"หมอหนู" กราบวิงวอนคนไทยรับวัคซีนโควิดให้ครบ 4 เข็ม ยกเคส "รมช.สธ." ติดแล้วอาการไม่รุนแรง ห่วงเดือนนี้เสี่ยงหนัก เหตุท่องเที่ยวมาก กิจกรรมเยอะ ต่างชาติเข้ามาอีก สั่งทุกจังหวัดจัดหน่วยเคลื่อนที่ฉีดให้ประชาชน กทม.รับยอดพุ่งเท่าตัว แต่ป่วยเล็กน้อย ยันยาเพียงพอ เปิดวอล์กอินบริการ รพ.ทั่วกรุง
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. ว่า ในที่ประชุมได้มีการยืนยันเรื่องของคนไทยทุกคนควรรับวัคซีนโควิด-19 ให้ครบ 4 เข็ม ตามมติจากที่ประชุมอีโอซี สธ. เพื่อประกอบอาชีพดำรงชีวิตได้ตามปกติ ยืนยันว่าใครรับ 4 เข็มแล้วมีความปลอดภัย แม้ติดเชื้อไม่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต แต่หากประสงค์รับมากกว่า 4 เข็ม สามารถทำได้ ขอให้แจ้งความจำเป็น เช่น เดินทางในประเทศที่สุ่มเสี่ยง มีการดำรงชีวิตที่จะต้องพบปะผู้คนจำนวนมากตลอดเวลา ให้บริการสาธารณะ ขนส่งต่างๆ ต้องดูแลลูกค้า บุคคลเหล่านี้มีสิทธิขอรับวัคซีนเพิ่มเติมมากกว่า 4 เข็มได้
สำหรับการมารับวัคซีนขณะนี้เป็นลักษณะวอล์กอิน ไม่ต้องลงทะเบียนเข้าคิวเหมือนเมื่อก่อน เพราะเป็นบูสเตอร์โดส แต่ใครที่ยังไม่ฉีดเลยขอให้มาฉีด เพราะยืนยันทั้งโลกแล้วคือโควิดจะคุกคามกับผู้ไม่ได้รับวัคซีนได้มากที่สุด และคนที่ไม่ได้รับวัคซีนยิ่งมีปัจจัยกลุ่มเสี่ยง 608 จะยิ่งเป็นอันตราย สุ่มเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิต แต่หากรับวัคซีนแล้ว โดยเฉพาะบูสเตอร์โดส จะไม่มีอันตรายเกิดขึ้น ใช้ชีวิตปกติได้ เป็นข้อพิสูจน์ยืนยัน ส่วนวัคซีนมีเพียงพอ สถานพยาบาลมีความพร้อมดูแล เพราะไม่แออัดเหมือนช่วงฉีด 2 เข็มแรก สามารถแวะก่อนกลับบ้าน หรือวันหยุด พักเที่ยงหรือลางานไปรับเข็มกระตุ้นได้
เมื่อถามว่า ได้มอบหมายอะไรเกี่ยวกับโควิดเป็นพิเศษในปี 2566 หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เน้นให้มีความพร้อมบริการวัคซีนแก่ประชาชน สามารถมารับที่โรงพยาบาล (รพ.) ได้ทุกระดับ ถ้าเป็นไปได้ขอให้ ผอ.รพ.ประสานนายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้การดูแลประชาชน ฉีดวัคซีนแล้ว 143-144 ล้านเข็ม ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าวัคซีนจะอันตรายใดๆ ไม่มีหลักฐานว่าแพ้อย่างมีนัยสำคัญ การนำออกไปฉีดประชาชน ไปตั้งเป็นเต็นท์เป็นบูธ พยายามสร้างความสะดวกประชาชนอย่างเต็มที่
"ขอให้ประชาชนมารับเข็มกระตุ้นจะเป็นประโยชน์มหาศาลมาก ตอนนี้เป็นเดือนสุดท้ายแล้วที่มีคนมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ผู้ประกอบการรับลูกค้าเพิ่มขึ้น มีกิจกรรมต่างๆ มีการเดินทาง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็เข้ามาด้วย เช่น อาจไปดูฟุตบอลโลกที่กาตาร์เสร็จอาจเข้ามาเที่ยว มาเช็กอัป หรือประกอบธุรกิจที่ไทยต่อ ก็มีความเสี่ยงนำเชื้อมาติด ถ้าเราฉีดวัคซีนแล้วก็ให้บริการดูแลได้ สามารถสร้างรายได้เป็นปกติ คือเหตุผลที่เราต้องขอกราบทุกคน วิงวอนให้มารับวัคซีนอย่างเต็มที่ อย่างรัฐมนตรีช่วย สธ. รับ 4 เข็ม พอมีอาการติดเชื้อก็ไม่มีอะไรที่รุนแรง วันนี้ท่านก็กลับบ้านแล้ว" นายอนุทินระบุ
ส่วนกรณีพบผู้ป่วยสายพันธุ์เดลตาครอนรายแรกในไทยนั้น นายอนุทินกล่าวว่า รายละเอียดยังไม่ได้ลงไปดู เพราะว่ามีกรมควบคุมโรคคอยบันทึกข้อมูลต่างๆ ทุกวันนี้ใช้มาตรการที่โควิดเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มีมาตรฐานควบคุมสถานการณ์ การสอบสวนโรคถ้าไม่ใช่กรณีผิดแผกแตกต่างทั่วไป
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิดว่า จากรายงานพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น จึงต้องปรับแผนและมาตรการเพื่อรับมือสถานการณ์ต่อไป ส่วนเรื่องยาและเรื่องวัคซีนยังมีเพียงพออยู่ ยังคงมีการฉีดวัคซีนในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เช่นเดิม และมีบริการฉีดตามศูนย์บริการสาธารณสุขด้วย โดยประชาชนสามารถเช็กจุดฉีดวัคซีนได้จากเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร แต่ที่จะเน้นคือเรื่องวัคซีน เพราะได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 รายไม่เคยฉีดวัคซีนทั้งคู่ จึงอยากเน้นย้ำว่าหากเคยฉีดวัคซีนมาเกิน 4 เดือนนั้น ต้องฉีดเข็มกระตุ้น
ด้าน น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แต่พอดูยอดผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มีอยู่ประมาณ 100 คน ไม่เกิน 200 คน แสดงว่ายอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยนอกที่มีอาการเล็กน้อย และสามารถรับยาแล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ดังนั้น กทม.จึงต้องจัดเตรียมยาไว้ให้เพียงพอ และให้ประชาชนสามารถเดินทางมารับยาได้อย่างสะดวก เช่น นำผลที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไปรับยาด้วยตนเอง หรือให้ญาติไปรับยามาให้ โดยติดต่อรับยาได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่งใกล้บ้าน และที่โรงพยาบาลในสังกัด กทม.และโรงพยาบาลอื่นที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีเตียงเพียงพอในการดูแลผู้ป่วย
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มสุดท้ายเกิน 3-4 เดือนแล้วให้ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลในสังกัด กทม. โดยจองผ่านแอปพลิเคชัน QueQ และ Walk in ทั้ง 11 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง และที่ศูนย์เยาวชน กทม. (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ต่อเนื่องช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ถึงเดือน ม.ค.66 ขณะเดียวกันได้จัดบริการเชิงรุกฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ป่วยและผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียงในระบบเครือข่ายศูนย์ส่งต่อเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน ในชุมชน ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ดูแล รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยและกลุ่มผู้สูงอายุที่ดูแลโดยผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ที่ผ่านการอบรมโดย ศบส. นอกจากนั้น ยังได้ประสานอาสาสมัครสาธารณสุขสำรวจกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังรับวัคซีนไม่ครบ เพื่อรวมกลุ่มและนัดวันลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ระยะนี้มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง และใกล้เทศกาลปีใหม่ ทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือประชาชนเข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการ DMHT และ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด และควรใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง หากอยู่ในพื้นที่แออัด โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มเด็กเล็ก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว
วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์