"ซานต้าตู่" ใจป้ำ! แจกของขวัญปีใหม่คืนความสุขประชาชนเต็มสูบ "ช้อปดีมีคืน ปี 66" ซื้อสินค้าบริการ 1 ม.ค.-15 ก.พ. เติมน้ำมันได้ด้วย ยกเว้นแค่ 10 ชนิด ให้เต็มพิกัด 4 หมื่นบาท ลดภาษีที่ดิน-ค่าธรรมเนียมโอน ตรึงราคาน้ำมันทุกชนิด 11 วัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ตามศักยภาพที่เรามีอยู่ ขอให้เข้าใจด้วย วันนี้เราต้องมีการพิจารณาใช้จ่ายงบประมาณมากพอสมควรในการดูแลหลายส่วนด้วยกัน ฉะนั้นสิ่งที่เราทำให้ปีนี้เราทำให้ได้มากที่สุด
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบมาตรการการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 66” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2566 โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน 30,000 บาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ และค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน 10,000 บาท ออกใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เช่น ค่าซื้อสินค้าและค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP แต่ไม่รวมถึงสินค้าและบริการ 10 ประการ ดังนี้ ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค.66 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 ก.พ.66 และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย ทั้งนี้ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 66” จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 56,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.16
2.มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 โดยลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี พ.ศ.2566 3.มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม ร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อสัญญา
4.มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย.2566 และ 5.มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มีการประเมินว่า 5 มาตรการภาษีที่เป็นของขวัญปีใหม่นี้ จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ราว 1.86 หมื่นล้านบาท แต่จะช่วยทำให้มีการจับจ่ายใช้สอย มีสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ประมาณ 2.78 แสนล้านบาท และมีผลทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปี 2566 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.76% จากคาดการณ์ปัจจุบันที่ 3.8% ส่วนมาตรการคนละครึ่ง ขณะนี้คงไม่มีแล้ว แต่อนาคตต้องไปพิจารณาดูกันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ โครงการกระตุ้นการใช้จ่ายที่ผ่านมา อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ เราไม่ทิ้งกัน หรือคนละครึ่ง ที่ผ่านมาใช้เงินจากการกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท แต่ตอนนี้เงินกู้ดังกล่าวจบไปแล้ว หลังจากนี้คงต้องปล่อยให้ระบบเศรษฐกิจทำงานตามกลไกมากขึ้น
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า โครงการช้อปดีมีคืน ปี 2566 นี้ จะเปิดให้ค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมันสามารถเข้าร่วมโครงการได้ด้วย โดยมีการประเมินว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการประมาณ 1.4 ล้านราย สูงเสียรายได้ 6.2 พันล้านบาท แต่จะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ 4.2 หมื่นล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมเปิดให้วิ่งฟรีทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ช่วงอำเภอปากช่อง-อำเภอสีคิ้ว-อำเภอขามทะเลสอ และยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และหมายเลข 9 และยกเว้นค่าผ่านทางทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก ระหว่างเวลา 0.01 น. ของวันที่ 29 ธ.ค. จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 ม.ค. 2566 ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ระหว่างเวลา 12.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.2565 ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.2566, เรือไฟฟ้า (EV Boat) จะให้บริการฟรี ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2565-1 มกราคม 2566, ลดค่าโดยสาร บขส. 10% ทุกเส้นทาง สำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วรถ บขส.ล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ ตรวจรถฟรี โดยกรมการขนส่งทางบก ตลอดเดือน ธ.ค.2565
ขยายเวลาการเดินรถเมล์ ในเขตกรุงเทพฯ ในเส้นทางที่ผ่านสถานที่จัดงานเคาต์ดาวน์ (Count Down) เช่น สยามพารากอน ไอคอนสยาม และเอเชียทีค ถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2566 ขยายเวลาเปิดให้บริการเดินรถของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.2566 และขยายเวลาให้บริการของอาคารและลานจอดรถ MRT ทั้ง 2 สาย ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จนถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.2566 บริการจอดรถฟรี ณ ลานจอดรถระยะยาว โซน C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต 29 ธ.ค.2565 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2566
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะดำเนินมาตรการตรึงราคาน้ำมันทุกชนิดในช่วงวันที่ 24 ธ.ค.2565-3 ม.ค.2566, เตรียมการขอขยายระยะเวลาคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG โดยกำหนดราคาขายปลีกอยู่ที่ 408 บาท/ถัง 15 กก. ตั้งแต่ 1-31 ม.ค. 2566, ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/3 เดือน และให้แก่ร้านค้าหาบเร่ จำนวน 100 บาท/คน/เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.2566, บริการตรวจสภาพรถโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงแจกส่วนลดครึ่งราคาที่พักที่เขื่อน กฟผ. จำนวน 30,000 สิทธิ์
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีมาตรการ 1.ซ่อมบ้าน สร้างสุข จำนวน 50,000 หลัง ให้บ้านของเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และครอบครัวผู้มีรายได้น้อย 2.บ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย 15,000 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านเช่า 1,500 บาทต่อเดือน (50 บาทต่อวัน) จำนวน 5,000 หน่วยของการเคหะแห่งชาติ และโครงการบ้านเช่าซื้อ จำนวน 10,000 หน่วย ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และ 3.สร้างอาชีพ สร้างรายได้ 15,300 คน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ
เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน
‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’
ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ
1ประเทศ2นายกฯ ระวังจบซ้ำรอยเดิม?
มีหลายส่วนในสังคม คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอึดอัดกับท่าทีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พ้นโทษออกมาโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ทำตัวเปรียบเหมือนเป็นเจ้าของรัฐบาล
กฤษฎีกายี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
จับตา ครม.ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 13 ม.ค.นี้