เศรษฐายันชัด ไปแน่‘เพื่อไทย’ ชลน่านอ้าแขน

“เศรษฐา” ชัดเจนอยู่เพื่อไทย เหน็บนายกฯ ทำไทยไม่มีจุดยืนในเวทีโลก “ชลน่าน” อ้าแขนรับ แต่ยังกั๊กมานั่งแคนดิเดตหรือไม่ “บิ๊กป้อม” ฟิตลงกำแพงเพชรจันทร์นี้ “อนุสรณ์” หลอน “หมอระวี” ชงนิรโทษกรรมช่วงนี้มีเจตนาอะไร

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ในทวิตเตอร์ Srettha Thavisin @Thavisin ของนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์ภาพโปรไฟล์ พร้อมกับข้อความว่า “6-8 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของเราไม่ได้นำประเทศไทยไปมีจุดยืนในเวทีโลกเลย ผู้นำคนต่อไปผมว่าต้องกล้าที่จะเดินออกไปสู่เวทีโลก“

ทวีตดังกล่าวของนายเศรษฐาได้รับความสนใจ มีผู้กดไลก์และรีทวีตจำนวนมาก พร้อมข้อความแสดงความคิดเห็น  หนึ่งในผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นระบุว่า  "ถ้าท่านมาอยู่เพื่อไทย ผมเลือกเพื่อไทยครับ" ขณะที่นายเศรษฐาตอบกลับว่า "ผมอยู่เพื่อไทยครับ" 

มีรายงานว่า สำหรับนายเศรษฐา นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ผ่านมาได้เริ่มเปิดตัว ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ และเตรียมเปิดตัวในสังคมวงกว้างมากขึ้น โดยนายเศรษฐาจะเข้ามาเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นอกจากเรื่องวัยวุฒิแล้ว ยังมีแรงเสียดทานทางการเมือง ที่ยิ่งใกล้เลือกตั้งยิ่งจะถาโถมเข้ามายังพรรคและครอบครัว ทำให้ยังต้องประเมินสถานการณ์การเมืองเป็นระยะๆ

โดยนายทักษิณปล่อยให้ น.ส.แพทองธารตัดสินใจเองว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกคนของพรรคหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงหนึ่งในผู้นำหลักที่ทำหน้าที่ช่วยหาเสียง เพื่อพาพรรคเพื่อไทยนำไปสู่เป้าหมายตามที่คนในพรรคมุ่งหวัง ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายหรือแลนด์สไลด์เพียงเท่านั้น  

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนายเศรษฐาว่า เป็นเจตนารมณ์ของนายเศรษฐาที่แสดงออกเช่นนั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยยินดีต้อนรับ ส่วนจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการพิจารณาของพรรคต่อไป เรื่องนี้เราคงได้หารือกันในช่วงเวลาที่เหมาะสม

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังเปิดเผยถึงการประชุมพรรคเพื่อไทยในวันที่ 28 พ.ย. ว่า เดิมทีกำหนดไว้วันที่ 28 พ.ย. แต่มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงคือศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… จึงคิดว่าเราจะรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะจะมีผลต่อการนำไปสู่การเขียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค ต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ จะรอไปอีกนิด คาดว่าจะเป็นวันที่ 6 ธ.ค.

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า สำหรับวาระการประชุมเรื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค การเปลี่ยนแปลงตัว กรรมการบริหาร เปลี่ยนแปลงกรรมการสรรหาที่ต้องเลือกทดแทน และการประชุมใหญ่ทั่วไป รวมถึงมีการเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ของภาคต่างๆ แต่ยังคงประชุมที่พรรคเพื่อไทย 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก 2022 ในวันที่ 21 พ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กำแพงเพชร โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร่วมลงพื้นที่

โดยจุดแรก พล.อ.ประวิตรจะไปติดตามสถานการณ์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของ จ.กำแพงเพชร ที่โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา ที่ ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง พร้อมกล่าวมอบนโยบาย จากนั้นทำพิธีมอบสมุดประจำตัวให้แก่ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล กล่าวมอบนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.)

จากนั้น ช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรเดินทางไปยังวัดวังไร่มณีราษฎร์ ต.ลานดอกไม้ อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร เพื่อติดตามผลการดำเนินงานบริหารจัดการน้ำ ณ ฝ่ายชั่วคราวกันแม่น้ำปิง หนองวัวดำ หมู่ที่ 21 บ้านหนองบง ต.โกสัมพี อ.โกสัมนคร กล่าวมอบนโยบายและพบปะประชาชน ก่อนเดินทางกลับ กทม.

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องแล้วหลายจังหวัด อาทิ จ.ฉะเชิงเทรา กระบี่ ตาก นราธิวาส สกลนคร ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เพชรบูรณ์ ยะลา และปัตตานี

วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กำหนดเงื่อนไขไม่รวมไปถึงคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า สภาอยู่มา 4 ปี ใกล้จะครบวาระ นพ.ระวี มาเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในจังหวะเวลานี้ ไม่แน่ใจว่ามีเจตนาอย่างไร และจะทำสำเร็จหรือไม่ หรือก่อนหน้านี้ นพ.ระวีวุ่นวายอยู่กับสูตรหาร 100 หรือหาร 500 หารแบบไหนถึงจะได้ประโยชน์ จึงไม่สามารถให้ความเห็นในรายละเอียดได้มากนัก

นายอนุสรณ์ระบุว่า แต่ที่กังวลและเป็นประเด็นที่ต้องชี้แจงคือ มีความพยายามบิดเบือนว่า นพ.ชลน่านจะขอเพิ่มประเด็นนิรโทษกรรมคดีทุจริตจากเหตุการเมือง ขอยืนยันว่าไม่เคยมีการดำเนินการในเรื่องนี้แต่อย่างใด นพ.ชลน่านกล่าวเพียงแต่ว่า เป็นหน้าที่และอำนาจที่จะเสนอได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียง 20 คนเพื่อเสนอกฎหมาย ส่วนสภาจะพิจารณาอย่างไร ก็ต้องดูว่าเสียงข้างมากคิดกันอย่างไร ขณะที่เสียงข้างน้อยก็ต้องดูในรายละเอียดว่ามีประเด็นอะไร ครอบคลุมในเรื่องใด และเนื้อหาสาระเป็นอย่างไร

“ยืนยันว่าการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมไม่เกี่ยวกับการพานายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ หลักการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ รัฐธรรมนูญต้องเป็นประชาธิปไตย การแก้เมล็ดพันธุ์ความขัดแย้ง ต้องเริ่มที่รัฐธรรมนูญ” นายอนุสรณ์กล่าว

เมื่อวันศุกร์ ที่ชุมชนปากคลองอ่าวระวะ ต.แหลมกลัด อ.เมืองฯ จ.ตราด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมนายกิตติธัช ไชยอรรถ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตราด, นายบุญสนอง หิรัญรักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง, นายรักษา สุนินทบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี, นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ว่าที่ผู้มัคร ส.ส.สมุทรปราการร่วมพบปะพูดคุยพร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ และได้ลงเรือของชาวบ้านเพื่อเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่อ่าวระวะ

นายสนธิรัตน์กล่าวตอนหนึ่งว่า ยืนยัน จ.ตราดเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ อากาศดี อาหารการกินดี การเกษตร การประมงดี มีสถานที่ท่องเที่ยว หากพัฒนาอย่างเต็มที่ เชื่อว่ามนต์เสน่ห์ของ จ.ตราด จะได้รับความสนใจ ขณะที่การประมงถือเป็นหัวใจของพี่น้องที่นี่ แต่มีปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องกฎหมายและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ดังนั้นต้องแก้ปัญหาเหล่านี้เพื่อทำให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้น สอท.จะนำทุกปัญหาที่ได้รับฟังวันนี้เข้าสู่คณะกรรมการเพื่อกลั่นกรองให้เป็นนโยบายที่พร้อมแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ในทันที

ส่วนที่ จ.พังงา นายกฤษ ศรีฟ้า อดีต ส.ส.จังหวัดพังงา เขต 2 พรรคไทยรักไทย เมื่อ พ.ศ.2548 ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้ประกาศจัดกิจกรรม ก้าวเพื่อพังงา ออกวิ่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอคุระบุรี-อำเภอตะกั่วป่า-อำเภอกะปง และอำเภอท้ายเหมือง จำนวน 6,000 คน เพื่อเตรียมคืนสังเวียนการเมืองระดับชาติ ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดพังงา เขต 2 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย.