อยู่กันไปยันมี.ค.66 บิ๊กตู่ยํ้าหน.พรรคร่วม 2ป.เช็กชื่อส.ส.พปชร.

“ประยุทธ์” ยังเงียบปมย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ บอกกลางที่ประชุมครม. ขอมุ่งมั่นทำงานให้มากที่สุด พูดให้น้อย พร้อมระบุอยู่กันไปถึงมีนาคมปีหน้า “พีระพันธุ์” สยบข่าวบอกไม่มีใบสมัครแต่อย่างใด “สุชาติ” โพสต์เฟซลั่นนักเลงชลบุรีพร้อมลุยกับบิ๊กตู่ไม่ว่าที่ไหน “กลุ่มสามมิตร” อ้างข้อมูลเปลี่ยนแปลงใหม่ จะยึดแค่ความรักความชอบไม่ได้ ขอวิเคราะห์ก่อนกำหนดท่าที "ธรรมนัส" นัดถก ส.ส.ศท. “เพื่อไทย” พาเหรดเย้ย 3 ป.รู้ตัวรวมกันตายหมู่เลยแยกกันเดิน แค่สินค้าแบกะดินไร้คนเหลียวแล “ปชป.” ยันต้องเปลี่ยนแปลงรับสถานการณ์โวไม่แทงข้างหลังใคร

เมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ย. ยังคงมีความต่อเนื่องในกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าไปลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

โดยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถามเรื่องดังกล่าว และเมื่อถามย้ำว่าจะแถลงข่าวความชัดเจนเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบ เพียงแต่หันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่เดินตามมาด้านหลัง ได้ปฏิเสธตอบคำถามเช่นกัน

ภายหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ยังคงปฏิเสธตอบคำถามถึงวันประกาศท่าทีทางการเมืองที่ชัดเจน โดยกล่าวเพียงว่า “สวัสดีนะจ๊ะ ขออยู่ในบรรยากาศความสุขก่อนแล้วกัน”

และเมื่อถามว่า จะแยกทางกับ พล.อ.ประวิตรตามข่าวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม เช่นเดียวกับเมื่อถามว่าจะบอกวันชัดเจนการประกาศท่าทีทางการเมืองได้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่ และคำถามว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบเช่นเดิม และพยายามรีบเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที ด้วยสีหน้าปกติ

รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า มีรัฐมนตรีลา 4 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ADMM Retreat) และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 9 (ADMM-Plus) ที่เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ย., นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้ง ครม.ว่าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ได้ลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในนามนายกฯ ซึ่งเวลาจะสิ้นสุดเดือน มี.ค.2566 จากนี้จะมุ่งมั่นทำงานให้มากที่สุด และพูดให้น้อย เพื่อสร้างบรรยากาศที่ให้จะมีแต่สุข และสร้างสงบเรียบร้อยในประเทศอย่างเต็มที่

ขณะที่ช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมงานแก้ปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา และก่อนปิดการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ไทยถ่ายทอดสดครบ 64 แมตซ์ว่า “ช่วงนี้อยากให้รักษากลิ่นอายของความสุขไว้นะ เมื่อคืนผมก็ดูบอลเหมือนกัน ดูไปดูมา ดูจนถึง 6-2”  

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังการประชุม ครม. บรรดารัฐมนตรีได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ตึกสันติไมตรี โดยโต๊ะใหญ่มี พล.อ.ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะ และมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ,  นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ร่วมโต๊ะ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยเฉพาะนายอนุทินกับนายจุรินทร์ที่นั่งติดกันพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ซึ่งช่วงหนึ่งได้มีการสนทนาถึงบรรยากาศการเมือง รวมถึงการเลือกตั้ง ในลักษณะที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ครบเทอมในเดือน มี.ค.2566 ทำให้นายอนุทินพูดขึ้นว่า “ก็ไม่มีใครอยากเสียตังค์เร็วหรอก” พล.อ.ประยุทธ์จึงพูดขึ้นว่า “งั้นก็อยู่กันไปยันมีนาคมปีหน้า”

‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่เพชรบูรณ์

มีรายงานจากทำเนียบฯ แจ้งว่า ในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 11.45 น. พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเป็นประธาน KICK OFF มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 และมีกำหนดการกล่าวปราศรัยพบปะกลุ่มเกษตรกรและประชาชนประมาณ 10 นาที ก่อนเดินทางกลับในเวลา 12.45 น. ในวันเดียวกัน

สำหรับการไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์แล้ว ต้องจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เตรียมจะประกาศความชัดเจนทางการเมือง ทำให้มี ส.ส.แสดงความจำนงเดินทางมาต้อนรับเพื่อแสดงพลังในซีกของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะ จ.เพชรบูรณ์นั้นเป็นพื้นที่หลักของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ต่างจังหวัดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังมีแผนเดินทางไปต่างประเทศด้วย โดยมีกำหนดเดินทางเข้าประชุมเอเชีย-ยุโรป (ASEM) ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค.นี้

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวม รทสช. กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์เข้าเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 21พ.ย. ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ถ้ามีการสมัครเข้ามา ตนเองต้องเป็นผู้เซ็นรับรอง จึงยืนยันได้ว่านาทีนี้นายกฯ ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคแต่อย่างใด ซึ่งไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้ที่ให้ข้อมูลเหล่านี้ และหาก พล.อ.ประยุทธ์ สมัครสมาชิกจริง ใบสมัครต้องออกมาแล้ว จะมีเหตุผลอะไรที่ต้องมาปิดบัง

ส่วนนายสันติกล่าวเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบเลย เห็นแต่ข่าวในหนังสือพิมพ์ เดี๋ยวขอตรวจสอบก่อน เดี๋ยวตรวจสอบอีกที และเมื่อถามว่าในฐานะเลขาธิการพรรคยังยืนยันหรือไม่ว่าจะอยู่ช่วย พล.อ.ประวิตรต่อไป ไม่คิดไปไหนใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ในฐานะเลขาธิการพรรคยืนยัน แต่เมื่อถามอีกว่าแล้วในนามส่วนตัวยืนยันเหมือนกันหรือไม่ นายสันติยิ้มไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินเข้าห้องประชุม ครม.

ภายหลังประชุม ครม.นายสันติกล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ในวันที่ 24 พ.ย. ว่า ใช่ๆ นายกฯจะไปงานเกษตร และเมื่อถามว่าการลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้มีข่าวว่าจะประกาศย้ายไปอยู่กับพรรค รทสช.ทำให้ถูกมองว่าจะย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ไปด้วยหรือไม่ นายสันตินิ่งและไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนนั่งรถยนต์ออกไป

นายสุชาติ ชมกลิ่น​ รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. กล่าวเรื่องนี้ว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน ขอคุยกับผู้ใหญ่ก่อน และไปถามผู้ใหญ่ก่อน

ต่อมานายสุชาติโพสต์เฟซบุ๊กรูปภาพคู่ยกมือไหว้ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมข้อความว่า "ผมคนจริงใจ จิตใจนักเลง เป็นนักรบ บาดเจ็บบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติ ขออย่าให้ใครมานินทาว่าเอาแต่ได้ ถึงเวลาต้องแสดงความจริงใจ คนชลบุรีจิตใจ นักเลงจริง สมคำว่านักเลงเมืองชล ลุงตู่ปกป้องดูแลผมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี จะทิ้งลุงตู่ไปคนเดียว ผมจะเอาหน้ากลับมาบ้านได้อย่างไร เสียชื่อคนชลบุรีหมดสิครับ”

ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. และแกนนำกลุ่มสามมิตรกล่าวว่า ตอนนี้มีข้อมูลใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ จึงทำให้เราต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อตัดสินใจ การเมืองจะเอาเรื่องของความรักความชอบไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูให้ครบถ้วน เคยบอกว่าช่วงเดือนมกราคม 2566 แต่ตอนนี้ข้อมูลมันเปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว จึงทำให้ต้องดูข้อมูลกันใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้ประโยชน์กับประเทศสูงสุด

เมื่อถามว่า ปัจจัยที่ทำให้คิดใหม่คือเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะอยู่หรือไม่อยู่ และกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยที่จะเข้ามาหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องการเมืองทั้งหมด เราบูรณาการ เราจะไม่เน้นไปเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยภาพรวมทั้งหมดเราต้องวิเคราะห์ให้ถึงแก่นแกนของปัญหา และการก้าวเดินต่อไป ซึ่งการตัดสินใจไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันต้องมีข้อมูลให้ครบ

“มันกำหนดเวลาไม่ได้ เพราะตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างที่จะต้องดู การเมืองทั้งหมด” นายสมศักดิ์ย้ำเรื่องจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการตัดสินใจของกลุ่ม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. และแกนนำกลุ่มสามมิตร อีกรายกล่าวสั้นๆ ในเรื่องนี้ "ตอนนี้เราดูบอลโลกกันอยู่ครับ"

พปชร.เช็กชื่อ ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดในพรรคพลังประชารัฐว่า ได้มีการเช็กข่าวสอบถามถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่าจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันแกนนำของทั้ง พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โทรศัพท์เช็กชื่อ ส.ส.แต่ละคนว่าตัดสินใจที่จะอยู่กับใคร โดยส่วนใหญ่ยังคงสงวนท่าทีเพื่อรอความชัดเจนจาก พล.อ.ประวิตร ว่าจะเอาอย่างไรแน่ จึงยังไม่เปิดตัวหรือตัดสินใจ เพราะยังมีเวลา

ขณะเดียวกัน ส.ส.บางกลุ่ม รวมถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ที่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ได้ช่วยงานพรรคในการรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ยังรอดูท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ว่าจะกลับเข้ามาอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐอีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่ พล.อ.ประวิตรได้ไฟเขียวให้ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยกลับเข้าพรรคแล้วหลังไปต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ในระหว่างตรวจราชการ ที่จุดโครงการคลองส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันที่ 23 พ.ย. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัสได้เรียก ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยหารือเพื่อกำหนดทิศทางการเมือง

ทางด้านนายอนุทินกล่าวในประเด็นนี้ว่า ต้องถามนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร ตนไม่ได้อยู่ด้วย ตรงนี้ตัวใครตัวมัน ไปก้าวก่ายไม่ได้ คนระดับนายกฯ จะไปวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจได้อย่างไร ต้องเคารพด้วยซ้ำ

เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่าเป็นการแยกกันตี แต่จะแบ่งเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลไปด้วย นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีหรอก เลิกตีกันได้แล้ว รักกันดีกว่า พรรคภูมิใจไทยเวลาให้สัมภาษณ์หรืออภิปราย ไม่มีแดกดันใคร หรือจบด้วยคำพูดสร้างความเกลียดชัง หรือด้อยค่าใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ส่งสัญญาณหรือพูดคุยอะไรบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ไม่มีเลย สัปดาห์ที่แล้วก็ยุ่งอยู่กับการต้อนรับผู้นำที่มาประชุมผู้นำเอเปก และจะได้พบนายกฯ วันแรกหลังการประชุมเอเปกคือในการประชุม ครม.วันนี้ ส่วนการเมืองไม่มีอะไรก็ดำเนินไปทุกวัน เดี๋ยวก็ผ่านไปถึงเดือน และ มี.ค.2566 สภาหมดวาระ และภายใน 45-60 วัน ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง

ถามว่า สถานการณ์ตอนนี้จะอยู่จนครบวาระหรือยุบสภาก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้อะไรก็ได้แล้ว ถ้ายุบก็เชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรคพร้อม และเวลานี้ใกล้เดือน ธ.ค. และสภาจะหมดวาระในเดือน มี.ค.2566 ถ้าพรรคการเมืองไหนบอกว่ายังไม่พร้อม ก็คงไม่ต้องแข่งแล้ว คงไม่ทัน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวยุบสภาหลังประชุมเอเปก ว่า ไม่เคยได้ยิน ได้ยินจากที่สื่อพูดกัน โดยหากยุบตอนนี้ย่อมมีปัญหาแน่กับกฎหมายเลือกตั้ง แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ตัน

นายวิษณุยังกล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่ม ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกขับออกจากพรรค พปชร.จะกลับมาสังกัดอีกครั้งหรือไม่ในทางกฎหมาย ว่าเขาจะมา จะไป หรือไม่ไปพูดแล้วเขาไม่ได้มาแล้วจะเกิดความเสียหาย แต่ก็ทำได้ ขอขมา ขอโทษ เวลาจะกลับมาก็อ้างเหตุผลเพราะๆ หน่อย ซึ่งถือว่าทำได้ไม่แปลกประหลาดอะไร เคยแม้กระทั่งปรับ ครม.เอา ครม.ออก และนำชุดเก่ากลับมาเป็น ครม.ใหม่ แต่จะเกิดคำถามว่าแล้วปรับทำไม

เย้ยสินค้าไม่มีใครซื้อ

ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงประเด็นแยกกันเดินระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ว่าอย่าลืมว่าเขามาจากที่มาร่วมกัน 3 ป. ผูกมัดกันมาโดยตลอด แต่สถานการณ์ขณะนี้ถ้ารวมกันอยู่เราตายหมู่ กลยุทธ์ที่เขาใช้ต้องแยกกันตีแยกกันทำ แล้วมารวมกันเพื่อเป้าหมายหลัก อาจเป็นไปได้หากมีการหาทางลงให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอยู่ในอำนาจได้แค่ 2 ปี ถ้าเป็นสินค้าแล้วใครจะซื้อ ไม่ใช่สินค้าที่ไม่ยี่ห้อและเป็นแบรนด์เนมด้วย ไม่อยากจะพูดว่า แบกะดินก็ไม่มีใครซื้อ 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการ พท. กล่าวว่า  การแยกกันอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร ไม่มีเรื่องอะไรใหม่ พรรคไม่หนักใจ เรื่องนี้เปรียบเสมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่เท่านั้น

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยอมรับว่า การที่ทั้ง 2 คน ไปหรือไม่ไปด้วยกันก็มีผลทางการเมือง ถือว่าทำให้การเมืองของประเทศผันผวนได้ แต่ไม่มีผลอะไรกับฝ่ายค้าน  คงมีผลกับฝ่ายรัฐบาลเอง และสถานการณ์การเมืองโดยรวมของประเทศ การที่เขาแยกกันเดิน อาจจะทำให้มีการช่วงชิง ชิงรัก หักเหลี่ยมกันในรัฐบาล เป็นผลให้การเมืองไม่ราบเรียบ ประโยชน์ของประชาชนแทนที่จะได้ก็ไม่ได้ เพราะเล่นการเมืองแหลกลาญ จริงๆ แล้วเราก็อยากให้เขาไปด้วยกันเรียบร้อย เพื่อให้การเมืองเป็นขั้วที่ชัดเจน ประชาชนก็ไม่สับสน

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ โดยที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดงานนวัตกรรมเปลี่ยนกรุงเทพ ฟัง คิด ทำ โดยมีผู้บริหารพรรค ส.ส. อดีตส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร และสมาชิกพรรค ปชป. เข้าร่วมงานคึกคัก โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคระบุว่า คนในพรรคอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง และต้องให้ประชาชนยอมรับการเปลี่ยนแปลงของพรรค ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะควบคู่กับโอกาสและความคาดหวัง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าความซื่อสัตย์สุจริตจะอยู่คู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป สิ่งนี้จะยังอยู่คู่กับพรรค และถ้าไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ต่อให้พรรคอายุ 100 ปีก็ไม่มีความหมาย

"ขอให้คนรุ่นใหม่เปิดใจให้กว้าง แล้วดูว่าประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลงจริงหรือไม่ ผมยืนยันได้ขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์คบได้อย่างสนิทใจ เดินไปด้วยกันไม่ต้องระแวงกลัวจะโดนเสียบหลัง ขอโทษที นักเลงพอครับ ถ้าอยากเห็นประเทศไทยดีขึ้น ก็ขอให้มาช่วยประชาธิปัตย์" นายเฉลิมชัยกล่าว

ขณะที่นายจุรินทร์กล่าวว่า ถึงเวลาที่พรรคต้องเปลี่ยน โดยเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรไม่ดีต้องเปลี่ยน ส่วนอุดมการณ์พรรคไม่เปลี่ยน อุดมการณ์ของพรรคเกิดมาจากการฟัง คิด ทำ จึงทำให้พรรคอยู่ยั่งยืนยง ถ้าประชาธิปัตย์ไม่ฟัง ไม่คิด ไม่ทำ เราจะอยู่มาได้อย่างไรจนถึงวันนี้ เพียงว่าเวลานี้ต้องฟัง คิด ทำเพิ่ม เพราะปัญหาและความท้าทายเปลี่ยนไป หากพรรคไม่เปลี่ยนเราจะตามสิ่งเหล่านี้ไม่ทัน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการจะย้ายไปอยู่พรรคไหนกับใคราหรือไม่ ว่า "ไม่ไปไหน แต่ถ้าใครจะมาประตูก็เปิด"

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน พร้อมคณะได้แถลงข่าวเปิดตัวผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร 9 เขต  โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคภาคภูมิใจเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. จำนวน  9 คน หากรวมกับการเปิดตัวครั้งก่อนรวมเป็น 24 คน ทั้งหมดได้ผ่านกระบวนการสรรหาและคัดเลือกโดยกรรมการโซน กทม.และคณะกรรมการประสานงานพื้นที่ กทม.ก่อนเข้าสู่คณะกรรมการส่วนกลางของพรรค

นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงการวางตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคว่า ใครที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคัดสรร มีกฎเกณฑ์และกติกาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือใครต่างๆ ที่มีชื่ออยู่ในขณะนี้ตามสื่อมวลชน ส่วนการทาบทามนายเศรษฐานั้น ในกลไกของพรรคนั้น เรายังไม่มีการทาบทามอย่างเป็นพิธีการ 

เปิดชื่อชิงนายกฯ ก่อน 23 ม.ค.

เมื่อถามว่า จะเคาะรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคเมื่อไหร่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เวลาที่เหมาะสมในการเคาะรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้น กำลังพิจารณา ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เช่น ใกล้เวลาการเลือกตั้งก็อาจประกาศรายชื่อได้ ก่อน 23 มี.ค.2566 แต่หากมียุบสภาก่อนเราก็ต้องเร่งพิจารณา เพื่อให้ประชาชนร่วมกันพิจารณา

นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า จะใช้แนวโน้มการยุบสภาเป็นหลักว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อกำหนดการยื่นญัตติแล้วได้อภิปรายก่อนยุบสภา โดยเชื่อว่าต้นเดือน ม.ค.เขาก็ยังอยู่ จึงจะยื่นญัตติได้ไม่เกินวันที่ 15 ธ.ค. หรือกลางเดือน ธ.ค. เพื่อจะได้อภิปรายไม่เกินกลางเดือน ม.ค.2566 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหลังเทศกาลปีใหม่ 

 “ท่าทีทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วงก่อนเอเปกไม่ได้พูดอะไรเลย พอหลังเอเปกเริ่มมีการขยับท่าที เตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง แต่ขณะนี้เขายังไม่มีความพร้อม การยุบสภาต้องมีประโยชน์กับตัว พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด ฉะนั้นกลางเดือน ม.ค.2566 การยุบสภาก็คงไม่เกิด” นพ.ชลน่านกล่าว  

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการทาบทาม น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ หรืออ๋อม ดารานักแสดงตัวร้ายชื่อดังนั้น น.ส.สกาวใจเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ มีความชัดเจนในจุดยืนทางประชาธิปไตย ซึ่งรู้จักสนิทกับสมาชิกในพรรคหลายคน ได้ทาบทามไป แต่ท่านยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ อยู่ระหว่างการตัดสินใจ เราเคารพการตัดสินใจของ น.ส.สกาวใจ 

ขณะที่ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในโอกาสเปิดตัวที่ทำการใหญ่ พรรครวมแผ่นดิน เลขที่ 423 ถนนบอนด์สตรีท เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยผู้บริหารพรรคเข้าร่วมอย่างคึกคัก.