สั่งพรรคร่วมรบ.ห้ามสภาล่ม

"ประวิตร" ขอความร่วมมือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าประชุมสภาทำหน้าที่ผู้แทน ปชช.อย่างมีเกียรติ อย่าให้องค์ประชุมสภาล่มอีก อ้างปลายสมัยแล้ว ส.ส.ซีกรัฐบาลยอมรับหวั่น ส.ส.แห่ตบเท้าลาออก กระทบองค์ประชุม-คุมเสียงโหวต ส.ส.พท.สงสัย ภท.ให้ ส.ส.ลาออกเยอะจงใจทิ้งร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ หรือไม่ ขณะที่เครือข่ายประชาชนฯ ออกบัตรเชิญ ส.ส.เข้าประชุมสภาพิจารณา พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้แล้วเสร็จ          

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนเริ่มการประชุม พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมักเกิดปัญหาสภาไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการพิจารณาเรื่องต่างๆ ได้ จึงขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมผ่านไปยัง ส.ส.ของพรรคทุกท่าน  ให้เข้าร่วมประชุมสภาโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนอย่างมีเกียรติ ในการร่วมกันพิจารณา หารือ และผ่านกฎหมายที่สำคัญ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติโดยรวมต่อไป

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรยังได้กำชับพรรคร่วมรัฐบาลถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือ ตอนต้นการประชุม และตอนกล่าวปิดประชุม ครม. ถึงเรื่ององค์ประชุมสภาว่า  “ขอย้ำเรื่ององค์ประชุมสภา อย่าให้ล่ม เพราะปลายสมัยแล้ว ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลให้ความร่วมมือกันอย่างพร้อมเพรียง ให้การประชุมสภาเป็นไปด้วยดี ให้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย ขอให้ทุกคนช่วยกัน อย่าให้ล่มอีก เพราะนี่มันก็ปลายสมัยแล้ว”

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีความเป็นห่วงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ จะมีการประชุมพรรค ชทพ. จะกำชับ ส.ส.ทุกคน เนื่องจากในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ สมาชิกจะมีกิจกรรมในพื้นที่เยอะ โดยเฉพาะในปีนี้เพิ่งพ้นจากสภาวะโควิด-19 มา ทำให้ ส.ส.แต่ละคนจะมีกิจกรรมและภารกิจในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ยิ่งใกล้ช่วงเลือกตั้ง การไม่ใกล้ชิดกับประชาชนเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง แต่ตนจะกำชับให้ ส.ส. เข้าร่วมประชุมสภา ส่วนเรื่องอุบัติเหตุทางการเมือง ขอย้ำว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนที่มีอำนาจในการยุบสภา ส่วนจะยกเมื่อไหร่นั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ตนเห็นว่าการเข้าร่วมประชุมสภาถือเป็นภารกิจที่สำคัญ เป็นหน้าที่หลักของ ส.ส.

ที่รัฐสภา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 14 ธ.ค. ที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... อาจมีปัญหาองค์ประชุมสภาล่มว่า ทราบมาว่ามีความเป็นไปได้จะมี ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลเตรียมตัวลาออก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อองค์ประชุมสภาแน่นอน แต่สิ่งที่ตนพยายามเรียกร้องมาตลอดไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้าน แต่ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลด้วยว่า หากเปรียบสภาตอนนี้ก็เหมือนบ้านของเรา กินข้าวหม้อเดียวกัน และเป็นช่วงปลายสมัยของรัฐบาลชุดนี้ จึงขอเชิญชวน ส.ส.แต่ละคนให้มาร่วมประชุมสภา แต่ก็เข้าใจบริบทของแต่ละคนว่าเป็นห่วงพื้นที่ หากไม่ได้เจอประชาชนในช่วงนี้จะมีผลกระทบต่อการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า

นายอรรถกรกล่าวต่อว่า ได้พูดคุยกับนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งท่านก็มีความเข้าใจการทำงานของสภา ตนเรียนไปตรงๆ ว่าตอนนี้อยากให้มองเรื่องการเมืองไว้ทีหลัง และขอให้เป็นเรื่องนอกสภา ส่วนในสภาเราเป็น ส.ส.ก็มาหาทางออกร่วมกันดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้สภาเดินหน้าไปได้ ส่วนยุบสภาหรือไม่ อำนาจไม่ได้อยู่ที่สภา  ตอนนี้เราเหลือ ส.ส.อยู่กว่า 470 คน ไม่มีใครมีอำนาจยุบสภา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ ส.ส.ต้องมาร่วมกันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะกฎหมายแต่ละฉบับที่จะพิจารณา หากช้าไปคนที่เสียประโยชน์คือประชาชนและประเทศชาติ ตนยังได้พูดคุยกับวิปรัฐบาลแต่ละพรรคว่าหลังจากนี้จะคุยกับฝ่ายค้านบ่อยๆ เพื่อหาทางออกสำหรับกฎหมายต่างๆ ที่เราเห็นตรงกันก็จะนำมาพิจารณาให้มากที่สุด

เมื่อถามว่า หากองค์ประชุมสภาล่มบ่อยๆ คิดว่าจะเป็นปัจจัยทำให้นายกฯ นำมาพิจารณายุบสภาหรือไม่ นายอรรถกรกล่าวว่า ตอบแทนนายกฯ ไม่ได้ แต่เชื่อว่านายกฯ พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วน ครม.ก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และอยากเห็นสภาทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเหมือนกัน ถ้าอยากให้ประเทศเดินข้างหน้า แต่ละฝ่ายก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาในสัปดาห์นี้ว่า เราเลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชงฯ ให้มาพิจารณาก่อน ในการประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ก็จะมีการคุยกันว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมาตราใด และเท่าที่ฟังดู พรรคอื่นก็ไม่สนับสนุนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสันทนาการทั้งหมด พรรคเพื่อไทยก็ประกาศมาโดยตลอดว่าจะสนับสนุนมาตราที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ สำหรับแนวโน้มในวาระ 3 หลายพรรคก็เผยว่าจะไม่รับ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้ชี้แจงว่าหากยังไม่มีการแก้ไขหรือปรับปรุงเราก็จะไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่า การประชุมจะดำเนินต่อได้หรือไม่ เพราะมี ส.ส.ลาออกเยอะ นายสมคิดกล่าวว่า การให้ ส.ส.ลาออกนั้น หมายความว่าพรรคที่เป็นเจ้าของร่าง พ.ร.บ.จะทิ้งร่างฉบับนี้หรือไม่ โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้ลาออกไปแล้ว 1 คน และคาดการณ์ว่าจะลาออกอีก 9 คน ซึ่งตนได้ถามเหตุผลว่าทำไมจึงรีบออก ไม่เป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมหรือ เขาก็ชี้แจงว่าต้องเตรียมออกไปใส่เสื้อสีใหม่ ซึ่งก็เป็นปกติ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรัฐบาลต้องควบคุมองค์ประชุม ขนาดคนที่จะลาออกทั้งหมดโหวตให้รัฐบาลยังเอาตัวไม่รอด แล้วคนที่ลาออกจากการเป็น ส.ส. และไม่มีสิทธิ์มาโหวต ถามว่ารัฐบาลจะคุมของตัวเองมาโหวตได้หรือไม่ ฉะนั้นต้องรอดูว่าในวันที่ 14 ธ.ค. คิดว่าจะเป็นปัญหาเกือบทุกมาตรา ทั้งนี้ หากสภาจะล้มก็ต้องล้มเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรายืนยันว่าหากมีเหตุผลที่ดีฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำงานไปด้วย แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช่จะมาโยนภาระให้ทั้งหมด ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงระดม ส.ส.ลาออก ตนคิดว่าองค์ประชุมมีปัญหาแน่นอน

เมื่อถามว่า พรรคที่เสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาใช่หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่ได้มองในจุดนั้น แต่มองว่ารัฐบาลอาจจะแพ็กกันอยู่ แต่ตนไม่เชื่อ เพราะฟังจากพรรคประชาธิปัตย์ พูดแล้วก็แปร่งๆ อยู่ โดยคนที่ลาออกส่วนมากก็เป็นคนของฝ่ายค้านอยู่แล้ว ไม่กระทบกับงานของรัฐบาล

วันเดียวกัน น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื้อหาในร่างกฎหมายกัญชาฉบับนี้ขัดต่อกฎหมายยาเสพติดระหว่างประเทศ เนื่องจากอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ.1961 กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด เท่ากับไทยในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกกำลังละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาดังกล่าว เพราะในมาตรา 3 ของร่างกฎหมายบัญญัติให้กัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติด ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดในโลกออกกฎหมายถอดต้นกัญชาหรือดอกกัญชาออกจากยาเสพติด การออกกฎหมายแบบนี้ จะเปิดช่องให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ

 “ถ้าเรายังไม่รีบแก้ไขด้วยความกล้าหาญในทางนโยบาย ผลกระทบที่ตามมาจะไม่สามารถประเมินได้ ทั้งผลเสียต่อระบบบริการสาธารณสุข ที่ต้องใช้งบประมาณในการรักษาผู้ป่วยจากการใช้กัญชาในทางที่ผิดมากขึ้น ไปจนถึงความปลอดภัยของเยาวชนและปัญหาสังคมที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรมมากขึ้น ซึ่งไม่คุ้มค่ากับผลดีทางด้านเศรษฐกิจที่มีการอ้างกันอยู่ในขณะนี้ ขอยืนยันประชาธิปัตย์คว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนปลอดจากกัญชา เราต้องไม่ทำบาป กล่าวอ้างบุญ ไม่ทำฮารอม เป็นฮาลาล จึงอยากวิงวอนให้ทุกคนช่วยกันคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ เลิกพูดถึงประโยชน์การเมือง หันมามุ่งที่อนาคตของชาติจะดีกว่า ส่วนกัญชาทางการแพทย์ ก็มาวางมาตรการกันต่อได้ เพราะไม่เคยคัดค้านในเรื่องนี้" น.ส.พิมพ์รพีระบุ

 ขณะที่ นายประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กออกบัตรเชิญ ส.ส.ประชุมสภาเพื่อพิจารณา พ.ร.บ.กัญชาฯ โดยระบุว่า เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งของประชาชนและประเทศชาติ ที่จะต้องมีกฎหมายระดับ พ.ร.บ.มาควบคุมกัญชา โปรดเว้นวาระทางการเมืองเอาไว้ก่อนเพื่อผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้มาบังคับใช้ จะเกิดสิ่งเหล่านี้ได้พวกท่านต้องมีวินัย ไม่โดดร่มจนสภาประชุมไม่ได้เหมือน 3 ครั้งที่ผ่านมา ประชาชนจะไปยืนให้กำลังใจท่านในการผ่านกฎหมายฉบับนี้ตั้งแต่ 8 โมงเช้าหน้ารัฐสภา

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกและกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ โพสต์ว่า ทางกรรมาธิการได้ทำหน้าที่ในการชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรให้ได้อย่างดีที่สุด อันเป็นหน้าที่สุดท้ายเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติแล้ว ส่วน ส.ส.เสียงข้างมาก จะลงมติเห็นชอบหรือแก้ไขรายมาตรา หรือจะเลือกไม่เห็นชอบกับกฎหมายของคณะกรรมาธิการฯ ทั้งฉบับ ก็เป็นอำนาจของสภา ส่วนประชาชนย่อมมีสิทธิที่จะพิจารณาการทำงานของ ส.ส.ทุกคน และมีสิทธิเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อสภา วันที่ 14 ธ.ค. จึงเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่จะตัดสินอนาคตของกัญชา กัญชง ว่าจะเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนได้หรือไม่ และจะเดินหน้า หรือถอยหลัง ย่อมต้องขึ้นอยู่กับ ส.ส.และเสียงเรียกร้องอันแท้จริงของประชาชนเท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ ไร้อำนาจเก่าไม่แตกแถว ผู้ว่าฯ ทำงานเกียร์ 10

'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ไม่แตกแถว ไร้ปัญหาฝ่ายการเมืองปะทะขรก.ประจำ ยันผู้ว่าฯ เข้าเกียร์ 10 ชี้ใครไม่สนองงานชาวบ้าน มีวิธีจัดการร้อยแปดพันเก้า