อุ๊งอิ๊งค์แรง!คนภาคกลางหนุน

ซูเปอร์โพลส่องภาพจำแคนดิเดตนายกฯ "ประยุทธ์" เด่นด้านความสงบบ้านเมือง "อุ๊งอิ๊งค์" เป็นคนรุ่นใหม่ "นิด้าโพล" เผยคนภาคกลางหนุน "แพทองธาร" เป็นนายกฯ ตามด้วย "พิธา" และ "บิ๊กตู่" พร้อมเลือก พท.อันดับหนึ่ง “ธนกร” สวน “ชัยชนะ” ป้ายสีนายกฯ ทำของแพงแล้วใครที่นั่ง รมว.พาณิชย์ "สัณหพจน์" ฟาดหนักบางพรรคขายยาบ้ามาซื้อเสียงหัวละ 2-3 พันบาท โวหากเป็น รมต.จะกวาดที่นั่งส.ส.ภาคใต้ตอนบนให้ดู "จุรินทร์" แจงตระกูล "เสนพงศ์" ทิ้ง ปชป.เหตุ 1 เขตส่งผู้สมัคร 2 คนไม่ได้ "นิพนธ์" ปลอบอย่าตกใจ ดูอดีตทิ้ง ปชป.ไม่ได้กลับเข้าสภาสักคนเดียว

เมื่อวันอาทิตย์ นายนพดล กรรณิกา  ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ภาพจำแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,108 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน  2565 พบว่า 5 อันดับแรกภาพจำที่ประชาชนประทับใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แก่ อันดับแรก มีผลงานเด่น เช่น ความสงบบ้านเมือง แก้ปัญหาค้ามนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน (38.8%) รองลงมา ชัดเจน ปกป้องเสาหลักของชาติ (38.2%), สาม เปิดประเทศได้สำเร็จ (34.4%), สี่ มีความอดทน รับแบกภาระหนัก แก้วิกฤตประเทศรอบด้าน (33.8%), ห้า ซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน (33.5%)

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้แก่ อันดับแรกคือ เป็นคนรุ่นใหม่ (56.5%), สอง เป็นบุตรสาวของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร (56.5%), สาม เป็นผู้หญิง กล้าทำงานการเมือง (51.1%), สี่ รักษาฐานเดิมของพรรคเพื่อไทย (49.3%), ห้า สุภาพ อ่อนน้อม เรียบง่าย พูดจาดี (47.1%)

นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีผลงานแก้วิกฤตโควิด นานาประเทศยอมรับ ยกย่องประเทศไทย (44.8%), สองคือ จิตใจดี มีน้ำใจช่วยเหลือชีวิตประชาชน กับภารกิจส่งหัวใจ อวัยวะผู้ป่วย (38.5%), สาม มีความรู้ความสามารถ  การศึกษาดี (31.4%), สี่ คือกล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง (30.5%) และห้า เป็นคนทำงานจริง (30.2%)

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ชัดเจน จงรักภักดี ปกป้องเสาหลักของชาติ ต่อต้านยกเลิก 112 (42.7%), สอง มีวิสัยทัศน์เศรษฐกิจโลก นโยบายเศรษฐกิจทันสมัย แก้ปัญหาปากท้อง (39.5%), สาม สุภาพ พูดจาดี ไม่ดุดัน (38.8%), สี่ใกล้ชิด ได้รับการสนับสนุนจากนายชวน หลีกภัย (37.9%), ห้า เป็นกันเอง ชาวบ้านเข้าถึงง่าย ไม่เรื่องมาก (38.8%)

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นคนรุ่นใหม่ (48.6%), สอง กล้าเปลี่ยนแปลง (46.0%), สาม มีการศึกษาดี (43.7%), สี่ มีความสามารถ (41.8%) และห้า  เป็นคนทำงาน (41.3%)

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีได้ดีช่วง พล.อ.ประยุทธ์ถูกศาลสั่งพักงาน (48.2%), สอง มีผลงานแก้ค้ามนุษย์ หนี้นอกระบบ แก้ภัยแล้ง (41.2%), สาม มีเครือข่ายกว้างไกล มีบารมีจัดการกลุ่มอิทธิพล (40.3%), สี่ ชัดเจน ปกป้องเสาหลักของชาติ (37.6%), ห้า มีประสบการณ์ จัดการการเมืองและระบบราชการ (37.4%)

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนภาคกลาง” สำรวจระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคกลาง รวมทั้งสิ้น 2,002 หน่วยตัวอย่าง

ภาคกลางหนุน'อุ๊งอิ๊งค์'นายกฯ

เมื่อถามถึงบุคคลที่คนภาคกลางจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้  พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 24.18 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่าศรัทธาในตระกูลชินวัตร, อันดับ 2 ร้อยละ 16.73 ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ ขณะที่บางส่วนระบุว่าชื่นชอบอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล, อันดับ 3    ร้อยละ 16.23 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบผลงานของรัฐบาลในปัจจุบัน และทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ, อันดับ 4 ร้อยละ 13.54 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ 5 ร้อยละ 7.04 ระบุว่าเป็น   พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย), อันดับ 6 ร้อยละ 6.19 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย), อันดับ 7 ร้อยละ 3.10 นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า), อันดับ 8 ร้อยละ 2.05 นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), อันดับ 9 ร้อยละ 1.80 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ, อันดับ 10 ร้อยละ 1.60 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา), อันดับ 11 ร้อยละ 1.50 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย), อันดับ 12 ร้อยละ 1.35 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (พรรคสร้างอนาคตไทย), อันดับ 13 ร้อยละ 1.30 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์)

ด้านพรรคการเมืองที่คนภาคกลางมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.57 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย, อันดับ 2 ร้อยละ 19.83 พรรคก้าวไกล, อันดับ 3 ร้อยละ 14.28 ยังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 4 ร้อยละ 10.49 พรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 5 ร้อยละ 7.14 พรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 3.69 พรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 3.10 พรรคชาติไทยพัฒนา, อันดับ 8 ร้อยละ 2.65 พรรคภูมิใจไทย, อันดับ 9 ร้อยละ 2.40 พรรคไทยสร้างไทย, อันดับ 10 ร้อยละ 1.15 พรรคชาติพัฒนากล้า และร้อยละ 2.70 ระบุอื่นๆ

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวระหว่างการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราชของ ปชป.ช่วงหนึ่ง โดยเรียกร้องให้คนนครศรีธรรมราชรวมพลังหยุดพรรคเผด็จการให้ได้ รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยให้สินค้าแพงทั้งแผ่นดินว่า เมื่อนายชัยชนะกล่าวถึงอดีต ส.ส.ของ ปชป.ที่ย้ายพรรคไปว่าควรบอกเหตุผลและข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่พูดจาในลักษณะให้ร้ายบ้านเก่าเพื่อเอาใจบ้านใหม่นั้น เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ควรให้ร้ายพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นมารยาททางการเมือง ไม่ใช่พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น คนนครศรีฯ หลายคนฝากชื่นชมท่านนายกฯ ผ่านตนมา  เพราะถ้ายังป้ายสีพรรคอื่นอยู่แบบนี้  เลือกตั้งสมัยหน้าอาจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเหลือ ส.ส.นครศรีธรรมราชไม่กี่คนเพราะปากก็เป็นได้

บางพรรคขายยาบ้าซื้อเสียง

 “ถ้าผมพูดบ้างว่าที่ของแพงทั้งแผ่นดินนั้นแล้วใครที่เป็น รมว.พาณิชย์ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง และน้องชายใครที่กำลังจะลงสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราชในนาม ปชป. ก็ยังเป็นที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ด้วย 2 แรงแข็งขันขนาดนี้ แต่ทำไมข้าวของยังแพง เคยมี ส.ส.ยกจังหวัด มีรัฐมนตรีหลายคน แต่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย คุณชัยชนะจะรู้สึกอย่างไร ที่สำคัญของแพงก็รู้กันอยู่ว่าเกิดจากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 สงครามรัฐเซีย-ยูเครน ซึ่งรัฐบาลก็แก้ปัญหาตลอด” นายธนกรกล่าว

ที่ร้านอาหารบ้านสวนการะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 2 พรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ปชป.เปิดตัว 8 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช และประกาศว่าจะกวาดที่นั่ง ส.ส.ยกจังหวัดนครศรีธรรมราชหมดทั้ง 9 เขตว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาและไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลย เพราะเขาประกาศมาอย่างนี้ตั้งนานแล้วที่จะกวาดให้หมดทั้งจังหวัด ซึ่งความจริงแล้วประชาชนไม่ใช่ขยะ เราต้องให้เกียรติพี่น้องประชาชน ในส่วนของ พปชร.เอง หัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านก็มีความหนักแน่นที่จะทำงานในพื้นที่ และจะเป็นรัฐบาลอีกในครั้งถัดไป หากครั้งต่อไปมีการปรับ ครม.ใหม่ ตนได้เป็นรัฐมนตรี จะกวาดที่นั่ง ส.ส.นครศรีธรรมราชให้หมดทั้งจังหวัดให้ดู คอยดู และกวาดที่นั่งของ ส.ส.ในภาคใต้ตอนบนให้ดู และจากพรรคเดิมที่สร้างความผิดหวังให้กับชาวภาคใต้มายาวนาน จะให้เหลือไม่ถึงครึ่งกับที่มีอยู่

"ส.ส. 4 คนของพรรค พปชร.นครศรีธรรมราช ขอยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปไหนแน่นอนตามข่าวลือแต่อย่างใด เพราะวันนั้นผมเกิดมาจากพรรค พปชร. ผมก็ต้องอยู่พรรค พปชร.ต่อไป ทราบข่าวมาว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคในภาคใต้เอาเงินจากการขายยาบ้ามาซื้อประชาชนในภาคใต้หัวละ 2,000-3,000 ต่อหัว ขอให้พี่น้องประชาชนชาวภาคใต้เฝ้าจับตาดูให้ดี อย่าไปเลือกพรรคที่ซื้อเสียงหัวละ 2,000 บาท เพราะเป็นเงินจากการขายยาบ้าแน่นอน ซึ่งผลกระทบจะตกกับลูกหลานของเราเอง แล้วจะไปโทษใคร" นายสัณหพจน์กล่าว

ที่ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้า ปชป. ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พังงา ว่า พร้อมแล้ว เพราะได้ตัวผู้สมัครแล้ว รอแค่การเปิดตัว สำหรับภาคใต้ก็จะทยอยเปิดตัว

เมื่อถามว่า ในวันที่ 13 พ.ย. ตระกูลเสนพงศ์ลาออกจาก ปชป.ยกตระกูล โดยระบุว่าเขาไม่ได้ทิ้งพรรค แต่พรรคทิ้งเขา นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มีใครทิ้งใคร เพียงแต่พรรคก็ต้องพิจารณาไปตามความเหมาะสม มีขั้นตอนกระบวนการในการพิจารณา ขอเรียนว่าพรรคให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค แต่ 1 เขตมีผู้แทนฯ ได้ 1 คน จะส่ง 2 คนก็ไม่ได้  ยกเว้นสนใจจะไปลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ถ้าไม่ลงบัญชีรายชื่อพรรคก็ไม่มีทางออก ซึ่งทุกพรรคก็ส่งผู้สมัครได้เขตละ 1 คนเหมือนกัน

นายจุรินทร์กล่าวว่า หลังเอเปกไปอีกเดือน สถานการณ์ทางการเมืองในเรื่องการเลือกตั้งก็จะมีความเข้มข้นขึ้น ทุกพรรคการเมืองก็ต้องลงพื้นที่หาเสียงมากขึ้น และการโยกย้ายของทุกพรรคการเมืองก็จะมีมากขึ้น ผู้บริหารพรรค คุยกันตลอด และเราก็ทำงานไปด้วยกันด้วยดี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ส.ส.ทิ้ง ปชป.ไม่ได้กลับสภา

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าปชป. และ ผอ.เลือกตั้งพรรคฯ กล่าวว่า ตนได้ประชุมกับผู้สมัคร ส.ส. 4 จังหวัดชยแดนภาคใต้คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล วันนี้ถือว่าทั้ง 14 เขต พรรคมีสมัครครบทั้งหมดแล้ว และในวันที่ 20 พ.ย.นี้ นายจุรินทร์จะไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 14 เขตที่ จ.ยะลา จากที่เดินในพื้นที่มา 3-4 เดือน พบว่ากระแสตอบรับดีตามลำดับ จึงมีความมั่นใจมากขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถเอาที่นั่งกลับคืนมาได้

นายนิพนธ์ยังกล่าวถึงข่าวสมาชิกเตรียมลาออกจำนวนมาก อาจทำให้ภายในพรรคเกิดความระส่ำระสายและเสียขวัญว่า ที่จริงกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และผู้ใหญ่ในพรรครู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว ถ้าพูดไปก็เหมือนขับไสไล่ส่ง ก็พูดไม่ได้ ต้องรอให้แต่ละคนแสดงตัวและตัดสินใจอนาคตของตัวเอง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตก็มีคนออกจาก ปชป. โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งเราไม่เคยเห็นใครได้กลับมาในสภาได้เลยสักคน ดังนั้นบทเรียนเหล่านี้หวังว่าจะได้ไตร่ตรองกัน วันนี้อย่าตกใจ เพราะเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาของการเมือง เป้าที่ ปชป.ตั้งไว้จะได้ ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้ารวม 70-80 ที่นั่ง เรายังมีความมั่นใจอยู่ โดย ส.ส.บัญชีรายชื่อน่าจะได้ 15-18 ที่นั่ง

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการ ปชป. เปิดเผยถึงกระแสข่าวจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย หรือพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัคร ส.ส.ในนาม ปชป. เพราะเติบโตมากับพรรคนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ พรรคก็ให้โอกาสในการทำงาน และทุกวันนี้ตนยังช่วยงานนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคอยู่ด้วย

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการประชุมพรรคในวันที่ 28 พ.ย.65 เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างพรรค มีนัยอะไรหรือไม่ว่า ไม่มีอะไร เป็นเพียงว่าเมื่อจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เราต้องปรับทัพให้เหมาะสมกับสถานการณ์การเลือกตั้ง คนที่เป็น ส.ส.เขตอยู่ เวลาเขาอาจจะน้อย จะไม่มีเวลาให้กับพรรค เขาต้องทำพื้นที่ ฉะนั้นต้องเอาคนที่มีเวลาเต็มที่มาทำในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น

เมื่อถามว่า มีการมองว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้ เป็นการประเมินความพร้อมหาก พท.โดนยุบ นายสุทินกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เกี่ยวกับเรื่องแค่ว่าใครจะมีเวลาทุ่มเทมากที่สุดในช่วงเลือกตั้ง เพราะบางคนที่เป็น ส.ส.เขต เขาไม่มีเวลาจริงๆ.