ตร.ทลายแก๊งแฮ็กเว็บรัฐ ปปส.ลุยยึดทรัพย์‘ตู้ห่าว’

"บิ๊กป้อม" จับมือ "เตีย บันห์" ร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามแดนไทย-กัมพูชา เน้นยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ "นครบาล" ทลายแก๊งแฮ็กเว็บไซต์หน่วยงานราชการกว่า 100 เว็บไซต์ นำไปใช้โฆษณาเว็บพนันออนไลน์ ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท "ป.ป.ส." บุกยึดเครื่องบิน "ตู้ห่าว" เลขาฯ รมว.ยุติธรรมย้ำขยายผลยึดทรัพย์ต่อเนื่อง

ที่โรงแรมดิแอทธินี กรุงเทพฯ วันที่ 25 พ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนนตรี พร้อมด้วย พล.อ.เตีย  บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 15 โดยเน้นย้ำสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้นในทุกระดับ และเห็นถึงความสำคัญของกลไกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา GBC ต่อความมั่นคงชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยจะเพิ่มความร่วมมือกิจกรรมทางทหาร รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติมากขึ้น เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงข้ามแดน รวมทั้งร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยไม่นำเงื่อนไขของเขตแดนมาเป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน

นอกจากนี้ ได้สนับสนุนให้หน่วยงานระดับอำเภอ จังหวัด ร่วมแก้ปัญหายาเสพติด โดยดำเนินงานหมู่บ้านคู่ขนานสีขาวและหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวชายแดน รวมทั้งร่วมปฏิบัติตามแผนแม่น้ำโขงปลอดภัย เพื่อควบคุมปัญหายาเสพติด  ซึ่งความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมดังกล่าว สะท้อนถึงพัฒนาการความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ปัญหาชายแดนที่มีมากขึ้นต่อเนื่อง

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. แถลงผลการทลายเว็บไซต์พนันออนไลน์ว่า เมื่อประมาณกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีตำรวจนครบาล (ศปอส.น.) สืบสวนพบมีแก๊งการพนันออนไลน์ได้ทำการแฮ็กเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ทำโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์

พล.ต.ต.นิติธรกล่าวว่า ปัจจุบันการให้บริการโฆษณาต่างๆ บนเว็บไซต์ google จะมีระบบตรวจจับและป้องกันการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย หากตรวจพบทางเว็บไซต์ google จะทำการบล็อกสัญญาณและปิดช่องทางการโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ google ทันที เว็บไซต์การพนันออนไลน์จึงอาศัยความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์หน่วยงานราชการที่ได้รับการตรวจสอบจากเว็บไซต์ google แล้วว่าเป็นเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ จากนั้นดำเนินการเข้าแฮ็กเว็บไซต์แล้วนำลิงก์เว็บไซต์การพนันออนไลน์เข้าไปฝังไว้ในเว็บไซต์หน่วยงานราชการที่ถูกทำการแฮ็ก จึงทำให้ประชาชนทั่วไปรวมถึงเยาวชนสามารถพบเห็นเว็บไซต์การพนันออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ google ผ่านเว็บไซต์หน่วยงานราชการจำนวนมาก

ทลายแก๊งแฮ็กเว็บราชการ

รอง ผบช.น.กล่าวว่า ศูนย์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีจึงได้ดำเนินการสืบสวน พบว่าขณะนี้มีเว็บไซต์หน่วยงานราชการจำนวน 115 เว็บไซต์ ถูกเว็บไซต์พนันออนไลน์จำนวนกว่า 50 เว็บไซต์นำลิงก์เข้าไปฝังไว้ พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.น.ในฐานะ ศปอส.น. ดำเนินการสืบสวนขยายผลและจับกุมแก๊งที่ก่อเหตุแฮ็กเว็บไซต์หน่วยงานราชการแล้วนำไปโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์ จนทราบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหากว่า 10 ราย เป็นผู้ดำเนินการแฮ็กเว็บไซต์และลักลอบจัดให้มีการเล่น ทำอุบายล่อ หรือช่วยประกาศโฆษณา ให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน บริเวณบ้านเลขที่ 97/43 ซ.คุณาลัย 9/4 ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตเทียนทะเล กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของตำรวจนครบาลจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลแขวงธนบุรี ลงวันที่ 23 พ.ย.2565

ต่อมาวันที่ 24 พ.ย.65 ศปอส.น.นำหมายค้นของศาลแขวงธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 97/43 พบผู้ต้องหาจำนวน 14 ราย กำลังลักลอบและประกาศโฆษณาให้กลุ่มลูกค้าเพื่อเข้าเล่นการพนันผ่านทางเว็บไซต์ www.betflix551.com จึงได้ทำการจับกุม พร้อมกับทำการตรวจยึดของกลางชุดคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย CPU จอคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวน 14 ชุด ซึ่งมีไว้ใช้สำหรับการโฆษณาเว็บไซต์การพนัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 15 เครื่อง

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลในความผิดตามพระราชบัญญัติ คอมพิวเตอร์ และพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป 

ด้านความคืบหน้าภายหลังจากที่นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน เข้ามอบตัวตามหมายจับคดียาเสพติด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลไม่ให้ประกันเกรงว่าจะหลบหนี จึงถูกส่งไปคุมขังที่สถานบำบัดพิเศษกลาง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว ถูกนำตัวเข้าเรือนจำและดำเนินการตามระเบียบปกติ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกอยู่ในแดนกักโรค จำนวน 5 วัน ตรวจผลโควิด-19 ผลเป็นลบ หลังจากเสร็จสิ้นแดนกักโรค จะต้องส่งต่อไปยังแดนกันชนอีก 5 วัน ก่อนที่จะจำหน่ายไปยังแดนต่างๆ เบื้องต้นจะส่งไปยังแดนความมั่นคงสูง เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด

“ยังไม่ได้รับรายงานว่านายตู้ห่าวได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ แต่ได้กำชับให้ปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะ ซึ่งในช่วงที่อยู่แดนกักโรคยังไม่สามารถให้ญาติหรือใครเข้าเยี่ยมได้ แต่หากทนายความมีความจำเป็นต้องพบ ก็จะให้ได้เพียงวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านั้น”อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว

ส่วน พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผู้อำนวยการสถานบำบัดพิเศษกลาง กล่าวว่า ตั้งแต่ที่รับนายตู้ห่าวเข้ามา ไม่ได้ดูมีความเครียดอะไรมาก แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง และเมื่อเข้ามานายตู้ห่าวได้มีการพยายามขอติดต่อญาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องอธิบายระเบียบการคุมขังให้รับทราบ และไม่อนุญาตให้ติดต่อ โดยในห้องกักโรคมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 คน และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลสอดส่องไม่ให้นายตู้ห่าวมีการพูดคุยกับบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ป.ป.ส.ลุยยึดทรัพย์ตู้ห่าว

วันเดียวกัน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ทำการยึดเครื่องบินของนายตู้ห่าวที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้เข้ายึดเครื่องบินที่ปรากฏชื่อนายตู้ห่าวในเอกสารจริง เพื่อนำมาตรวจสอบและให้นายตู้ห่าวชี้แจงที่มา ก่อนที่จะมีการขายทอดตลาดเหมือนกรณีอื่นๆ โดยเป็นหน้าที่ของทางสำนักงาน ป.ป.ส.ดูแลจัดการ

“เราไม่ได้ยึดเพียงแค่นี้ จะมีการยึดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก ขอให้ติดตามดูกันต่อไป จะมีการดำเนินการยึดทรัพย์อีกมากมายแค่ไหน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งชุด ป.ป.ส.กับทางชุดไพรีปราบยา ภายใต้การดูแลของ รมว.ยุติธรรม กระจายกันทำงานอยู่ ส่วนจะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ จะต้องมีการพิจารณากันอีกต่อไป" เลขานุการ รมว.ยุติธรรมกล่าว

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ส.อยู่ะหว่างการประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรอนำข้อมูลทางการสืบสวนคดีนายตู้ห่าวมาพิจารณา ส่วนการอายัดทรัพย์อื่นๆ เช่น บ้าน ที่ดิน เงินสด หรือทรัพย์สินมีค่าของนายตู้ห่าว ทาง ป.ป.ส.จะดำเนินการได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งรายการอายัดทรัพย์สินมาให้พิจารณา ภายใน 7 วัน คาดว่าจะได้รายงานฉบับนี้ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาทรัพย์สินแต่ละรายการว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณา

“หากพิจารณาทรัพย์สินรายการใดแล้วพบว่าเข้าข่าย ก็จะดำเนินการแจ้งเจ้าของทรัพย์ให้ทราบ โดยถ้าไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ ก็จะนำส่งรายละเอียดพร้อมสำนวนการอายัดทรัพย์ให้อัยการนำไปยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินการอายัดขายทอดตลาดต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี” เลขาฯป.ป.ส.กล่าว

ในส่วนความคืบหน้ากรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดของ พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผบก.น.6 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการเรียกรับสินบนแลกกับการปล่อยรถหรูของกลางในคดีผับจินหลิงของนายตู้ห่าว จำนวน 4 คัน มูลค่า 8 ล้านบาทนั้น

พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. ในฐานะกำกับดูแลงานด้านจเรตำรวจ กล่าวว่า ทาง บก.น.6 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเบื้องต้น และเรียกมาสอบปากคำแล้ว โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมคำให้การเพื่อสรุป และนำส่งให้คณะทำงานของระดับชั้น บช.น.พิจารณา

 “ตอนนี้ พ.ต.อ.ณัฐพลยังไม่มีความผิดทางวินัย และยังไม่มีความผิดทางอาญาอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบจะต้องตรวจสอบทางวินัยก่อน ส่วนการดำเนินคดีทางอาญาหรือไม่นั้น  จะเป็นการตรวจสอบทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ นำข้อมูลทั้งหมดไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญา ม.157 หรือไม่” พล.ต.ต.นิตินันท์กล่าว

ถามว่า หาก พ.ต.อ.ณัฐพลมีความผิด แล้วลูกน้องจะมีความผิดไปด้วยหรือไม่ รอง ผบช.น.กล่าวว่า อำนาจการปล่อยของกลางอยู่ในอำนาจของหัวหน้าสถานีที่ต้องเซ็นปล่อยของกลางได้ทันที หากข้อมูลเชื่อมไปถึงใครก็จะดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการฯ จะตรวจสอบทุกเรื่อง ทั้งคำให้การของคนให้ข้อมูล การเรียกรับผลประโยชน์ และเส้นทางการเงินว่าใครเป็นคนนำเงินมาให้ และนำเงินส่งต่อไปยังใคร  ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะตรวจสอบและเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบปากคำทั้งหมด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป