ประเดิมเอเปกแล้ว ผู้แทนเยาวชนฯเข้าพบ‘ประยุทธ์’/ตร.ขู่ม็อบป่วนเจอคุก

ประเดิมเอเปกแล้ว ผู้แทนเยาวชนเข้าพบ  “ประยุทธ์” มอบแถลงการณ์ ก่อนเดินสายชมนิทรรศการ  BCG ยกนิ้วโป้งบอกเวรี่กู้ดยอดเยี่ยม ปลุกคนไทยบอกเป็นสัปดาห์ประวัติศาสตร์ วอนร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างสยามเมืองยิ้มให้กลับมา รัฐบาลจัดเต็มการแสดง-อาหารช่วงกาลาดินเนอร์ เชิญ “เบิร์ด ธงไชย-บัวขาว บัญชาเมฆ” ด้าน "ประวิตร" เปิดกองอำนวยการร่วมดูแลจราจรความปลอดภัย “บิ๊กเด่น” ประกาศเอาจริงขู่คุกพวกป่วนงานเอเปก “สมคิด” แนะใช้เวทีประชุมทวงความเป็นผู้นำอาเซียน

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน ถือเป็นวันแรกในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก 2022) และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับฟังการบรรยายสรุปสำหรับเตรียมการจัดการประชุม ซึ่งนายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้เตรียมการอย่างเต็มที่มาตลอดปี และเชื่อมั่นว่าไทยจะประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพ เพื่อประโยชน์ของเขตเศรษฐกิจร่วมกัน รวมทั้งเชื่อว่าประเทศและประชาชนไทยจะได้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

ต่อมาในเวลา 11.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า  คณะผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปกในโครงการ  APEC Voices of the Future เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ เพื่อมอบแถลงการณ์เยาวชน  (Youth Declaration) โดยนายกฯ กล่าวต้อนรับคณะผู้แทนเยาวชน และระบุว่าพร้อมส่งเสริมมุมมองและการมีส่วนร่วมของเยาวชน  ในฐานะเสียงของอนาคต เสียงของคนรุ่นใหม่ เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ให้เติบโตอย่างสมดุลและคำนึงถึงอนาคตของคนรุ่นต่อไป

จากนั้นนายกฯ รับมอบแถลงการณ์เยาวชน ก่อนพาคณะผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจเอเปกเยี่ยมชมตึกและห้องสำคัญ สำหรับการพบหารือผู้นำต่างประเทศ ทั้งห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกภักดีบดินทร์ และสวนหน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมถ่ายภาพร่วมกันที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นนายกฯ ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพตัวแทนเยาวชนโดยไม่มีนายกฯ ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้นายกฯ มีความสุขมากหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "มีสิ มีทุกวัน"

ต่อมานายกฯ ได้สนทนาด้วยภาษาอังกฤษกับกลุ่มตัวแทนเยาวชนอย่างอารมณ์ดี โดยกล่าวว่า "แต๊งกิ้ว ขอบคุณ ขอให้เอนจอยแฮปปี้" นายกฯ ยังยกนิ้วโป้งสัญลักษณ์ยอดเยี่ยมและชูไอเลิฟยูพร้อมกล่าวว่า "รักกันไว้เถิด"

ต่อจากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าถึงความพร้อมจัดประชุมเอเปกว่า มีความพร้อมกว่า  90% เตรียมการมาเป็นเดือน ประชุมมาเป็นปี ยังไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนที่อยากฝากก็ได้ฝากไปแล้ว คือดูแลการประชุมให้เรียบร้อยละกัน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำอุปกรณ์และสุนัขตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบทำเนียบฯ และภายในอาคาร เพื่อตรวจสอบหาสิ่งผิดปกติ และวางมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้นำประเทศที่จะมาร่วมหารือเต็มคณะที่ทำเนียบฯ ในระหว่างการประชุมเอเปก วันที่ 16-18 พ.ย. โดยชุดคณะทำงานส่วนหน้าของแต่ละประเทศจะซักซ้อมใหญ่ขบวนรถเข้าออกภายในทำเนียบฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 6 สันติบาล 3 อีกครั้งในที่ 15 พ.ย.

ปลุก 'สยามเมืองยิ้ม'

ต่อมาในเวลา 14.00 น. ที่ฮอลล์ 2 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการนำเสนอความสำเร็จการขับเคลื่อนวาระเศรษฐกิจ BCG ในสัปดาห์การประชุมเอเปก โดยนายกฯ กล่าวเปิดงาน ก่อนเดินโบกมือทักทายผู้ร่วมงาน  พร้อมส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน ซึ่งหลังชมนิทรรศการ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นิทรรศการดี เวรี่กู้ด พร้อมยกนิ้วโป้ง และขอไปดูความพร้อมพื้นที่ห้องประชุมในงานประชุมเอเปก

ในเวลา 14.50 น. พล.อ.ประยุทธ์โพสต์เฟซบุ๊ก  "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha" ว่า  สัปดาห์นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ที่ไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่มีประชากรรวมกันเกือบ 3,000 ล้านคน หรือประมาณ 1  ใน 3 ของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของการค้าโลก ซึ่งจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม จากเวทีการประชุมผู้นำเอเปกครั้งนี้ รวมทั้งการประชุมที่เกี่ยวเนื่องและคู่ขนานกันอีกจำนวนมาก ตลอดทั้งปีที่ประเทศไทยของเราเป็นเจ้าภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ยังได้เล่าถึงภารกิจต้อนรับคณะผู้แทนเยาวชนเอเปกในช่วงเช้า ก่อนทิ้งท้ายว่าขอให้พี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันทำภารกิจสำคัญเพื่อบ้านเมือง โดยให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลกสู่บ้านเมืองเรา ด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิต ให้เกิดความประทับใจในความน่ารักของคนไทย จนเป็นที่กล่าวขานจากทุกคนที่ได้เคยมาเยือนสยามเมืองยิ้มแห่งนี้

ขณะที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม แถลงข่าวถึงสิ่งของที่ระลึกในการประชุมเอเปกว่า ได้รับโจทย์แนวคิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ว่าต้องใช้งานได้จริง เป็นงานฝีมือคนไทย ที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจต้องประทับใจ และต้องเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศโดยไม่ตั้งใจด้วย จนทำให้ได้ของที่ระลึกออกมา 7 ชิ้น คือ 1.ภาพดุลโลหะ จากชุมชนวัวลาย วัดศรีสุพรรณ จ.เชียงใหม่ 2.กล่องเครื่องประดับดุลโลหะ (สำหรับคู่สมรส) ลายชะลอมสัญลักษณ์การประชุมเอเปก ครั้งที่ 29 3.แอกเซสเซอรีบ็อกซ์  ประกอบด้วย เนกไท หน้ากากผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าคลุมไหล่  4.กรอบรูปถมเงิน พร้อมภาพพระราชทานของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกระหว่างการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5.กล่องอเนกประสงค์ลิเภาลายดอกไม้ บรรจุอยู่ในกล่องที่ทำจากผ้าไหมไทย 6.สมุดผ้าไหมไทย และ 7.เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ด้านหนึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้านหนึ่งของเหรียญเป็นรูปชะลอม สัญลักษณ์เอเปก

นายอิทธิพลกล่าวต่อว่า ในวันที่ 17 พ.ย. ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่หอประชุมกองทัพเรือ จะมีกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือด้านนอกจะมีการแสดงโขน  หนังใหญ่ การแสดงพื้นบ้าน การสาธิตทำขนมไทย และการละเล่น นอกจากนี้ยังจะประดับบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยกระทงขนาดใหญ่ เรือไฟ และกระทงสาย ทั้งนี้สำหรับการแสดงด้านในงานเลี้ยงถือเป็นไฮไลต์ โดยแบ่งออกเป็น 3  ส่วน ส่วนแรกเป็นการขับร้องและบรรเลงดนตรี ซึ่งได้เชิญนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายคนมาร่วมร้องเพลง ทั้งเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงไทย เพลงสากล อาทิ เบิร์ด-ธงไชย  แมคอินไตย์ และรัดเกล้า อามระดิษ เป็นต้น ส่วนที่สอง เป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากดีไซเนอร์ทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ และส่วนที่สามเป็นการแสดงทางวัฒนธรรม จากนั้นจบด้วยการลอยกระทง ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้เวลา 90 นาที เพื่อให้เป็นไปตามที่นายกฯ มอบแนวคิดให้ว่าจะต้องกระชับ

นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน  ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 16 พ.ย.จะเชิญบัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดังมาเวิร์กช็อปโชว์ไหว้ครู และท่าแม่ไม้มวยไทย เพื่อให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศได้รับชมด้วย

เปิดเมนู ‘กาลาดินเนอร์’

ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงเมนูอาหารอาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (กาลาดินเนอร์) ในวันที่ 17 พ.ย. ณ หอประชุมกองทัพเรือ ว่าเมนูอาหารทุกจานเป็นไปตามแนวคิดหลักของการประชุม Open.Connect.Balance. คือ Open เปิดประสบการณ์สู่อาหารไทย อาหารทุกจานเป็นอาหารเมนูฟิวชัน ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันผ่านความหลากหลาย Connect เชื่อมต่อท้องถิ่นไทยกับทั่วโลก โดยใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพ จากภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกฉียงเหนือ และไปจนถึงภาคใต้ และ Balance สร้างสมดุลระหว่างโลกและผู้คน ผ่านการนำวัตถุดิบมาจาก โครงการหลวง วิสาหกิจชุมชน และฟาร์มในท้องถิ่น

นายอนุชากล่าวว่า เมนูประกอบด้วย Amuse-Bouche (ของว่าง) กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียนโครงการหลวงดอยอินทนนท์ Appetizers (อาหารเรียกน้ำย่อย) Welcome  to Thailand ซึ่งนำเสนอของดี 4 ภาค ได้แก่ แอ่วเหนือ-ข้าวซอยหมี่กรอบไทยล้านนา, เที่ยวกลาง-ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา, ยามอีสาน-โคราชวากิว ย่างถ่านสมุนไพรจิ้มแจ่ว, ล่องใต้-ไก่เบตงย่างกอและ  Salad (สลัด) ยำใหญ่ผักออร์แกนิก 9 อย่างจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย กับไก่ออร์แกนิกและกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต พร้อมไข่เป็ดไล่ทุ่งสุพรรณบุรีดองดอกเกลือเพชรบุรี MAINCOURSE (อาหารจานหลัก) แกงมัสมั่นชาววังเนื้อน่องโคขุนจากสหกรณ์โพนยางคำสกลนคร และผักไทยรวมราตาตุย ปลาเก๋ามุกออร์แกนิกจากทะเลภูเก็ตพร้อมซอสต้มข่าเห็ดรวมโฟมใบมะกรูด  ข้าวหอมมะลิไทยจากทุ่งกุลาร้องไห้และข้าวกล้อง 9 ชนิด อบตะไคร้หอม

นายอนุชากล่าวว่า Dessert (ของหวาน) ขนมหม้อแกงเผือกภูเขาและเม็ดบัวซอสผลไม้ไทย เสิร์ฟพร้อมกับซอร์เบต์เสาวรส น้ำผึ้งดอกลำไย และขนม 5 อย่าง  (ดาราทอง, ช็อกโกแลตไทยเชียงใหม่ไส้บรั่นดีไทยกระชายดำ, ขนมมะลิไส้มะพร้าว, มาการองลิ้นจี่, ขนมเปียกปูนใบเตย ) และผลไม้ไทย เสิร์ฟคู่กับชาเฟลอ ดู นอร์ท จากเมืองเหนือ หรือยอดกาแฟเมืองน่าน

นายอนุชายังกล่าวอีกว่า รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้จัดกิจกรรม “VIJIT CHAO PHRAYA” ปรากฏการณ์แห่งแสงสีสุดยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ กทม.  และสร้างบรรยากาศและสีสันให้แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ และผู้เข้าร่วมการประชุมเอเปก โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-27 พ.ย. บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใน 6 พื้นที่หลัก ประกอบด้วย  สะพานพระราม 8, ป้อมวิไชยประสิทธิ์, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, สะพานพระพุทธยอดฟ้า, ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก และไอคอนสยาม

ขณะเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร เดินทางมาเป็นประธานเปิดกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรเพื่อเตรียมการจัดการประชุมเอเปก และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดย พล.อ.ประวิตรระบุช่วงหนึ่งว่า เราไม่ได้ทำงานให้กับใครคนใดคนหนึ่ง เราไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาล แต่เราทำเพื่อประเทศชาติ ให้กับคนไทยทุกคน ขอให้คนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมสังเกตการณ์หากมีเหตุใดเหตุหนึ่ง ขอให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบได้ที่สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชม. 

ขู่คุก! ม็อบป่วนเอเปก

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า กองอำนวยการจะประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวันในเวลา 09.00 น. ส่วนการบริหารจัดการดูแลการชุมนุม  นายกฯ ได้มีประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุมแล้ว ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่าย แม้การชุมนุมจะเป็นสิทธิกระทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิคนอื่น

“ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกราย และมีโทษหนักถึงจำคุก เราจะยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้ประเทศไม่ได้โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธี เป็นขั้นเป็นตอนตามระดับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวและว่า ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.จะมีการระดมกำลังตำรวจทั้งประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 35,000 นายเพื่อรองรับการประชุมครั้งนี้

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกและการประชุมที่เกี่ยวข้องในส่วนที่ กทม.รับผิดชอบว่า กทม.ตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพิธีการอำนวยการ ด้านรักษาความปลอดภัยและการจราจร และด้านประชาสัมพันธ์ ซึ่งปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นเกือบทั้งหมด โดย กทม.จะมีการตั้งวอร์รูม 2 แห่ง แห่งแรกอยู่ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า  และอีกแห่งหนึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

“สิ่งที่กังวลคือพื้นที่ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้  กทม.จัดพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน ยืนยันว่า กทม.จะเปิดพื้นที่เช่นเดิม และขอเรียนกับประชาชนว่าอย่ากังวล เพราะเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตยที่จะมีคนเห็นต่างบ้าง ปัจจุบันมีการขอใช้พื้นที่แล้ว 3 กลุ่ม ระหว่างวันที่  16-18 พ.ย.นี้ ได้แก่ กลุ่มของไผ่ ดาวดิน, กลุ่มทะลุฟ้า  และกลุ่มราษฎร โดยขอร้องว่าอย่าเคลื่อน ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้” นายชัชชาติกล่าว

ที่โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน สี่พระยา กรุงเทพฯ  นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย  (สอท.) กล่าวปาฐกถา “ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในบริบทโลกที่เปลี่ยนไป” โดยมีนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนและนักธุรกิจจีนเข้าร่วมรับฟังกว่า 200 คน โดยนายสมคิดกล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยต้องใช้เวทีประชุมเอเปกในการประกาศความเป็นผู้นำอาเซียน เพื่อให้ประเทศไทยยังอยู่ในสายตาของจีนที่เป็นประเทศมหาอำนาจโลก โดย กต.ต้องไปคิดข้อความให้นายกฯ ไทยพูดเพื่อให้เราไม่ตกรุ่น และชิงความเป็นผู้นำในอาเซียนกลับมา

“ทุกคนต้องละเลิกในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ หยุดใส่เสื้อเล่นกีฬาสีที่ทำมาตลอด 15 ปี จนกระทั่งประเทศเป็นแบบนี้แล้ว ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะช่วงเวลาอย่างนี้ถือว่ากำลังอยู่บนทางแยก ถ้าหากทำไม่ดีก็จะติดอยู่ในช่วงขาลง  และหลุดวงโคจรไปอยู่ดิวิชัน 2-3 แต่ถ้าหากทำดีก็ยังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาได้ ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ”  นายสมคิดกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี