ภูมิใจไทยคึก! ชู‘หนู’นายกฯ จัดตั้งรัฐบาล

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

ภูมิใจไทยคึก ประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ชู "อนุทิน" เป็นนายกฯ ชื่อเดียว เผยยังมี ส.ส.ไหลเข้าพรรคอีกเพียบ ขณะที่ "ไพบูลย์" ยัน "ธรรมนัส" ไม่กลับพลังประชารัฐแน่นอนแล้ว แต่ยังมี ส.ส.เตรียมย้ายเข้าอีกกว่า 10 คน เพื่อไทยดาหน้ากัดฟันพลังดูดเสี่ยหนูไม่กระทบแลนด์สไลด์แน่นอน    การันตีพรรคไม่ใช้เงินเป็นตัวตั้ง

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565 นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลาออกจาก ส.ส.ของหลายพรรคการเมือง   และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย   เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ว่า ขอบคุณเพื่อนส.ส.ทุกท่านที่เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย จะเดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อประชาชน การลาออกและเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้  เป็นความสมัครใจของทุกท่าน ที่มีความพร้อม และเพื่อจะเดินหน้าทำงานในพื้นที่ร่วมกับประชาชน ชี้แจงแนวทางของพรรคได้อย่างเต็มที่

เขาบอกว่า มีเพื่อน ส.ส.อีกจำนวนหนึ่งที่จะมาร่วมกันทำงาน และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย แต่ยังมีภารกิจก็ยังไม่ได้ลาออก และไม่ได้มาเมื่อวานนี้ แต่พรรคไม่ได้บังคับหรือมีเงื่อนไขว่าต้องลาออกเมื่อวานนี้ แต่ได้มีการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองช่วงใกล้ครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร และช่วงปลายรัฐบาล ซึ่งทุกคนที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา จะประมาทไม่ได้

"พรรคภูมิใจไทยมีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน เมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็จะทำงานให้ประชาชนได้มากขึ้น ตามแนวทางของพรรค ซึ่งเป็นพรรคคนทำงาน การเลือกตั้งครั้งต่อไป หากประชาชนให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย เราก็พร้อมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี"

เขากล่าวว่า การเสนอแคนดิเดตผู้จะเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยมีแนวทางชัดเจนมาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วว่า พรรคจะเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เพราะเห็นว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรจะมีเพียงชื่อเดียว ไม่ต้องมีตัวสำรอง แม้กฎหมายจะอนุญาตก็ตาม แต่พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าเราต้องแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ เนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีเพียงตำแหน่งเดียว พรรคควรจะเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมที่สุดเพียง 1 คนเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะใช้ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งอย่างไร ก็เป็นสิทธิของพรรคการเมือง และเป็นการพิจารณาของประชาชน" นายภราดรกล่าว

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองที่มี ส.ส.ย้ายพรรคอย่างคึกคักว่า สำหรับ ปชป.ได้เตรียมหาผู้สมัครเพื่อทดแทนคนที่ออกไปอยู่กับพรรคอื่นแล้ว ไม่ได้มีความกังวล และเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อเป้าหมายใหญ่ของพรรคที่กำหนดไว้เดิม เพราะพรรคมีเป้าหมายชัดเจนว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่เป้าหมาย

เมื่อถามว่า จากการที่มีพรรคการเมืองเริ่มแบ่งขั้วกันทั้งที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ในส่วนของ ปชป.ได้พูดคุยกับพรรคร่วมถึงจุดยืนภายหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่ได้มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยตอบไปแล้วว่าต้องนับหนึ่งที่ประชาชน  เราไปนับหนึ่งก่อนประชาชนไม่ได้ เพราะระบบนี้ประชาชนต้องเป็นคนให้คำตอบเป็นคนแรกว่าได้ให้เสียงกับพรรคการเมืองแต่ละพรรคจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งนั่นคือเจตนารมณ์ที่ประชาชนต้องการจะเห็นว่าได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลต่อไป เราจะไปตอบก่อนชาวบ้านไม่ได้ เพราะเท่ากับว่าเราไม่เคารพเสียงประชาชน ทั้งหมดประชาชนต้องเป็นคนให้คำตอบก่อน

ถามว่าจากที่มีการปล่อยข่าวถึงการโค่นล้มหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้มีความชัดเจนอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เผยว่า พรรคไม่ได้มีปัญหา ทุกท่านออกมาปฏิเสธชัดเจนแล้ว ตั้งแต่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  เลขาธิการพรรค, นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และรองหัวหน้าคนอื่นๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และพร้อมที่จะจับมือกันอย่างเป็นเอกภาพในการที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคต่อไป

'ธรรมนัส'ไม่กลับพปชร.

"หลังปีใหม่ พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถเปิดตัวผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต เพราะพรรคตั้งเป้าหมายที่จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขตอยู่แล้ว ในสัปดาห์หน้าผมจะเดินทางไปเปิดตัวที่บางจังหวัดในภาคอีสาน ถัดจากนั้นจะได้ไปเปิดตัวในภาคเหนือด้วย" หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

ถามต่อว่า สำหรับ ส.ส.ที่ยังอยู่กับพรรค และยังมีพลังดูดจากพรรคการเมืองอื่นอีกด้วย ได้มี ส.ส.มาเล่าให้ฟังหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า คนที่มีความพยายามมาทาบทามที่จะดูดไปก็มาเล่าให้ฟัง เพราะฉะนั้นก็ทราบกันทั้งนั้น แต่คนส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดยังยืนหยัดอยู่กับพรรค มั่นคงอยู่กับพรรค ถึงมั่นใจว่าเป้าหมายเราไม่ถูกกระทบอะไร

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า นอกจาก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และนายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แล้ว จะมี ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นย้ายเข้าสู่พรรค พปชร.ประมาณกว่า 10 คน และยังมีผู้สมัครที่มีศักยภาพสูงกำลังเข้ามาเพิ่ม เพราะตอนนี้กระแสพรรค พปชร.ดีมาก ซึ่งแทบทั้งหมดที่มาล้วนเชื่อมั่นใน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.กว่า 10 คนที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองอื่น มาจากพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า ก็มีด้วย แต่ไม่ได้หมายถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตหัวหน้าพรรค ศท. ทราบว่าคงไม่มาพรรค พปชร.แล้ว ท่านมีแนวทางทำงานของท่านเอง คงไม่มาแน่นอนแล้ว

ถามย้ำว่า ส.ส.พรรค ศท.คนอื่นจะยังมาใช่หรือไม่ จากเบื้องต้นที่ยืนยันแล้ว 2 คน นายไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเบื้องต้น แต่ ส.ส.ของ ศท.ส่วนใหญ่ก็คงมา

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคภูมิใจไทยเปิดตัวอดีต ส.ส.จากพรรคต่างๆ เกือบ 40 คนเข้าพรรค หวั่นจะกระทบแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ไม่กระทบ การเลือกตั้งครั้งต่อไปแข่งกันที่นโยบาย ความเชื่อมั่นต่อพรรคและความไว้วางใจที่ประชาชนมีให้กับแต่ละพรรค เชื่อว่าเรื่องตัวผู้สมัครมีความสำคัญอันดับรองลงมา พรรคเพื่อไทยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทดแทนคนที่ออกจากพรรคไว้ทั้งหมดแล้ว พรรคเลือกแต่คนที่มีคุณภาพเข้ามาทำหน้าที่ทดแทน

"เชื่อว่าเมื่อว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่นำนโยบายของพรรคไปบอกกล่าวกับประชาชน ก็จะได้โอกาสเข้ามาทำหน้าที่ ไม่ว่าภูมิใจไทยจะเปิดตัวอย่างไร ไม่กระทบแลนด์สไลด์เพื่อไทยแน่นอน" นายสุทินกล่าว         

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นกันว่า  ไม่กระทบเป้าหมายแลนด์สไลด์ เพราะกลุ่มผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยเป็นคนละกลุ่มกับพรรคภูมิใจไทย แม้จะมีอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยย้ายไปภูมิใจไทยส่วนหนึ่ง แต่ข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่า ส.ส.ที่ย้ายไปนั้น ใช้ฐานคะแนนของพรรคส่วนใหญ่ในการเข้ามาเป็น ส.ส. คะแนนเหล่านี้ไม่ได้ตามตัวอดีต ส.ส.ไป เมื่อเรามีว่าที่ผู้สมัครคนใหม่เข้ามา คะแนนของพรรคก็จะไปอยู่ที่ผู้สมัครคนใหม่เหล่านั้น

เพื่อไทยไม่ใช้เงินเป็นตัวตั้ง

"วันนี้ประชาชนเข้าใจถึงระบบเลือกตั้งว่าจะส่งผลถึงอนาคตของตัวเองอย่างไร คะแนนจึงไม่มีทางย้ายตาม ส.ส.ที่ย้ายพรรคเปลี่ยนอุดมการณ์ และที่ผ่านมาเคยมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า ส.ส.ส่วนมากที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปอยู่พรรคการเมืองอื่นสอบไม่ผ่าน" เลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุ

เมื่อถามถึงกรณีนายอนุทินระบุ พรรคภูมิใจไทยเน้นตอกเสาเข็มที่มั่นคงกว่าแลนด์สไลด์ นายประเสริฐตอบว่า คำพูดดังกล่าวเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง ที่ทุกพรรคอยากสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกของตัวเอง พรรคเพื่อไทยคำว่าแลนด์สไลด์ไม่ได้เป็นเพียงวาทกรรมที่เรียกความเชื่อมั่น เพราะเราเคยทำมาแล้ว และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำได้อีกครั้ง เนื่องจากผลโพลที่ออกมาจากสำนักต่างๆ ชี้ไปทางเดียวกันว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกสนับสนุนพรรคเพื่อไทย

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับพรรค พท.ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย และเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนรู้ดีว่าคนที่ย้ายพรรค ย้ายเพราะสาเหตุใด ส่วนประชาชนจะไปต่อกับคนที่ย้ายพรรคหรือไม่ก็ไม่ทราบ พรรค พท.ไม่หวาดหวั่นต่อการที่พรรค ภท.กวาดต้อน ส.ส.เข้าพรรคเป็นจำนวนมาก เพราะพรรค พท.ไม่ใช้เงินเป็นตัวตั้งในการทำงาน ซึ่งพี่น้องประชาชนเข้าใจดี

เมื่อถามถึงการที่ ส.ส.แห่ลาออกและเตรียมย้ายพรรคกันช่วงปลายสมัยเป็นจำนวนมากเช่นนี้ จะเร่งบีบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รีบยุบสภาหรือไม่ เพราะท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์อยากจะขอลากยาวเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง นายสมคิดตอบว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลยังเหลืออยู่ประมาณกว่า 250 คน และฝ่ายค้านเหลืออยู่ประมาณ 190 คน ตนคิดว่าถ้ารัฐบาลยังเป็นเสียงข้างมากเกินครึ่งของสภาอยู่ ทุกอย่างจะยังเดินต่อไปได้ และรัฐบาลอาจไม่จำเป็นต้องยุบสภา แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลต้องพึงระลึกถึงเสมอก็คือ กฎหมายที่เป็นของรัฐบาล และหากรัฐบาลอยากอยู่ต่อ ต้องระดมสมาชิกของรัฐบาลมาเป็นองค์ประชุมให้ได้

"เรื่องนี้อย่ามาโทษฝ่ายค้านว่าไม่อยู่เป็นองค์ประชุมให้ เพราะฝ่ายค้านจะช่วยเฉพาะงานส่วนของสภา ไม่ทำให้ฝ่ายรัฐบาล หาก พล.อ.ประยุทธ์อยากจะอยู่ต่อและอยู่ยาว ก็อยู่ที่การประชุมสภาด้วย หากสภาล่มบ่อยๆ ตนก็เห็นว่าไม่สมควรจะอยู่ เพราะจะส่งผลให้สภาขาดความน่าเชื่อถือไปถึงรัฐบาลด้วย"

ทำให้ล่มทุกสัปดาห์ยังได้

เมื่อถามถึงกรณีนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ออกมาระบุว่าวิปรัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่คุมองค์ประชุมทั่วไป แต่มีหน้าที่ควบคุมองค์ประชุมและการโหวตกฎหมายที่สำคัญ ทั้งย้ำว่าไม่ได้ผิดพลาดจนทำให้สภาล่ม แต่โทษว่ามีการเล่นเกมการเมือง นายสมคิดกล่าวว่า ถ้าประธานวิปรัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ควบคุมองค์ประชุมของรัฐบาล ก็อย่ามีประธานวิปรัฐบาล ให้แต่ละพรรคต่างคนต่างทำไปเลย ยืนยันว่าไม่มีเรื่องเกมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเป็นเกมการเมืองจริงจะทำให้ล่มทุกสัปดาห์ยังได้ แต่ฝ่ายค้านเล็งเห็นถึงการทำงานของสภา จึงพยายามรักษาองค์ประชุมไม่ให้ล่ม หากเป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ฝ่ายค้านมีความชัดเจนและไม่มีการปิดบัง ยกตัวอย่างกรณีการโหวตลงมติมาตรา 9/1 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.…. ซึ่งเป็นกฎหมายของรัฐบาลและฝ่ายค้านโหวตชนะไปแล้วเพราะไม่เห็นด้วย เราบอกแกนนำวิปรัฐบาลล่วงหน้าให้ระดม ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมาเป็นองค์ประชุมเอง หากจะมองเป็นเกมการเมืองก็แล้วแต่จะคิด

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ เพื่อแก้ไขมาตรา 272 ที่ตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการโหวตตัวนายรัฐมนตรีนั้น ว่าพรรคเคยยื่นเสนอแก้ประเด็นนี้มาแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ การยื่นแก้ไขครั้งนี้น่าจะเป็นการยื่นครั้งสุดท้ายก่อนสภาครบวาระ ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่เสียงของสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ การยื่นแก้ไขเป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรค ที่เห็นว่ายิ่งกติกาสูงสุดเป็นประชาธิปไตยมากเพียงใด ประชาชนจะได้ประโยชน์มากเพียงนั้น และจะนำไปสู่การเมืองที่มั่นคงเข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นรากฐานของความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจต่อไป

เขากล่าวว่า มีคนถามว่าการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญทำไปเพื่อประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยเพื่อให้ชนะแบบแลนด์สไลด์หรือไม่ ตนมองว่าไม่เกี่ยวกัน พรรคจะชนะแลนด์สไลด์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน แต่การยื่นแก้ไขมาตรา 272 ที่จะให้เฉพาะสภาผู้แทนฯซึ่งสมาชิกมาจากการเลือกตั้งเท่านั้นเป็นผู้ให้ความเห็นชอบตัวนายกฯ นั้น คนไทยจะได้ประโยชน์อย่างน้อย 4 ประการ คือ 1) เป็นการคืนอำนาจให้คนไทยสามารถมีส่วนในการสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ที่ตนต้องการมากกว่าการให้ ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมีอำนาจให้ความเห็นชอบตัวนายกฯ 2)ทำให้ตัวนายกฯ สะท้อนเจตจำนงของคนไทยมากขึ้น ความกลมเกลียวทางการเมืองจะมากขึ้น 3) ทำให้การเห็นชอบตัวนายกฯ เป็นประชาธิปไตย และมีความสง่างามมากขึ้น 4) เป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศว่ามีกติกาที่เป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง เป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ดีไซน์เพื่อคนไทยทุกคน ไม่ใช่ดีไซน์เพื่อพวกเราตามที่มีคนเคยพูดไว้

แข่งกันอย่างมีศักดิ์ศรี

“วันนี้เราต้องก้าวข้ามตัวบุคคล และกติกาที่ไม่เป็นธรรมไปสู่หลักการที่ศิวิไลซ์และเป็นธรรม การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนไทยสามารถออกแบบกติกาที่เป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ ทุกพรรคการเมือง ทุกแคนดิเดตนายกฯ ถ้าต้องการมาทำงานให้บ้านเมืองก็มีสิทธิทำได้ แต่ควรอยู่ภายใต้กติกาที่เท่าเทียมเป็นธรรม แข่งกันอย่างมีศักดิ์ศรี แล้วให้ผลการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม เป็นตัวสะท้อนเจตจำนงของประชาชนว่าต้องการให้พรรคใดไปบริหารประเทศ ถ้าเป็นเช่นนี้ เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง การเมืองจะมั่นคง” นายนพดลกล่าว

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลพร้อมสนับสนุนแนวคิดพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 159 เกี่ยวกับที่มาของนายกฯ ที่ต้องเป็น ส.ส.จากพรรคที่เสนอชื่อและการยกเลิกมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เนื่องจากอยากให้นายกฯ มีที่มาและยึดโยงกับประชาชน หากนำไปสู่การแก้ไขได้จริงจะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่มี ส.ว. มาร่วมโหวตนายกฯ และเป็นกติกาให้กับทุกพรรคการเมืองได้แข่งขันกันอย่างเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นพรรคก้าวไกลยืนยันที่จะรับหลักการกับข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า หาก ส.ว.ยังมีส่วนในการโหวตเลือกนายกฯ จะเป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงของการโหวตเลือกนายกฯ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คำถามใหญ่ของสังคมคือ ควรมี ส.ว.ต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้ ส.ว.ยังไม่มีจุดเชื่อมโยงกับพี่น้องประชาชน ไม่ตอบโจทย์การปฏิรูปทางการเมือง และส่วนตัวเชื่อ ส.ว.จำนวนหนึ่งจะโหวตปิดสวิตช์ตัวเองเพื่อทำหน้าที่ในระบบปฏิรูปที่อยากทำมากกว่า

นายณัฐวุฒิยังกล่าวกรณีพรรคภูมิใจไทยว่า ส.ส.ของพรรค ก.ก.ที่ย้ายไปอยู่พรรค ภท. เป็นรายชื่อเดิมที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว และแสดงความประสงค์ที่จะย้ายไปอยู่กับพรรค ภท.อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบ เพราะประชาชนจะเป็นผู้พิจารณาว่าคนเหล่านั้นจะได้รับการเลือกตั้งในครั้งหน้าหรือไม่ เราเชื่อมั่นว่าสมาชิกของพรรค ส.ส.ที่มีอยู่ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่วางตัวไว้ ก็จะไม่ย้ายไปอยู่กับพรรค ภท.เพิ่มอีก เราไม่มีความกังวล เพราะมีจุดยืนว่าในทุกเขตเลือกตั้งคือโอกาสของพรรค ก.ก. ที่จะขายนโยบายและความคิดให้กับพี่น้องประชาชน

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ สภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้มีผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง

เนื่องจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.65 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลง ตามมาตรา 101(3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560     อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน ดังนี้

พรรคประชาภิวัฒน์ นายรองรักษ์ บุญศิริ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทนนางนันทนา สงฆ์ประชา, พรรคเพื่อชาติ นางบุศริณธญ์ วรพัฒนานันน์ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทนนายอารี ไกรนรา,  พรรคประชาธิปัตย์ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทน ศ.กนก วงษ์ตระหง่าน, พรรครวมพลัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว

วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์