังคับบัญชา อีกทั้งในการประชุมเดียวกันยังมีการบริภาษยกตนข่มท่านต่อข้าราชการบางคน ทั้งนี้ คงต้องยกพระบรมราโชวาทของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานไว้ในหลายๆ โอกาสมาเตือนสติแทน ในการครองตน ครองคน และครองงาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไชยันต์' ตั้งปุจฉา 'ไม่มีสมบูรณาญาสิทธิราชก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง'
ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่มีสม
'ไชยันต์' ยกกฎหมายฝรั่งเศสเทียบไทย ชี้แทรกแซงสถาบันมีโทษยุบพรรคตามกฎหมาย
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มารู้เรื่องการเมืองฝรั่งเศสกันครับ”
'ไชยันต์'แชร์ การยุบพรรคในฝรั่งเศส โดนมาแล้วเกือบ 100 พรรค โดยฝีมือรัฐบาล-ศาล
ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Chaiyan Cha
'เศรษฐา' เอาชัวร์ ถาม 'กฤษฎีกา-วิษณุ' รัฐมนตรีเสนอตั้งปลัดกระทรวงได้หรือไม่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามนายปกรณ์ นิลประพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า รัฐมนตรีสามารถชื่อปลัดกระทรวงเองได้หรือไม่ และมีอีกกระทรวงคือ
'มท.1' ไฟเขียว 'อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์' ขึ้นแท่นปลัดมหาดไทยคนใหม่
“อนุทิน” ไฟเขียว เสนอ ครม. 6 ส.ค.นี้ เห็นชอบ “อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ”เป็นปลัดมหาดไทยคนใหม่แทน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ที่จะเกษียณราชการในวันที่ 30 ก.ย.