ปลื้มเอเปกดัน‘ศก.-ท่องเที่ยว’

รัฐบาลปลื้มประชาชนพอใจผลงาน "บิ๊กตู่" จัดเอเปกยิ่งใหญ่   กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ "จุรินทร์" ย้ำไทยประสบความสำเร็จ ได้ประโยชน์ทางอ้อมมูลค่ามหาศาล ผู้นำโลกช่วยเผยแพร่ Soft Power ไทย "ประวิตร" ขอบคุณหน่วยมั่นคงและภาค ปชช. ร่วมต้อนรับ-ดูแลการประชุมเรียบร้อยปลอดภัย "ผบ.ตร." ปิด กอร. ภารกิจบรรลุเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำเอเปกจากทุกเขตเศรษฐกิจได้ร่วมรับรองปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ค.ศ. 2022 รวมทั้งได้ร่วมรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG”  หรือ “Bangkok goals on BCG Economy” ซึ่งทั้งในช่วงระหว่างการประชุม และระหว่างการหารือแบบทวิภาคี ผู้นำเอเปกได้กล่าวชื่นชมความริเริ่มที่ประเทศไทยได้นำเสนอแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการประชุมครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะสร้างการเติบโตของประเทศ และตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกได้อีกด้วย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ มั่นใจว่าผลจากการที่ไทยเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเขตเศรษฐกิจเอเปกที่เพิ่งสิ้นสุดลงไป นอกจากผลดีระยะยาวจากการผลักดันเศรษฐกิจ BCG ที่สร้างความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาธุรกิจ MSMEs และการเชื่อมโยงการค้าผ่านเขตการค้าเสรีเอเปก (FTAAP) แล้ว ผลบวกที่จะเกิดขึ้นทันทีคือภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากตลอดช่วงเวลาการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปก โดยเฉพาะสัปดาห์การประชุมผู้นำระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.ที่ผ่านมา ไทยได้นำเสนอกิจกรรมต่างๆ เพื่อโปรโมตทั้งแหล่งท่องเที่ยว อาหาร ศิลปะการต่อสู้เช่น มวยไทย ให้เป็นที่รู้จักและสื่อต่างชาติได้นำไปเสนอต่อ ขณะที่กิจกรรมระหว่างเยือนประเทศไทยของผู้นำหลายประเทศ ก็ได้กระตุ้นให้แหล่งท่องเที่ยวของไทยอยู่ในความสนใจของชาวต่างชาติด้วย

 “นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่ากิจกรรมต่างๆ  ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ผู้นำเอเปก จะเป็นแรงส่งต่อภาคการท่องเที่ยวในทันที ผนวกกับระยะนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น คาดว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากจะเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทาง จึงขอให้ภาคธุรกิจผู้ประกอบการร่วมกันรักษาคุณภาพและมาตรฐานการบริการที่จะสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวกลับไปสู่จุดก่อนการระบาดของโควิด-19 เน้นคุณภาพและความยั่งยืน” น.ส.ไตรศุลีระบุ

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำหรับมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในระยะต่อไปนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการต่างๆ เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตั้งแต่มีการประชุมรัฐมนตรีการค้าและเศรษฐกิจ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้อย่างดียิ่ง แม้จะมีความท้าทายของภูมิรัฐศาสตร์โลก ไทยก็ได้ประสานความไม่ลงรอยระหว่างเขตเศรษฐกิจ จนสามารถผ่านพ้นไปได้ และในการประชุมระดับรัฐมนตรี และผู้นำ  รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยก็สามารถขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพฯ และผลักดันกรอบแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ให้ 20 เขตเศรษฐกิจยอมรับนำไปขับเคลื่อนต่อ เพื่อใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตและการตลาดมากขึ้น ซึ่งทุกเขตเศรษฐกิจให้ความสำคัญ เพื่อให้โลกมีความยั่งยืน

ผู้นำเอเปกชื่นชมไทย

"การประชุม APEC ครั้งนี้ ประเทศไทยยังได้ประโยชน์ทางอ้อมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล โดยเฉพาะ Soft Power ที่ผู้นำหลายเขตเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ผู้แทน และคณะทำงาน ได้เผยแพร่อัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งอาหาร มวยไทย สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งถนนเยาวราช วัดโพธิ์ เวทีมวยราชดำเนิน และรูปแบบการจัดงานที่สะท้อนความเป็นไทย ทำให้ทั่วโลกที่สนใจการประชุม APEC สามารถซึมซับอัตลักษณ์ได้ ผ่านการนำเสนอของสื่อมวลชนทั่วโลก จนสามารถสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามหาศาล เพราะสามารถดึงความสนใจได้มาก ทั้งนี้ ในการหารือร่วมกับผู้นำในหลายเขตเศรษฐกิจ ได้ชื่นชม ชื่นชอบ พอใจประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งการประชุมในปีหน้าสหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมต่อไป" นายจุรินทร์ระบุ

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความพอใจพร้อมชื่นชมและแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าว และหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งทหาร ตำรวจ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และภาคประชาชนทุกคน ที่ร่วมกันเตรียมการและทำหน้าที่ให้การต้อนรับ ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร รวมทั้งด้านการแพทย์ แก่ผู้นำและผู้แทนประเทศต่างๆ พร้อมคณะ ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมประชุมเอเปก 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นอย่างสมเกียรติและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรขอให้มีการประชุมสรุปบทเรียนการทำงานร่วมกัน ทั้งงานด้านการข่าวและด้านปฏิบัติการ ตั้งแต่ขั้นเตรียมการ จนจบภารกิจ เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นระบบการบริหารจัดการงานด้านความมั่นคงปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประเทศในอนาคตที่ประเทศไทยและคนไทยทุกคนจะร่วมทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพต่อไป

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมปิดกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย และการจราจร การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก ปี พ.ศ.2565 ระหว่างวันที่ 14-20 พฤศจิกายน 2565 ว่า ผลการปฏิบัติในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์การประชุม เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยและการจราจร ถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการประชุมครั้งนี้ ภาพรวมการใช้กำลังทุกภาคส่วน จำนวนกว่า 30,000 นาย การนำขบวนผู้นำเขตเศรษฐกิจ คู่สมรส และรัฐมนตรี จำนวนกว่า 508 เที่ยว ตลอดช่วงระยะเวลาการประชุม

วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ประเมินเอเปก กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,156 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อสอบถามถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยและประชาชนได้รับจากการจัดประชุมเอเปกในประเทศไทยต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 ระบุเกิดประโยชน์มากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 10.3 ระบุปานกลาง และร้อยละ 4.1 ระบุน้อยถึงไม่เกิดประโยชน์เลย

ประชาชนปลื้ม 'บิ๊กตู่'

ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.5 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อ  นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีผลงานจัดประชุมเอเปกในประเทศไทย ดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด ในขณะที่ร้อยละ 11.4 พอใจปานกลาง และร้อยละ 6.1 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 พอใจมากถึงมากที่สุด ต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทำหน้าที่หารือกับประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น และอื่นๆ ในการค้าระหว่างประเทศกับสินค้าไทย เช่น ข้าว กล้วยไม้ และอื่นๆ และเมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนในอีก 6 เดือนข้างหน้าต่อเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นกว่านี้ที่เป็นผลพวงจากการประชุมเอเปก ครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 22.7 เชื่อมั่นปานกลาง และร้อยละ 11.5 เชื่อมั่นน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย

ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโพลดังกล่าวว่า รัฐบาลขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มองเห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเททำงานอย่างหนักของนายกรัฐมนตรี ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนขับเคลื่อนการประชุมระดับนานาชาติ ที่เป็นวาระสำคัญของประเทศผ่านพ้นไปได้อย่างเรียบร้อยบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากบรรดาผู้นำประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการเอเปก ที่ยกให้ไทยจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม โดยถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จปีหนึ่งของเอเปก ทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างศักดิ์ศรีให้ทัดเทียมกับอารยประเทศ

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ไม่เพียงความร่วมมือจากการประชุมเอเปกและการหารือแบบทวิภาคีกับชาติต่างๆ ที่จะส่งผลให้เกิดความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยและกลุ่มประเทศเอเปกเท่านั้น ที่เห็นผลได้ชัดและรวดเร็วที่สุด คือระหว่างการประชุมเอเปกและหลังการประชุมเอเปก มีกระแสตอบรับของผู้นำเอเปกที่มาเข้าร่วมการประชุม ไม่ว่าจะเป็นนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่โพสต์ข้อความถึงวัตถุประสงค์หลักของ APEC ยังคงเป็นการเสรีนิยม การลงทุน และการอํานวยความสะดวก เศรษฐกิจสีเขียวและดิจิทัล เป็นความหวังและศักยภาพที่ดีสําหรับความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังโพสต์ชื่นชมเมนูอาหารไทย ที่เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่มีความสร้างสรรค์และสวยงาม อีกทั้งนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ชื่นชอบซอฟต์เพาเวอร์ของไทย ทั้งศิลปะการต่อสู้ มวยไทย ที่ได้ไปชมการชกมวยที่เวทีราชดำเนิน เดินถนนเยาวราชสัมผัสอาหารริมทาง หรือสตรีทฟู้ด และเที่ยววัดโพธิ์ อีกทั้งเมื่อเดินทางกลับไปแล้ว ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังโพสต์ถึงวัดโพธิ์ว่า ฝรั่งเศสจะสนับสนุนการส่งเสริมและการอนุรักษ์ของวัดในนามของมิตรภาพยืนนานในประวัติศาสตร์ระหว่างฝรั่งเศสและไทย ที่เชื่อว่าพลังจากมิตรไมตรีของสองผู้นำจะส่งผลที่ดีในการเพิ่มโอกาสจำหน่ายสินค้าและส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยในอนาคต

“ที่สำคัญคือผลการสำรวจที่ออกมายังสะท้อนการรับรู้ของสาธารณะ ที่เชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นผลจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพของ พล.อ.ประยุทธ์” น.ส.ทิพานันระบุ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับผลดังกล่าว แสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนในประเทศเข้าใจดีว่าประเทศและประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรจากการประชุมเอเปก และภาคภูมิใจที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ขณะเดียวกันประชาชนยังให้ความมั่นใจในตัวนายกฯ ว่าสามารถทำงานเพื่อประเทศชาติ ประชาชน และยังนำพาประเทศเดินหน้าไปได้ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19

ขณะที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า เนื่องด้วยทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถ ในด้านศาสตร์แห่งแผ่นดินเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อพระราชทานต่อการปฏิบัติ ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยสํานึกในพระอัจฉริยภาพดังกล่าวข้างต้น สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในคราวประชุมครั้งที่ 10/2565 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศาสตร์แห่งแผ่นดินแด่ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทูลเกล้าฯ  ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ Doctor of Phylosophy (Knowledge of the Land for Sustainable Development) แด่เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของไทยด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง