คุม‘เมียตู้ห่าว’สอบที่อสส. ‘ชูวิทย์’จี้เปลี่ยนตัวผบช.น.

ตร.คุม "พ.ต.อ.หญิง" เมียตู้ห่าว ไปสอบสวนที่สำนักงานอัยการสูงสุด   นำหุ้นส่วนคนสนิทตู้ห่าวและผู้ต้องหาอีก 6 คนไปสอบปากคำรายบุคคล "ชูวิทย์"  แถลงอีก ชี้สำนวนคดีหละหลวมไม่รัดกุมแจ้งข้อหาฟอกเงินช้า เป็นช่องโหว่ให้มีการยักย้ายทรัพย์สิน หวั่นซ้ำรอยคดี "หลงจู๊สมชาย" ขู่ ผบ.ตร.หากไม่เปลี่ยนตัวผบช.น.เก้าอี้สั่นแน่

 เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 ธันวาคม    ตำรวจ สน.ยานนาวาได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.หญิงวันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยาของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" ขึ้นรถควบคุมนำตัวไปสอบสวนที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี ย่านตลิ่งชัน โดยมีทีมทนายความและผู้ติดตามเดินทางมาร่วมฟังการให้ปากคำด้วย ซึ่งตำรวจวางมาตรการรักษาความปลอดภัยขณะเดินเข้าอาคารอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้นำตัว นางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา หุ้นส่วนคนสนิทของนายตู้ห่าว และผู้ต้องหาอีก 6 คน จาก สน.ต่างๆ ในเขต บก.น.6 มาร่วมสอบปากคำด้วย โดยจะเป็นการสอบปากคำรายบุคคล แยกออกเป็น 2 กลุ่ม ข้อหาฟอกเงิน จำนวน 5 คน ประกอบด้วย พ.ต.อ.หญิงวันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์,  นายฉัตรชัย ลาภอำนวยเจริญ, นายณัฐวุฒิ ศรีอ่อน, นายสิทธิกร ประภาจรัสวงศ์ และนางสุรัสวดี ทองเพิ่มพลอย ส่วนข้อหาสมคบฯ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย  นางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา, นายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง และนายสิทธิไพบูลย์ คำนิล

ทั้งนี้ สำหรับคดีร่วมกันฟอกเงิน และคดีนอกราชอาณาจักร อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุด ที่จะรวบรวมสรุปสำนวนคดี  จึงมีความจำเป็นต้องนำตัวผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินไปสอบสวนขยายผลเพื่อพิจารณาต่อไป ว่าเข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ การสอบปากคำในวันนี้เป็นการสอบปากคำโดยคณะทำงานชุดใหญ่ ซึ่งมีอัยการเป็นหัวหน้าชุดทำงาน มีพนักงานสอบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และตำรวจฝ่ายสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วม บันทึกผลสอบด้วย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการจับกุม พ.ต.อ.หญิงวันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยานายตู้ห่าว กับผู้เกี่ยวข้อง รวม 15 หมายจับ ในข้อหาฟอกเงิน 7 หมายจับ และสมคบคิดกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดจำนวน 8 หมายจับ โดยเมื่อวานสามารถจับกุมได้ทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย คดีฟอกเงิน 5 คน และคดีสมคบ 3 คน และในเช้าวันนี้ (25 ธ.ค.) จับกุมผู้ต้องหาคดีฟอกเงินได้เพิ่มอีก 1 คน ย่านบางบัวทอง ซึ่งยังเร่งติดตามจับกุมอีก 6 คนตามหมายจับ ทั้งนี้ ตำรวจมีหลักฐานเชื่อมโยงการฟอกเงิน และเป็นเรื่องต่อเนื่องจากคดียาเสพติดของผับจินหลิง

ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง เปิดแถลงข่าวอีกครั้งว่า  ขณะนี้การทำคดีของตู้ห่าวในข้อหาฟอกเงิน เป็นการสมคบคิดร่วมกันทำ มีการทำอาหารจานนี้ หรือสำนวนคดีมีความหละหลวม ไม่รัดกุม มีหลายประเด็นที่มีข้อสงสัย หากปล่อยให้สำนวนคดีนี้ไปถึงชั้นศาล ย่อมอาจเป็นช่องว่างให้ทางทนายความฝั่งจำเลยใช้ช่องเหตุแห่งความสงสัยต่างๆ สู้คดี ที่ผ่านมาตนออกมาพูดเรื่อง การเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหา โดยเฉพาะนายตู้ห่าวในเรื่องของการฟอกเงินมาตลอด แต่ทางตำรวจได้มีการดำเนินการ มีการปล่อยทิ้งระยะเวลาไปนานถึง 2 เดือน จึงจะเริ่มมีการแจ้งข้อหาดังกล่าว เมื่อวานนี้ ซึ่งในเรื่องของทรัพย์สินตนตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีการยักย้ายถ่ายเทไปแล้วหลายส่วน

นายชูวิทย์กล่าวว่า อยากให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ตอบคำถามสังคม คือการเข้าค้นรอบแรก วันที่ 26 ต.ค. ได้ของกลางจากจินหลิงและลีลา รวมยาเสพติดกว่า 4.5 กิโลกรัม แต่ไม่เข้าค้นคาร์วอช ทั้งที่เป็นบ้านเลขที่เดียวกัน ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่กลับมาค้นที่คาร์วอช อีกครั้งวันที่ 1 พ.ย. พบของกลางยาเสพติด 950 กรัม ทำไมจึงไม่ทำการค้นตั้งแต่วันแรกที่เข้าค้น เชื่อว่าคาร์วอชดังกล่าวเป็นคลังเก็บยาเสพติด ส่วนจุดที่ค้นในวันที่ 26 ต.ค. เป็นเพียงจุดขายปลีก การทิ้งไว้นานถึง 5 วัน เป็นช่องให้มีการยักย้ายถ่ายเทยาเสพติดออกจากพื้นที่  เป็นการจงใจทำให้เกิดสิ่งใดหรือไม่ และการเข้าค้นในวันที่ 1 พ.ย. ตำรวจพบหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพของนายเหมาหยาง ว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าว แต่ตำรวจกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ กับนายเหมาหยาง ทั้งที่สถานที่ดังกล่าวมีการตรวจพบยาเสพติด และกลับลงในระบบฐานข้อมูลของ สตช. ว่าไม่พบผู้กระทำความผิดในวันเข้าตรวจค้น

"ฝากถึง ผบ.ตร.ว่า หากไม่มีการเปลี่ยนตัว ผบช.น. เก้าอี้ ผบ.ตร.จะถูกเขย่าสั่นไหว จึงขอแนะนำให้ ผบ.ตร.สั่งให้มีการเปลี่ยนตัวและหาคนอื่นมาทำงานแทน เชื่อว่าสุดท้ายหากยังคงปล่อยให้ผบช.น.คนนี้เป็นผู้รับผิดชอบในการทำคดี จะเหมือนคดีของหลงจู๊สมชาย ที่ ผบช.น.คนนี้เคยทำสมัยที่เป็น ผบช.ภ.2 ซึ่งขณะนั้นมีการเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินอย่างเอิกเกริก แต่สุดท้ายศาลยกฟ้อง โดยให้เหตุผลถึงหลักฐานของทางตำรวจอ่อนเกินไป เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หลายเรื่องพบว่ามีความบกพร่องในสำนวนคดีอย่างมากมาย” นายชูวิทย์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง