วิษณุชี้ใช้รถกองทัพไม่ผิด ครช.ฟ้องฟันครม.กราวรูด

"วิษณุ" ยันแนวคิดนายกฯ เอารถทหารไปช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่ไปประกอบกิจการแข่งกับเอกชน ยันไม่ผิดกฎหมาย ด้าน "บิ๊กป้อม" ยืนยัน "บิ๊กตู่" คิดแล้วถึงทำ จับตา "คณะราษฎรไทย" ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาล รธน.ฟันนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องด้านพลังงานกราวรูด

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีแนวคิดนำรถทหารมาช่วยในภาคขนส่ง หากมีการประท้วงหยุดงาน จนถูกกระแสสังคมวิจารณ์อย่างมากว่า เตรียมการไว้ ยังไม่ได้นำมาขน ถ้าเขาหยุดก็ต้องช่วยประชาชนและผู้ประกอบการ

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจขัดข้อกฎหมาย รองนายกฯ ตอบว่า ไม่รู้ว่าขัดหรือไม่ขัด แต่เราต้องช่วยประชาชนไว้ก่อน "นายกฯ คิดแล้วถึงทำ"

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ถูก ยังไม่รู้ว่าขัดอะไรอย่างไร ทั้งนี้แนวคิดนี้ของนายกรัฐมนตรี เป็นเหมือนการนำรถของกองทัพไปบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือประชาชนตอนเกิดน้ำท่วม หรือไปใช้อพยพประชาชน ไม่ใช่การนำไปประกอบกิจการแข่งกับเอกชน ซึ่งการนำไปช่วยเหลือประชาชนสามารถทำได้​ และเคยทำมาหลายครั้งแล้วในทุกรัฐบาล

"แนวคิดดังกล่าว เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเปรยขึ้นมาว่าถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถ เจรจากับผู้ประกอบการรถขนส่งได้ก็ให้จราจรต่อไป แต่ถ้าพวกผู้ประกอบการเหล่านั้นหยุดเดินรถขึ้นมาทันที รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนหรือความเสียหายที่เกิดกับประชาชน" นายวิษณุกล่าว และยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า การนำรถราชการมาช่วยเหลือประชาชนไม่ใช่การประกอบการขนส่ง จึงไม่ผิดกฎหมาย และไม่อยู่ภายใต้บังคับ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่มีการนำรถบรรทุกทหารออกมาใช้งานขนส่งแม้แต่คันเดียว

ส่วนนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดนายกฯ กรณีให้นำรถทหารมาใช้ขนส่งทดแทน เหมือนเป็นการยั่วยุให้เพิ่มมาตรการกดดัน โดยยืนยันว่าที่นายกฯ พูดนั้น เพราะเป็นความหวังดีที่อยากจะช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการขนส่งต่างๆ หากรถบรรทุกประท้วงหยุดงาน ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น ไม่ได้พูดประชดใคร หรือยั่วยุอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นายกฯ ยังมองเห็นถึงศักยภาพของกองทัพที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กองทัพได้หารือถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และแนวทางปฏิบัติในการนำรถยนต์บรรทุกขนาดต่างๆ พร้อมกำลังพล เตรียมพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว เตรียมรถยนต์ทหารที่เหมาะกับด้านการขนส่งทางถนนประมาณ 3,700 คัน

นายเสกสกลยังขอให้หมอชลน่านอย่าตีความเจตนาของนายกฯ ผิด ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งมาโดยตลอด ล่าสุด ครม.ยังได้อนุมัติการกู้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท สำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตรแล้ว

"อย่ามาบิดเบือนเล่นการเมืองแบบแกล้งโง่ตีกินทางการเมืองอีกเลย ประชาชนเข้าใจในตัวนายกฯ ดีว่ามีความตั้งใจช่วยเหลือความเดือดร้อนประชาชนอย่างเต็มที่ และจริงใจแก้ปัญหาโดยลงมือปฏิบัติ นายกฯ ไม่เคยหยุดคิดช่วยเหลือประชาชนแม้แต่วินาทีเดียว หมอชลน่านควรหยุดใช้ปากและน้ำลายอันสกปรกแก้ปัญหาจะดีกว่า อย่าทำตัวเป็นลิ่วล้อสมุนนายใหญ่ ออกมาโจมตีรายวัน จะเสียภาพพจน์ความเป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทย ระวังจะสิ้นศรัทธาจากประชาชน จากภาพพจน์ที่เคยดูดี แต่จะกลับกลายจากเสียหมอเป็นเสียหมาไปในที่สุด" นายเสกสกลกล่าว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ในข้อเท็จจริง กองทัพบกเพียงแต่นำรถเหล่านี้มาเช็กสภาพ ตรวจความพร้อม เพราะรัฐบาลไม่ได้ใช้ทหารเพียงหน่วยเดียว ยังมีกระทรวงอื่นด้วย ขึ้นอยู่กับแผนงานของรัฐบาล หากได้รับมอบภารกิจ ยืนยันว่ารถปัจจุบันยังคงใช้งาน ในหลายภารกิจ เช่น ขนส่งคนไปฉีดวัคซีน งานจิตอาสาก็มี ทั้งขนของไปช่วยน้ำท่วม ช่วยภัยหนาว

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ในคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า ทางอนุกรรมาธิการฯ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาราคาน้ำมัน มีการเสนอแนวทางให้ทางกระทรวงพลังงาน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้กลับไปหารือ กันแล้วนำกลับมารายงานต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ อีกครั้ง คือ ลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลหรือน้ำมันปาล์มลง เพื่อทำให้ราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันดีเซล B7 ราคาถูกลง ให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาลดภาษีสรรพสามิต

ให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะไปปรับวิธีการบริหารกองทุนให้สามารถใช้กลไกของกองทุนมาช่วยในการปรับลดราคาดีเซลเพิ่มขึ้นจากเดิมลิตรละ 1.99บาท ให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปทบทวนนโยบายในการใช้เงินกองทุนน้ำมันไปในการชดเชยราคาแก๊ส LPG ที่เป็นภาระต่อกองทุนเป็นจำนวนมาก จนทำให้ความสามารถของกองทุนน้ำมันในการดูเเลและชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงานคณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา 48 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.), คณะกรรมการ กพช., คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.), รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, สำนักนโยบายและแผนพลังงาน ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน, กรมธุรกิจพลังงาน และอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน รวม 6 ราย จากกรณีร่วมกันกระทำการจัดการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 57(2) ที่กำหนดว่ารัฐต้องจัดการให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมจัดการและรับประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ แต่ที่ผ่านมาผู้ถืออำนาจรัฐตัดขาดโดยสิ้นเชิง ดังนั้น จึงยื่นเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องทั้ง 6 ราย กระทำการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่เป็นการเร่งด่วน.