หนุนโมเดลจีนประหารคนโกง

“บิ๊กตู่” ลั่น รัฐบาลไม่มีปกป้องคนผิด “วราวุธ” ยัน ทส.ไม่ปัดความรับผิดชอบ เกิดเหตุแล้วต้องเดินตาม กม. แจงเซ็นเด้งอธิบดีอุทยานฯ ช้ากว่านายกฯ เหตุติดภารกิจ ด้าน ป.ป.ป.ส่งหนังสือเรียกคนมีชื่อหน้าซองเงินในห้องทำงาน “รัชฎา” ให้ปากคำ ส.ส.ปชป.แนะเอาอย่างจีน เพิ่มโทษประหารชีวิต

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม มีการเผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 336/2565 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามคำสั่ง เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวต่อสาธารณะ กรณีได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใต้บังคับบัญชา ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมกับแจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาแล้วนั้น

“เพื่อให้การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานสามารถดำเนินการได้โดยเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง” คำสั่งระบุ

ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้กำลังใจในการทำงาน ให้ใช้กฎหมายและหลักการตัดสิน โดยขอให้ยึดมั่น ถือมั่น ถึงความโปร่งใสสุจริตในการทำงาน รัฐบาลไม่มีนโยบายปกป้องคนผิด ไม่คิดช่วยเหลือคนทุจริต

นายอนุชาระบุว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ถูกต้อง โปร่งใส เชื่อมั่นในการทำประโยชน์เพื่อชาติและประชาชน โดยนายกฯ ยึดหลักคุณธรรมความดีในการทำงานเสมอมา ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยสอดส่องดูแลไม่ให้มีการทุจริตในทุกวงการ เพื่อช่วยกันสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม เสริมสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ เป็นผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานของแต่ละหน่วยงานต่อไป

วันเดียวกัน ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวง ทส. โดยมีผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมการประชุม โดยนายวราวุธกล่าวระหว่างการประชุมว่า การประชุมในวันนี้ต้องการที่จะย้ำเตือนนโยบายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีก และต้องการที่จะให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ตั้งใจทำงานแก้ปัญหากันอย่างหนักหน่วง ทุ่มเทตลอด 3 ปีกว่า เมื่อเกิดปัญหาเราก็ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน ข้าราชการของ ทส.ของเรามีด้วยกันทั้งหมด 30,000 ชีวิต จะให้คิดเหมือนกันหมดคงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยการทำงาน การรักในองค์กร การรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรคือสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะความสุจริต ความโปร่งใส

นายวราวุธกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ประพฤติมิชอบของผู้บริหารระดับสูง ทส.ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เมื่อเกิดเหตุต้องดำเนินการทางวินัยตามกรอบของกฎหมาย ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และแจ้งให้สาธารณชนรับทราบถึงความคืบหน้าในเรื่องการทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ไม่หนีหายไปไหน ตนเชื่อมั่นในองคาพยพที่ชื่อว่า ทส. เราทำงานมาด้วยกัน 3 ปีกว่า เราสร้างศักยภาพ เราเห็นถึงความสามารถของเพื่อนๆ ข้าราชการ ในทุกๆ ระดับของ ทส. ผมเองยังมั่นใจและขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ข้าราชการทุกคนและผู้บริหาร

รมว.ทส.กล่าวว่า สำหรับการออกคำสั่งโยกย้ายการทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ ตนจะออกคำสั่งให้อธิบดีมาปฏิบัติราชการที่กระทรวง แต่นายกฯ ได้ออกคำสั่งลงนามให้ไปปฏิบัติที่สำนักนายกฯ ด้วย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาทำงานที่กระทรวงอีก ส่วนที่มีคนมองว่าเราออกคำสั่งล่าช้านั้น สาเหตุที่แท้จริงคือ ตนมีภารกิจที่สำคัญ จึงไม่ทันลงนามในคำสั่ง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่ตั้งมาจะพิจารณาในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง จะมีสอบ สืบสาวครบทุกคน ครบทุกมิติ ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้คุยกับนายรัชฎา ซึ่งปล่อยให้เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส ขอเน้นย้ำว่าทำทุกอย่างตามขั้นตอน เราเสียใจ และขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งหนังสือเชิญไปยังหน่วยงาน และบุคคลที่มีชื่ออยู่บนหน้าซองใส่เงิน และหัวหน้าหน่วยมาให้ปากคำชี้แจงในฐานะพยาน ซึ่งตรวจพบอยู่ในห้องทำงานของนายรัชฎา รวมถึงผู้ที่อาจมีข้อมูล ไม่ต่ำกว่า 20 คน มาให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งในนั้นมีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ส่งหนังสือเชิญทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 ธ.ค. ส่วนจะเข้ามาให้ข้อมูลเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ถูกเชิญว่าจะสะดวกมาเมื่อใด ในส่วนพื้นที่ห่างไกล ทาง บก.ปปป. ยินดีออกค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง หรือตั๋วเครื่องบินให้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังขอความร่วมมือให้พยานมาให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนด้วย เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหา ถือว่าเป็นการช่วยกันปราบปรามการทุจริต เพื่อให้เงินงบประมาณถูกนำไปใช้ให้ถูกทางในการพัฒนาและอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แทนที่จะต้องมาจ่ายส่วยให้กับผู้บังคับบัญชา โดยจะช่วยดูแลความปลอดภัยคุ้มครองพยาน หากมีการถูกข่มขู่จากการที่เข้ามาให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังมีการสืบสวนในทางเชิงลึกควบคู่กันไป ทั้งเส้นทางการเงิน เพื่อนำข้อมูลมาประกอบคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ชี้มูลต่อไป

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งก่อนเข้าสู่วาระเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงการแก้ปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ป.ป.ช.เข้าจับกุมอธิบดีกรมอุทยานฯ ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกลายเป็นสินค้าซื้อขาย เป็นโควตาผู้มีอำนาจ ต้องจัดระบบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการให้ถูกต้อง เป็นธรรมและโปร่งใส กฎหมายปราบทุจริตต้องเข้มข้นมากกว่านี้ มีบทลงโทษรุนแรง เช่น ประเทศจีนมีโทษสูงสุดประหารชีวิต

“ขอเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา กำหนดโทษผู้เรียกรับทรัพย์หรือรับผลประโยชน์ จากเดิมจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท เป็นจำคุก 15-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท หรือมีโทษประหารชีวิต และแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเพิ่มเติมให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวกับการทำความผิด รวมถึงแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 34 การให้รางวัลสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสตามระเบียบ” นายพิสิฐกล่าว

นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในกรมอุทยานฯ หากใครต้องการอยู่ในตำแหน่งสูงๆ ต้องจ่ายเงินที่เรียกเป็นกิโลกรัม โดย 1 กิโลกรัมเท่ากับ 1 ล้านบาท เรียกเก็บตั้งแต่ 5 แสน-20 ล้านบาท โดยเฉพาะอุทยานฯ ทางทะเลที่ทำเงินเป็นจำนวนมาก จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยเร่งกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่ต่างๆ

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 พรรคฝ่ายค้านจะเน้นไปที่จุดบกพร่องของรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมข้อมูลอภิปรายพร้อมเสนอแนะว่าควรทำอย่างไร จะมีการนำเรื่องการทุจริตของรัฐบาลมาฟ้องประชาชนให้รับรู้ถึงการทุจริตของรัฐบาล ที่อวดอ้างว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่ทุจริตนั้นจริงหรือไม่.