เกาเหลา‘กัญชา’ยังเดือด ปชป.เสวนาสับ‘ภท.’โต้ดุ

เพื่อไทยอ้างช่วงเวลาไม่เหมาะสม! เลื่อนอภิปรายตามมาตรา 152 ไปหลังปีใหม่ หมอระวียังเดินหน้าเรื่องนิรโทษกรรม เตรียมเดินสายพบ “ชลน่าน-วิษณุ” กัญชายังระอุ อนุทินวอนลดอคติ ลั่นหากกฎหมายถูกตีตกสมัยหน้าเสนอใหม่ “ปชป.” จัดเวทีอัดเละกัญชาเสรี “ศุภชัย” เดือดซัดชงเองด่าเองน่าอับอาย

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนยื่นเสนอญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่าเป็นการเลื่อนตามสถานการณ์ เพราะได้วิเคราะห์ว่าช่วงเวลาต่อจากนี้ไปเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ และวาระเรื่องอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเยอะอยู่แล้ว และจะไปชนกับการประชุมเอเปก จึงคิดว่าหลังปีใหม่น่าจะเหมาะที่สุด รวมถึงหลายคนก็วิเคราะห์ว่าอายุสภาก็น่าจะยังอยู่ถึงตอนนั้นอยู่

ถามว่า เบื้องต้นพรรคได้พูดคุยกันแล้วหรือไม่ว่าจะเน้นอภิปรายเรื่องอะไรเป็นพิเศษ นายสุทินกล่าวว่า ตอนนี้ที่พรรคได้พูดคุยกันก็จะมีเรื่องของการเก็บตกนโยบายและมาตรการสำคัญๆ ที่รัฐบาลไม่ทำ หรือทำแล้วล้มเหลว เพื่อที่จะได้เสนอแนะให้รัฐบาลได้เร่งแก้ตัว หรือแก้ไขปัญหาในช่วงเวลาที่เหลือ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ

ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมสู่สังคมว่า มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมากมาย โดยพรรค พท.มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายสุทิน คลังแสง ออกมาแสดงความคิดเห็นที่เห็นด้วย ในสัปดาห์หน้าจึงจะไปปรึกษากับทั้ง 2 ท่านเพื่อหารือในรายละเอียดต่อไป ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนว่ายังไม่เข็ดอีกหรือ คาดว่านายวิษณุยังไม่ได้อ่านหลักการและเหตุผล จึงกลัวว่าจะมีการแปรญัตติในรูปแบบนิรโทษกรรมสุดซอยอีก แต่ถ้าได้อ่านร่างที่เสนอแล้วท่านน่าจะสนับสนุน

 “ถ้ารัฐบาลผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมครั้งนี้ จะเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุดว่ารัฐบาลจริงใจต่อประชาชน ให้เห็นว่ารักสงบ จบที่ลุงตู่ โดยสัปดาห์หน้าผมจะขอไปหารือกับรองฯ วิษณุเพื่อขอข้อเสนอแนะต่อไป” นพ.ระวีกล่าว

วันเดียวกัน ยังคงมีความต่อเนื่องในความขัดแย้งเรื่องกัญชา โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นคำร้องเพื่อถอนประกาศถอดกัญชาจากความเป็นยาเสพติดว่า ถ้าไม่อคติ   ถ้าศึกษาจริงๆ อย่าลืมว่ากัญชาเป็นพืช เป็นสมุนไพร เราใช้ดีๆ ก็เป็นประโยชน์ได้ และในเมื่อเรารู้แล้วว่าประโยชน์มันมี และโทษมันควบคุมได้ ทำไมเราไม่เอามันคืนให้คนไทยได้ใช้งาน คิดแค่นี้ ประโยชน์มีมากเหนือโทษ

 “โลกนี้ไม่มีอะไรคุมได้ 100% แต่ในการบริหารบ้านเมือง เราต้องชั่งน้ำหนัก อันนี้สำคัญมาก ไม่งั้นไม่ต้องทำอะไรกันเลย ขับรถก็ไม่ได้เดี๋ยวรถชน นักบริหารต้องมีเกณฑ์ในการตัดสินใจกับทุกนโยบาย เกณฑ์นั้นคืออะไร คือชั่งน้ำหนัก ประโยชน์มีแค่ไหน โทษมีแค่ไหน ถ้าประโยชน์เหนือโทษแล้วจะจำกัดความเสี่ยงยังไง การจำกัดความเสี่ยงไม่ได้แปลว่าความเสี่ยงเป็นศูนย์ ถ้าจะให้เป็นศูนย์คือห้ามขับรถ แต่จำกัดความเสี่ยงคือสร้างกฎ จำกัดความเร็ว จำกัดอายุความสามารถผู้ขับขี่ แล้วมีตำรวจจราจร เป็นแบบนี้ มนุษย์เราจึงก้าวหน้าไปได้ทุกวัน” นายอนุทินระบุ

เมื่อถามว่า คิดว่าทำไมจึงยังมีคนต้านถึงขั้นจะคว่ำ พ.ร.บ.กัญชาฯ เสนอให้เอากลับไปเป็นยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า ยังงงเหมือนกัน แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าพรรคการเมืองทุกพรรคไม่กล้าพูดสักพรรคว่าไม่เอากัญชาเลย พรรคการเมืองล้วนสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ เพราะกลัวเสียคะแนน แต่พอจะทำกฎหมายให้ควบคุมกัญชากลับออกมาต้าน ย้อนแย้งหรือไม่

 เมื่อถามว่า คิดว่าสุดท้าย พ.ร.บ.กัญชาฯ จะผ่านหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่คิด คือไม่คิดเลยว่าจะผ่าน-ไม่ผ่าน เราทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว วันนี้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ สมุนไพร คืนกัญชาให้ประชาชนแล้ว ออกกฎกำกับดูแลเท่าที่ขอบเขตอำนาจจะทำได้แล้ว ถ้าสุดท้ายสภาไม่เอาสิ่งที่ร่วมกันสร้างมาไม่เป็นไร สมัยหน้าเสนอใหม่

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้จัดเสวนาพิเศษเรื่อง “ร่างกฎหมายกัญชา เพื่อกัญชาทางการแพทย์ หรือเพื่อกัญชาเสรี?” โดย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรค ปชป. กล่าวว่า ปชป.รับทราบนโยบายกัญชาทางการแพทย์มาตั้งแต่ปี 2562 แต่หลังปลดแล้วเห็นพิษภัยมากขึ้น จึงแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับกัญชาเพื่อการพี้ หรือกัญชาเสรีที่ใช้สันทนาการ แต่พอ ปชป.ออกมาแสดงจุดยืนกลับโดนสึนามิ และถูกตั้งคำถามว่ารับงานใครมา ยืนยันว่ารับงานประชาชนมา

“จะขออภิปรายทุกมาตราที่เป็นกัญชาเพื่อนันทนาการ เพื่อการพี้ ส่วนสภาจะเห็นชอบ จะชนะหรือไม่ชนะ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เคารพการตัดสินใจ” นพ.บัญญัติกล่าว และว่า หากผ่านก็ไปสู้ที่วุฒิสภาอีก แต่ถ้าตก จะโทษ ปชป.ไม่ได้ เพราะผู้กำหนดนโยบาย ผู้ยกร่างบอกว่าถ้าไม่ผ่านโทษ ปชป. โทษว่าพิษภัยในสังคม เพราะ ปชป.ไปคัดค้านกฎหมาย ซึ่งไม่จริง

น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. กล่าวว่า มีการศึกษาพบกัญชาตอบโจทย์ส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจฐานรากแต่น้อย เพราะต้นทุนทำไม่ได้จริง ดังนั้นจึงเป็นแค่ของกลุ่มทุนใหญ่ ขณะที่ศาสนาเช่นอิสลามก็ออกประกาศชัดว่ากัญชาไม่ถือเป็นฮาลาล ยกเว้นกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น  แต่ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ล่าสุดกลับให้ปลูก 15 ต้น ซึ่งตอบคำถามไม่ได้เลยว่าเพื่อการแพทย์อย่างไร ปกป้องเด็กในพื้นที่อย่างไร

นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า การประกาศคุมช่อดอกค่อนข้างผิดเพี้ยน โดยหลักของสมุนไพรควบคุม ต้องคุมทั้งต้น คือต้นกัญชา ไม่ได้คุมเฉพาะช่อดอก เพราะถ้าคุมเฉพาะช่อดอก แล้วส่วนอื่นซึ่งมีสารทีเอชซี (THC) อยู่ก็สามารถเกิดฤทธิ์ต่อจิตประสาทได้  ดังนั้นเนื้อหาประกาศที่ออกใหม่มีลักษณะเอื้อให้ใช้เพื่อสันทนาการ

ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการรวบรวมรายชื่อผู้ที่จะร่วมกันค้านผ่านเว็บไซต์ CHANGE ได้ 1.8 หมื่นคน รายชื่อแพทย์ 1,600 คนที่ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรี

ศ.นพ.มานิต ศรีสุรภานนท์ ประธานราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย  คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า ยืนยันไม่เห็นด้วยกับนันทนาการ ไม่มีแม้แต่ประเทศเดียวในเอเชียยอมรับ เพราะการใช้ชีวิตต่างจากตะวันตก

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. กล่าวว่า ปชป.ตั้งธงจะไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะหวังผลทางการเมือง เห็นได้จากการไม่เชิญคณะ กมธ.หรือประชาชนผู้เกี่ยวข้อง แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน ไปให้ข้อมูลบนเวทีเสวนาแม้แต่คนเดียว เป็นเจตนาที่จะพูดข้างเดียว ขัดหลักการเวทีสัมมนาที่ปัญญาชนกระทำกัน พูดถามเอง ตอบกันเอง สติปัญญาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

“จัดเวทีพูดฝ่ายเดียวแบบนี้ จึงได้ข้อมูลไปอย่างผิดๆ ไหนว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภา หรือเป็นแค่ลมปากหลอกตัวเอง ยืนยันว่าสิ่งที่นำเสนอในการควบคุมการใช้กัญชา มีโทษที่ไม่ต่ำกว่ากฎหมาย เหล้า เบียร์ บุหรี่ มาเป็นฐานพิจารณา การนำเสนอไม่ครบถ้วนแบบนี้  ใช้ถ้อยคำหยาบคายแบบนี้ บิดเบือน แบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ช่างน่าอับอาย  พรรคประชาธิปัตย์ต้องทบทวนตัวเอง ไม่ควรนำเรื่องที่อยู่ในสภามาเล่นการเมืองนอกสภา” นายศุภชัยกล่าว

 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกรณีประกาศ สธ.ควบคุมช่อดอกกัญชาว่า เป็นการกระทำแบบลูบหน้าปะจมูกซ้ำๆ และขอเรียกร้องให้คนของพรรคภูมิใจไทย หรือใครก็ตามที่สนับสนุนกัญชาเสรี หยุดพฤติกรรมพูดจาในลักษณะด้อยค่า ผศ.นพ.สมิทธิ์ ที่มาร่วมกับฝ่ายค้านยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 เพื่อให้กัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กมธ.คุ้มครองผู้บริโภครับลูกเร่งผลักดัน 3 กม.ของภาคประชาชน

'กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค' รับหนังสือแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ เร่งสภาผลักดัน แก้ปัญหาสินค้าไม่ตรงปก - ติดฉลาก -ให้ข้อมูลโภชนาการไม่สมบูรณ์