ผวา ‘ยุบสภาฯ’ ‘ชวน’ วอนส.ส. อย่าประมาท

"ประธานชวน" ดูบรรยากาศแล้วเสียว ผวายุบสภา เตือน ส.ส.เข้าประชุมพิจารณากฎหมาย อย่าประมาท  ไม่งั้นทุกอย่างที่ทำกันมาก็จะจบ "หมอวรงค์" รุกหนัก! เดินสายระดมรายชื่อเสนอร่างกฎหมายประชาชน แก้ไขเพิ่มเติมการคุ้มครองมาตรา 112 และห้าม ส.ส.ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาคดีม.112

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา   เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม ประจำปี 2565 นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกของทั้งสองสภา ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เข้าร่วมพิธี และนำพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคมพระบรมรูปต้นแบบพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว           

อย่างไรก็ตาม นายชวนกล่าวถึงการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2560 เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2565 ว่า นับตั้งแต่เลือกตั้งมา ในส่วนของรัฐสภาก็ไปได้ลุ่มๆ ดอนๆ แต่ก็ไปได้ และยังรักษากระบวนการนิติบัญญัติไว้ได้ แม้จะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมก็ตาม ช่วงต้นราบรื่นมาดี แต่ช่วงปลายนักการเมืองมีการเปลี่ยนพรรคการเมืองอยู่บ้าง และมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ซึ่งเป็นการตอบโต้กันจากกรณีที่ไม่ยอมรับรายงานของกรรมาธิการบางคณะ ก็หวังว่าสัปดาห์ถัดไป จะใช้เวลา 3 วันสุดท้ายของปีนี้ พิจารณากฎหมายที่ยื่นมาทุกฉบับให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ แต่ขออย่าประมาท เผื่อว่าการเมืองมีการเปลี่ยนแปลง แม้มีเวลา 2 เดือนเศษก็จริงแต่หากมีการยุบสภาขึ้นมา ทุกอย่างที่ทำกันมาก็จะจบ ไม่สามารถพิจารณาได้ จึงขอสมาชิกช่วยกันทำให้จบ เพราะดูแล้วบรรยากาศไม่ค่อยแน่นอน ไม่รู้จะยุบสภาหรือไม่

เมื่อถามว่า หาก ส.ส.ลาออกจำนวนมาก จะมีผลกับองค์ประชุมหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า หาก ส.ส.ทยอยลาออกจนองค์ประชุมไม่ครบ ก็คงอยู่ยาก แต่เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา การประชุมในช่วงตอนเย็นก็ครบองค์ประชุม เพราะทราบว่ามีการกำชับไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยให้คำแนะนำนายกฯเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้ส่งองค์ประชุมมาร่วมประชุม เพื่อให้กฎหมายที่ส่งแล้วได้ผ่านการพิจารณา เชื่อว่าแนวโน้มในสัปดาห์หน้าปัญหาจะน้อยลง

ส่วนกรณีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายชวนปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงแค่ว่า “ไว้โอกาสหน้า”

เช้าวันเดียวกัน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายชัยชนะ เดชเดโช (แทน) รองเลขาธิการพรรค ได้สวมเสื้อแจ็กเกตพรรค และมอบบัตรสมาชิกพรรคตลอดชีพให้กับ นายศิลป์ชัย สุนทรมัฏฐ์ หรือลูกหมี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช แทนที่ของ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ที่ตัดสินใจย้ายไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยนายชัยชนะระบุว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช จำนวน 8 คนเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีประชาชนชาวนครศรีธรรมราชได้มาสอบถามอยู่เรื่อยๆ ว่าเมื่อไหร่จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครคนที่ 9 ซึ่งทางตนและพรรคก็ได้ใช้ระยะเวลาพิจารณาอยู่พอสมควร จึงได้มีข้อสรุปว่า ทางพรรคจะส่งนายศิลป์ชัยที่ปัจจุบันเป็นเลขาฯ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ในเขตเลือกตั้งเดิมของ น.ส.พิมพ์ภัทรา  ซึ่งต้องรอ กกต.แบ่งเขตให้มีความชัดเจนเสียก่อน แต่คาดว่าน่าจะเป็นพื้นที่เดิมคือ อำเภอสิชล, อำเภอขนอม, อำเภอนบพิตำ และอำเภอพรหมคีรี   

พรรคไทยภักดี ร่วมกับภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบัน จัดเสวนา “เพิ่ม มากกว่าแก้ ม.112 ไม่คิดล้มล้างจะกลัวอะไร?” ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจโคราช จ.นครราชสีมา โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวว่า ขณะนี้มีสงครามยุคใหม่ คือสงครามยุคโซเชียลมีเดีย ใช้อาวุธที่เรียกว่าประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพมาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างสถาบันและยึดประเทศไทย

“ขณะนี้ ชาติมหาอำนาจกำลังพยายามที่จะเข้ามาครอบงำประเทศไทย แต่เขาทราบดีว่าจุดแข็งของประเทศไทยคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่จุดที่อ่อนคือความเลวร้ายของนักการเมือง พรรคจึงเดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อระดมรายชื่อเสนอร่างกฎหมายประชาชน แก้ไขเพิ่มเติมการคุ้มครองมาตรา 112 รวมถึงการแก้ไขประมวลจริยธรรมของ ส.ส. ห้าม ส.ส.ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ที่มีความผิดตามมาตรา 112 อย่างเด็ดขาด” นพ.วรงค์กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ นักวิชาการจากสถาบันทิศทางไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นที่เสนอให้แก้ไขว่า มี 3 ประเด็นคือ 1.เพิ่มความคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.คุ้มครองอดีตพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ และ 3.คุ้มครองพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ถึงความสัมพันธ์กับพรรค ก.ก. ในเชิงตัดพ้อเพราะเสนอหรือแสดงความเห็นในเรื่องใดไปก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากแกนนำพรรค ก.ก.นั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ว่า สิ่งที่นายปิยบุตรสะท้อน ยังเป็นสิ่งที่เราเห็นปลายทางตรงกัน และยังเห็นมุมมองความฝันที่ยังเป็นในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ ภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ต้องยอมรับว่าได้ทำให้บทบาทของอดีตแกนนำพรรค อนค.ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไม่สามารถมีบทบาทได้เหมือนเดิม จึงทำให้ในหลายเรื่องมีการเห็นตรงกันหรือเห็นไม่ตรงกันในรายละเอียด ยกตัวอย่างการปลดล็อกท้องถิ่นทางคณะก้าวหน้าและพรรค ก.ก.ยังมีอุดมการณ์ตรงกัน ที่ต้องขยับและทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

เขากล่าวว่า แกนนำคณะก้าวหน้าที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองยังสามารถมาสร้างภารกิจร่วมกันได้ตามกรอบที่กฎหมายอนุญาต แต่แน่นอนว่านายปิยบุตร และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คงไม่สามารถเข้ามาบริหารพรรค ก.ก.ได้.