กม.กัญชาอืด ผ่าน5มาตรา สภาล่มซํ้าอีก

พ.ร.บ.กัญชาฯ ยังไปไม่ถึงไหน จอดป้ายแค่มาตรา 7/4 ส.ส.พร้อมใจตัดวาระ 3 ประธาน กมธ.ย้ำกัญชาไม่กลับเป็นยาเสพติด สมาชิกรุมติงคำนิยาม  หวั่นถูกตีความนำไปใช้สันทนาการ   สหภาพพยาบาลวอนออกกฎหมายให้ชัดปกป้องเยาวชน

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ..... วาระสอง ต่อเนื่อง ในมาตรา 3 ที่กำหนดให้กัญชาและกัญชงไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบยืนตามคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ตัดมาตรา 3 ออกทั้งมาตรา ด้วยมติ 201 ต่อ 0 งดออกเสียง 31 เสียง

จากนั้นที่ประชุมสภาพิจารณามาตรา 4 คำนิยามในความหมายของคำต่างๆ ซึ่งกมธ.ได้แก้ไขเนื้อหา มีรายละเอียดที่สำคัญ อาทิ คำนิยามของคำว่า ผลิต โดยกรรมาธิการฯ ตัดคำว่า เพาะ ปลูก สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ออกจากคำนิยาม ทำให้เหลือเพียง การทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ สกัด เปลี่ยนรูป รวมถึงการแบ่งบรรจุ และรวมถึงการใช้เพื่อประโยชน์ในครัวเรือน ประกอบอาหาร และเพื่อใช้ประโยชน์จากราก ลำต้น หรือเส้นใย และได้เพิ่มคำว่า สื่อสารการตลาด ที่ให้หมายรวมถึงการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สร้างข่าว เผยแพร่ข่าวสาร ส่งเสริมการขาย การแสดง หรือการส่งเสริมการขายโดยใช้บุคคล เป็นการเฉพาะ หรือการตลาดในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อขายสินค้า บริการหรือสร้างภาพลักษณ์

ในการอภิปรายของ ส.ส. ส่วนใหญ่ท้วงติงต่อการแก้ไขของกรรมาธิการฯ เนื่องจากมองว่าการเขียนคำนิยามตามที่กมธ.กำหนดนั้น เท่ากับการเปิดช่องให้เกิดการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการแบบเต็มรูปแบบ อีกทั้งการตัดการผลิต ในส่วนของการเพาะ ปลูก ออกอาจจะมีผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงการกำหนดนิยามการขาย ที่กำหนดให้รวมถึงจำหน่าย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยนนั้น อาจทำให้ประชาชนต้องติดคุกได้ ทั้งนี้ ในการอภิปรายมาตราดังกล่าว มี ส.ส.สงสัยถึงการตัดมาตรา 3 ออกทั้งมาตราว่า เมื่อไม่มีมาตรานี้แล้วแปลว่ากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดใช่หรือไม่

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. ชี้แจงว่า ถ้าได้ดูร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ถึงมาตรา 95 จะพบว่า แยกเรื่องการจดแจ้งกับขออนุญาตเป็น 2 ส่วน จดแจ้งคือปลูกในครัวเรือน กัญชาไม่เกิน 15 ต้น กัญชงไม่เกิน 15 ไร่ คือการปลูกเองใช้เองอยู่ในครัวเรือนห้ามขาย แต่กรณีที่จะทำธุรกิจจะปลูกกัญชง 1,000 ไร่ ต้องขออนุญาต จะปลูกกัญชาที่ไม่ใช่ในครัวเรือนก็ต้องขออนุญาต ยืนยันว่าไม่ได้ละเลยพี่น้องประชาชน ส่วนเรื่องการนำเข้าส่งออก กฎหมายต้องเขียนให้ครอบคลุมทั้งหมด ส่วนเรื่องการเพาะปลูก แยกออกไปอยู่ในมาตรา 18 และการที่บรรดาผู้ต้องหาคดีถึงที่สุดถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำกว่า 7,000 คน คดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาล อัยการ พนักงานสอบสวนอีกเป็นหมื่นคดี ในคดีความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 เกี่ยวกับกัญชา ถูกปล่อยตัวออกหมด ถูกสั่งไม่ฟ้อง เหตุผลเพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว การที่สมาชิกอภิปรายกันทำให้ประชาชนสับสน

“ยืนยันว่าวันนี้กัญชาตั้งแต่ยอดจนถึงรากไม่ได้เป็นยาเสพติด สิ่งที่เป็นยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ก็คือสารสกัดที่มีค่าทีเอชซีเกิน 0.2% และขณะที่เรามีมาตรา 3 เราก็มีความเป็นห่วงว่าถ้าวันหนึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุขกลับไปบอกว่ากัญชาเป็นยาเสพติดอีก อย่างน้อยผู้ที่ได้ประกอบธุรกิจอยู่ หรือผู้ปลูกกัญชาอยู่เป็นล้านต้นตอนนี้ ก็จะต้องไม่เป็นยาเสพติด นี่คือสิ่งที่ห่วงใย เมื่อท่านทั้งหลายเข้าใจไปคนละทิศละทาง กมธ.ก็ขอตัดมาตรา 3 และต่อให้ไม่มีมาตรา 3 กัญชาก็ไม่ใช่เป็นยาเสพติด” นายศุภชัยกล่าว

จากนั้นที่ประชุมลงมติในมาตรา 4 เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก 117 ไม่เห็นด้วย 74 คน งดออกเสียง 65 คน ไม่ลงคะแนน 3 คน

อย่างไรก็ดี เมื่อการพิจารณามาถึงมาตรา 7/4 ปรากฏว่าสมาชิกในห้องประชุมเริ่มบางตา โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม กดออดเรียกให้สมาชิกมาลงมติ แต่กลับมี ส.ส.ลงมติเพียง 214 ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 220 จากสมาชิกทั้งหมด 439 คน ทำให้นายศุภชัยสั่งปิดการประชุมเวลา 17.20 น.

ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ และเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย และนายสฤษดิ์ โชติช่วง ปราชญ์ชาวบ้านวัย 72 ปี เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกาะพะงัน ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ผ่าน น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และนายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เพื่อขอให้ลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ 

พ.ต.ท.หญิงฐิชาลักษณ์ ณรงค์วิทย์ ที่ปรึกษาสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอคัดค้านการตัดมาตรา 18 ประเด็นการให้ปลูกกัญชาในครัวเรือน ยืนยันว่า การปลูกกัญชาในครัวเรือนเป็นการบริบาลสุขภาพในช่วงเจ็บป่วยเล็กน้อย เมื่อปลดล็อกกัญชาแล้ว รัฐต้องหาวิธีคิดว่าจะควบคุมไม่ให้เยาวชนเข้าถึงจนได้รับผลกระทบ.